ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
อืมม์...รัฐบาลคุณท่านเริ่มฉายแววใส่ใจประเด็นและพิธีกรรม ขั้นตอนปฏิบัติของกฎหมายเพื่อสะสางให้ดูดีมีความทันสมัยกับสถานการณ์ ไม่ต้องเป็นเชิงสากล ขอเพียงให้ความเป็นธรรมและเที่ยงธรรม สังคมชาวบ้านจะเป็นปกติสุขมากกว่านี้ในด้านการชดใช้และชดเชย
นั่นคือ ครม. ผ่านร่างกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ห้ามจำเลยต้องโทษในศาลชั้นต้นแล้วทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหนอ้างว่าปลีกวิเวกนั่งกรรมฐาน แต่ยื่นคำร้องขออุทธรณ์โดยเจ้าตัวอยู่ที่ไหนทนายไม่รู้แหล่ง ใช้การอุทธรณ์ยื้อเวลาแต่ขออยู่ห่างคุกไว้ก่อน
ถ้าเจ็บป่วย พิสูจน์ความจริง มีตัวตน สมควรได้รับการยกเว้น ให้ทนายยื่นอุทธรณ์ได้
ถ้าร่างกฎหมายผ่านตลอด ศาลจะไม่รับคำอุทธรณ์ ซึ่งดูดี เป็นธรรม อีกประเด็นคือการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ที่ผ่านมาพวกจำเลยเจ้าเล่ห์หนีการจับกุม ไม่มาศาล ศาลไม่สามารถไต่สวนได้ ต้องพักคดี รอให้ตำรวจ อัยการเอาตัวมาก่อน ทำให้คดีค้างศาลเยอะ
ภายไต้เงื่อนไขใหม่ จำเลยไม่มาก็ว่ากันไปต่อ ยิ่งไม่มาแก้ตัวลบล้างข้อกล่าวหาคือว่าแสดงอาการพิรุธ กรณีท่านเหลี่ยมผู้ชำนาญการหนีคุก หนีหมายจับ เร่ร่อนร่าเริงอยู่ต่างประเทศ มีคดีค้างคาศาลอย่างน้อย 6 เรื่องเกี่ยวโยงกับการโกง ทุจริต ประพฤติมิชอบ
อันที่จริงการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้น่าจะรวมไปถึงการฟ้องร้องด้วย ท่านเหลี่ยมหนีคดี ไม่ยอมรับคำพิพากษาและหมายจับ อ้างว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ชอบแต่งตั้งทนายให้ฟ้องคนนั้นคนนี้ในข้อหาหมิ่นประมาท เจ้าตัวไม่ยอมมาให้ทนายจำเลยได้ซักค้าน
ใช้ทนายฟ้องคนอื่น ตีกินแบบนี้เป็นประจำ แต่เวลาจะขอซักค้าน ก็ไม่มาปรากฏตัว เอาเปรียบผู้อื่น ความไม่เป็นธรรมเช่นนี้ต้องแก้กฎหมายห้ามรับคำฟ้อง เว้นแต่โจทย์จะมาร่วมไต่สวนมูลฟ้องด้วย ทนายผู้รับมอบอำนาจจากท่านเหลี่ยมหนีคุกต้องชี้แจงด้วยนะ
เช่นทนายไปรับหนังสือมอบอำนาจกันที่ไหน มีหน่วยงานใดเช่นสถานทูต หรือ Notary Public ในต่างประเทศรับรองความมีตัวตนอยู่จริง (Proof of Life) ของโจทย์ คือท่านเหลี่ยมนักฟ้อง และต้องตอบให้ได้ว่าไปพบคนหนีคุกแล้วทำไมไม่แจ้งต่อทางการ
ที่ผ่านมาน่าสงสัยหรือเชื่อได้เลยว่าท่านเหลี่ยมได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจไว้เป็นปึกๆ มีอารมณ์อยากฟ้องใครก็สั่งให้ทนายเดินเรื่อง สร้างปัญหาและความไม่เป็นธรรมต่อเหยื่ออารมณ์ของท่านเหลี่ยมเป็นอย่างยิ่ง คนถูกฟ้องเสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายสารพัด
ช่วงหลังทนายจำเลยพยายามซักถามทนายโจทย์ผ่านศาล ให้ชี้แจงด้วยว่าตัวโจทย์ยังมีตัวตน มีลมหายใจอยู่หรือไม่ น่าเสียดายทนายไม่สามารถ “เล่นได้เยอะ” เหมือนในต่างประเทศ รวมประเด็นแง่มุมของกฎหมาย ท่านเหลี่ยมยังถูกมองว่าฟ้องเพื่อกลั่นแกล้ง
ในคดีหมิ่นประมาท ท่านเหลี่ยมเป็นโจทย์ ผลสุดท้ายถูกยกฟ้องหลายคดี แต่ถ้าผู้อื่นขอฟ้องกลับ โจทย์ทำไม่ได้ เพราะท่านเหลี่ยมอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ ตัวตนไม่ปรากฏ ศาลต้องพักหรือจำหน่ายคดีจนกว่าท่านเหลี่ยมจะปรากฏตัวมาให้ฟ้องได้สมอยาก
วันก่อนท่านเหลี่ยมให้ทนายฟ้องกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นตัวเองถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะให้ตำรวจ ออกหมายแดงให้ตำรวจสากลไล่ล่าจับกุมตัวทานเหลี่ยมมารับโทษอาญาตามกฎหมาย เพื่อความเที่ยงธรรมในสังคม
เมื่อแก้กฎหมาย ควรเพิ่มเติมบางประเด็นสำคัญ เช่นกรณีโจทย์คือคุณเหลี่ยมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงินหลายสิบหรือหลายร้อยล้าน โดยรู้ทั้งรู้ว่าผู้ถูกฟ้องไม่มีทรัพย์สิน ความมั่งคั่งระดับหลายแสนล้านบาทเหมือนคุณเหลี่ยมตัวโจทย์ เรียกร้องแบบเวอร์สุดๆ
ในบางประเทศ การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเกินไปเช่นนี้ทำให้โจทย์มีโอกาสโดนฟ้องกลับในข้อหา “สร้างความทุกข์ระทมต่อจิตใจ” (Mental anguish) ของผู้ถูกฟ้อง เพราะดูแล้วชาตินี้หรืออีกหลายชาติหน้าก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้ให้ได้ตามที่ฟ้อง
น่าจะมีประเด็นการสร้างความลำบากต่อผู้ถูกฟ้อง การเสียเวลา เช่นโจทย์ยื่นฟ้องในศาลซึ่งอยู่ห่างไกลเกินไปจนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง เช่นไปฟ้องในจังหวัดซึ่งไม่มีบริการด้านการบิน ต้องเดินทางโดยรถยนต์หรือบริการรถสาธารณะอย่างอื่นๆ
ในคดีอาญา ถ้าใครช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ต้องรับโทษ มีเพียงทนายความเท่านั้นสามารถเป็นผู้ช่วยอาชญากรให้พ้นโทษโดยไม่ผิดกฎหมาย แม้จะรู้ดีว่าลูกความของตัวเองเป็นผู้กระทำความผิด แต่อาศัยหลักฐานอ่อนหรือด้านเทคนิคช่วยให้รอดคุก
ที่น่าสนใจ น่ากังขา คือประเด็นความอิสระในการ “ใช้ดุลพินิจ” สั่งไม่ฟ้อง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานปรากฏอยู่พอสมควร เป็นการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการถูกมองว่ามีอำนาจ “ตัดตอน” ไม่ให้คดีฟ้องร้องเข้าสู่การพิจารณาโดยศาล บางกรณีมีประเด็นความไม่สุจริต
แม้จะมีการตรวจสอบ ถ่วงดุลระหว่างตำรวจและอัยการ ยังไม่สามารถขจัดความสงสัยเพราะในสังคมไทยระบบเส้นสาย มีเงินใช้จ้างผีโม่แป้งได้ ยังมีความแข็งแกร่ง บางครั้งอำนาจ อิทธิพลทางการเมืองถูกมองว่าใช้เป่าคดี ลดทอนความรุนแรงของคดีได้
ยังมีความไม่เป็นธรรมอีกมากในด้านการชดเชย ชดใช้ความเสียหาย โดยเฉพาะในการรับประกัน กรณีรถชนกัน ผู้เสียหายไม่ได้ใช้รถ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่ในต่างประเทศต้องมีการจัดหารถประเภทเดียวกันมาให้ผู้เสียหายจนกว่าจบเรื่อง ทั้งการซ่อม การชดใช้
ในบ้านเรา รถยนต์โดนชนเสียหายต้องรับความลำบาก เกิดการสูญเสียมูลค่าของรถยนต์ เสียเวลาและโอกาส ไหนๆ ก็จะแก้ไขกฎหมายต่างๆ น่าจะยกกระบิให้จบ ทำให้การคุ้มครองโดยกฎหมาย การชดเชยความเสียหายจากการละเมิดให้เพียงพอ เป็นธรรม
ยุคคุณท่านก็มีความทันสมัยของ กกต. ด้วย จะมีข้อกำหนดให้ผู้สมัครเป็นนายกฯ ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ความรู้ ภูมิปัญญา ให้ประชาชนได้รับรู้ พิจารณาว่าสมควรให้ผู้นั้นมีคุณสมบัติผ่านการเลือกตั้งหรือไม่ ป้องกันไม่ให้พวกเจื้อยแจ้วแหกตาคนกาบัตรเลือกตั้ง
การทดสอบภูมิปัญญาพื้นฐานทำให้สังคมได้เห็นว่ามี “ตัวโง่” เข้ามาเสนอตัวให้เลือกจนสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง เสี่ยงต่อความล่มจมดังที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่
โดย โสภณ องค์การณ์
อืมม์...รัฐบาลคุณท่านเริ่มฉายแววใส่ใจประเด็นและพิธีกรรม ขั้นตอนปฏิบัติของกฎหมายเพื่อสะสางให้ดูดีมีความทันสมัยกับสถานการณ์ ไม่ต้องเป็นเชิงสากล ขอเพียงให้ความเป็นธรรมและเที่ยงธรรม สังคมชาวบ้านจะเป็นปกติสุขมากกว่านี้ในด้านการชดใช้และชดเชย
นั่นคือ ครม. ผ่านร่างกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ห้ามจำเลยต้องโทษในศาลชั้นต้นแล้วทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหนอ้างว่าปลีกวิเวกนั่งกรรมฐาน แต่ยื่นคำร้องขออุทธรณ์โดยเจ้าตัวอยู่ที่ไหนทนายไม่รู้แหล่ง ใช้การอุทธรณ์ยื้อเวลาแต่ขออยู่ห่างคุกไว้ก่อน
ถ้าเจ็บป่วย พิสูจน์ความจริง มีตัวตน สมควรได้รับการยกเว้น ให้ทนายยื่นอุทธรณ์ได้
ถ้าร่างกฎหมายผ่านตลอด ศาลจะไม่รับคำอุทธรณ์ ซึ่งดูดี เป็นธรรม อีกประเด็นคือการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ที่ผ่านมาพวกจำเลยเจ้าเล่ห์หนีการจับกุม ไม่มาศาล ศาลไม่สามารถไต่สวนได้ ต้องพักคดี รอให้ตำรวจ อัยการเอาตัวมาก่อน ทำให้คดีค้างศาลเยอะ
ภายไต้เงื่อนไขใหม่ จำเลยไม่มาก็ว่ากันไปต่อ ยิ่งไม่มาแก้ตัวลบล้างข้อกล่าวหาคือว่าแสดงอาการพิรุธ กรณีท่านเหลี่ยมผู้ชำนาญการหนีคุก หนีหมายจับ เร่ร่อนร่าเริงอยู่ต่างประเทศ มีคดีค้างคาศาลอย่างน้อย 6 เรื่องเกี่ยวโยงกับการโกง ทุจริต ประพฤติมิชอบ
อันที่จริงการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้น่าจะรวมไปถึงการฟ้องร้องด้วย ท่านเหลี่ยมหนีคดี ไม่ยอมรับคำพิพากษาและหมายจับ อ้างว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ชอบแต่งตั้งทนายให้ฟ้องคนนั้นคนนี้ในข้อหาหมิ่นประมาท เจ้าตัวไม่ยอมมาให้ทนายจำเลยได้ซักค้าน
ใช้ทนายฟ้องคนอื่น ตีกินแบบนี้เป็นประจำ แต่เวลาจะขอซักค้าน ก็ไม่มาปรากฏตัว เอาเปรียบผู้อื่น ความไม่เป็นธรรมเช่นนี้ต้องแก้กฎหมายห้ามรับคำฟ้อง เว้นแต่โจทย์จะมาร่วมไต่สวนมูลฟ้องด้วย ทนายผู้รับมอบอำนาจจากท่านเหลี่ยมหนีคุกต้องชี้แจงด้วยนะ
เช่นทนายไปรับหนังสือมอบอำนาจกันที่ไหน มีหน่วยงานใดเช่นสถานทูต หรือ Notary Public ในต่างประเทศรับรองความมีตัวตนอยู่จริง (Proof of Life) ของโจทย์ คือท่านเหลี่ยมนักฟ้อง และต้องตอบให้ได้ว่าไปพบคนหนีคุกแล้วทำไมไม่แจ้งต่อทางการ
ที่ผ่านมาน่าสงสัยหรือเชื่อได้เลยว่าท่านเหลี่ยมได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจไว้เป็นปึกๆ มีอารมณ์อยากฟ้องใครก็สั่งให้ทนายเดินเรื่อง สร้างปัญหาและความไม่เป็นธรรมต่อเหยื่ออารมณ์ของท่านเหลี่ยมเป็นอย่างยิ่ง คนถูกฟ้องเสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายสารพัด
ช่วงหลังทนายจำเลยพยายามซักถามทนายโจทย์ผ่านศาล ให้ชี้แจงด้วยว่าตัวโจทย์ยังมีตัวตน มีลมหายใจอยู่หรือไม่ น่าเสียดายทนายไม่สามารถ “เล่นได้เยอะ” เหมือนในต่างประเทศ รวมประเด็นแง่มุมของกฎหมาย ท่านเหลี่ยมยังถูกมองว่าฟ้องเพื่อกลั่นแกล้ง
ในคดีหมิ่นประมาท ท่านเหลี่ยมเป็นโจทย์ ผลสุดท้ายถูกยกฟ้องหลายคดี แต่ถ้าผู้อื่นขอฟ้องกลับ โจทย์ทำไม่ได้ เพราะท่านเหลี่ยมอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ ตัวตนไม่ปรากฏ ศาลต้องพักหรือจำหน่ายคดีจนกว่าท่านเหลี่ยมจะปรากฏตัวมาให้ฟ้องได้สมอยาก
วันก่อนท่านเหลี่ยมให้ทนายฟ้องกระทรวงการต่างประเทศในประเด็นตัวเองถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะให้ตำรวจ ออกหมายแดงให้ตำรวจสากลไล่ล่าจับกุมตัวทานเหลี่ยมมารับโทษอาญาตามกฎหมาย เพื่อความเที่ยงธรรมในสังคม
เมื่อแก้กฎหมาย ควรเพิ่มเติมบางประเด็นสำคัญ เช่นกรณีโจทย์คือคุณเหลี่ยมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงินหลายสิบหรือหลายร้อยล้าน โดยรู้ทั้งรู้ว่าผู้ถูกฟ้องไม่มีทรัพย์สิน ความมั่งคั่งระดับหลายแสนล้านบาทเหมือนคุณเหลี่ยมตัวโจทย์ เรียกร้องแบบเวอร์สุดๆ
ในบางประเทศ การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเกินไปเช่นนี้ทำให้โจทย์มีโอกาสโดนฟ้องกลับในข้อหา “สร้างความทุกข์ระทมต่อจิตใจ” (Mental anguish) ของผู้ถูกฟ้อง เพราะดูแล้วชาตินี้หรืออีกหลายชาติหน้าก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้ให้ได้ตามที่ฟ้อง
น่าจะมีประเด็นการสร้างความลำบากต่อผู้ถูกฟ้อง การเสียเวลา เช่นโจทย์ยื่นฟ้องในศาลซึ่งอยู่ห่างไกลเกินไปจนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง เช่นไปฟ้องในจังหวัดซึ่งไม่มีบริการด้านการบิน ต้องเดินทางโดยรถยนต์หรือบริการรถสาธารณะอย่างอื่นๆ
ในคดีอาญา ถ้าใครช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ต้องรับโทษ มีเพียงทนายความเท่านั้นสามารถเป็นผู้ช่วยอาชญากรให้พ้นโทษโดยไม่ผิดกฎหมาย แม้จะรู้ดีว่าลูกความของตัวเองเป็นผู้กระทำความผิด แต่อาศัยหลักฐานอ่อนหรือด้านเทคนิคช่วยให้รอดคุก
ที่น่าสนใจ น่ากังขา คือประเด็นความอิสระในการ “ใช้ดุลพินิจ” สั่งไม่ฟ้อง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานปรากฏอยู่พอสมควร เป็นการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการถูกมองว่ามีอำนาจ “ตัดตอน” ไม่ให้คดีฟ้องร้องเข้าสู่การพิจารณาโดยศาล บางกรณีมีประเด็นความไม่สุจริต
แม้จะมีการตรวจสอบ ถ่วงดุลระหว่างตำรวจและอัยการ ยังไม่สามารถขจัดความสงสัยเพราะในสังคมไทยระบบเส้นสาย มีเงินใช้จ้างผีโม่แป้งได้ ยังมีความแข็งแกร่ง บางครั้งอำนาจ อิทธิพลทางการเมืองถูกมองว่าใช้เป่าคดี ลดทอนความรุนแรงของคดีได้
ยังมีความไม่เป็นธรรมอีกมากในด้านการชดเชย ชดใช้ความเสียหาย โดยเฉพาะในการรับประกัน กรณีรถชนกัน ผู้เสียหายไม่ได้ใช้รถ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่ในต่างประเทศต้องมีการจัดหารถประเภทเดียวกันมาให้ผู้เสียหายจนกว่าจบเรื่อง ทั้งการซ่อม การชดใช้
ในบ้านเรา รถยนต์โดนชนเสียหายต้องรับความลำบาก เกิดการสูญเสียมูลค่าของรถยนต์ เสียเวลาและโอกาส ไหนๆ ก็จะแก้ไขกฎหมายต่างๆ น่าจะยกกระบิให้จบ ทำให้การคุ้มครองโดยกฎหมาย การชดเชยความเสียหายจากการละเมิดให้เพียงพอ เป็นธรรม
ยุคคุณท่านก็มีความทันสมัยของ กกต. ด้วย จะมีข้อกำหนดให้ผู้สมัครเป็นนายกฯ ต้องแสดงวิสัยทัศน์ ความรู้ ภูมิปัญญา ให้ประชาชนได้รับรู้ พิจารณาว่าสมควรให้ผู้นั้นมีคุณสมบัติผ่านการเลือกตั้งหรือไม่ ป้องกันไม่ให้พวกเจื้อยแจ้วแหกตาคนกาบัตรเลือกตั้ง
การทดสอบภูมิปัญญาพื้นฐานทำให้สังคมได้เห็นว่ามี “ตัวโง่” เข้ามาเสนอตัวให้เลือกจนสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง เสี่ยงต่อความล่มจมดังที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่