ไทยพาณิชย์ปรับองค์กร เฉือนกำไร 15% ลอตแรกจำนวน 6,500 ล้าน เร่งเพิ่มศักยภาพพนักงาน-ระบบเทคโนโลยี เน้นเติบโตยั่งยืน
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการปรับแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นการสร้างกำไรสูงสุด ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับกับสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธนาคารในอนาคต
โดยในปีนี้ธนาคารจะจัดสรรงบลงทุนในสัดส่วน 15%ของกำไรสุทธิหรือประมาณ 6,500 ล้านบาทจากเดิมที่ใช่ประมาณ 6-7% เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับงานด้านต่างๆ รวมถึงดิจิตอลแบงกิ้งของธนาคารในระยะต่อไป ขณะเดียวกันก็จะต้องดูแลในส่วนของพนักงานให้สามารถปรับตัวรองรับระบบที่เปลี่ยนไปของธนาคารที่จะต้องปรับรูปแบบของสาขาให้รับแนวทางที่จะเน้นด้าน wealth management และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นบริการกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ระบบดิจิตอลมากขึ้น และในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 3,000 ราย ใน 2-3 ปี จากเดิมที่มีอยู่ 1,000ราย
ทั้งนี้ ส่วนของเทคโนโลยีที่จะเร่งทำในขณะนี้เป็นส่วนของ Big Data ที่จะเป็นฐานข้อมูลหลักในการวิเคราะห์และดูแลลูกค้าเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและคล่องตัวในขั้นตอนต่างๆมากขึ้น รวมถึง ระบบ Mobile Banking ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาดิจิตอลแบงกกิ้งต่อไป ซึ่งส่วนนี้น่าจะจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกปีหน้า
"เราไม่ใช่จะไม่สนใจเรื่องผลกำไรแต่จะต้องมีการบาลานซ์ระหว่างการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพในระยะยาวกับผลกำไรของผู้ถือหุ้น เพื่อให้ธนาคารเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการลงทุนนั้นในเบื้องต้นก็จะแบ่งในสัดส่วน 15%ของกำไรในปีแรกแล้วก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆไปซึ่งเราคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี"
นายอาทิตย์กล่าวอีกว่า ถ้าเรามีพนักงานที่พร้อมเทคโนโลยีที่พร้อม การทำงานในขั้นตอนต่างๆก็คล่องตัวขึ้น สามารถมีผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาและมีช่องทางในการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่เราจะแบ่งกลุ่มได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันธนาคารแบ่งลูกค้าเป็น 6 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม MASS กลุ่ม wealth กลุ่มเอสเอ็มอีรายเล็ก กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลาง กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และกลุ่ม มัลติคอร์เปอเรท โดยมีแนวคิดหลักที่จะเป็น Most admire bank ของลูกค้า.
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการปรับแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นการสร้างกำไรสูงสุด ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับกับสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธนาคารในอนาคต
โดยในปีนี้ธนาคารจะจัดสรรงบลงทุนในสัดส่วน 15%ของกำไรสุทธิหรือประมาณ 6,500 ล้านบาทจากเดิมที่ใช่ประมาณ 6-7% เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับงานด้านต่างๆ รวมถึงดิจิตอลแบงกิ้งของธนาคารในระยะต่อไป ขณะเดียวกันก็จะต้องดูแลในส่วนของพนักงานให้สามารถปรับตัวรองรับระบบที่เปลี่ยนไปของธนาคารที่จะต้องปรับรูปแบบของสาขาให้รับแนวทางที่จะเน้นด้าน wealth management และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นบริการกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ระบบดิจิตอลมากขึ้น และในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 3,000 ราย ใน 2-3 ปี จากเดิมที่มีอยู่ 1,000ราย
ทั้งนี้ ส่วนของเทคโนโลยีที่จะเร่งทำในขณะนี้เป็นส่วนของ Big Data ที่จะเป็นฐานข้อมูลหลักในการวิเคราะห์และดูแลลูกค้าเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและคล่องตัวในขั้นตอนต่างๆมากขึ้น รวมถึง ระบบ Mobile Banking ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาดิจิตอลแบงกกิ้งต่อไป ซึ่งส่วนนี้น่าจะจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกปีหน้า
"เราไม่ใช่จะไม่สนใจเรื่องผลกำไรแต่จะต้องมีการบาลานซ์ระหว่างการลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพในระยะยาวกับผลกำไรของผู้ถือหุ้น เพื่อให้ธนาคารเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการลงทุนนั้นในเบื้องต้นก็จะแบ่งในสัดส่วน 15%ของกำไรในปีแรกแล้วก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆไปซึ่งเราคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี"
นายอาทิตย์กล่าวอีกว่า ถ้าเรามีพนักงานที่พร้อมเทคโนโลยีที่พร้อม การทำงานในขั้นตอนต่างๆก็คล่องตัวขึ้น สามารถมีผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาและมีช่องทางในการตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่เราจะแบ่งกลุ่มได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันธนาคารแบ่งลูกค้าเป็น 6 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม MASS กลุ่ม wealth กลุ่มเอสเอ็มอีรายเล็ก กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลาง กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และกลุ่ม มัลติคอร์เปอเรท โดยมีแนวคิดหลักที่จะเป็น Most admire bank ของลูกค้า.
