xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณไม่ได้หนี แต่ศาลอนุญาต?

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ดูเหมือนการใช้วาทกรรมลวงเพื่อมอมเมาคนเสื้อแดงนั้น เป็นวัฒนธรรมของชนชั้นนำในหมู่คนเสื้อแดง ตั้งแต่ทำให้การต่อสู้เพื่อทักษิณกลายเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และการต่อสู้เพื่อทักษิณกลายเป็นการต่อสู้ทางชนชั้น

กลายเป็นว่า ทักษิณคือประชาธิปไตย และทักษิณกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกรังแกจากชนชั้นสูง

ล่าสุดอธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง ประชาไท พนักงานบริษัทวอยซ์ทีวีของพานทองแท้ ชินวัตร บอกว่า “ทักษิณไม่ได้แอบหนีแบบบุกป่าฝ่าดงหรือเผ่นออกชายแดนนะครับ แต่ศาลอนุญาตให้ทักษิณบินไปดูโอลิมปิกที่จีน แล้วทักษิณไม่กลับ”ใครได้ฟังก็นึกว่า เป็นมุกเชิญยิ้มที่พูดไปต้องเอาถาดเคาะหัวไปด้วย

คำพูดนี้ของอธึกกิตหรือใบตองแห้งได้รับการโจทย์ขานจำนวนมาก มีคนเอาขึ้นมาเทียบกับคำพูดของเฉลิม อยู่บำรุงที่บอกว่า “ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม”

2 วาทกรรมนี้ใครเหนือกว่ากัน คงต้องถ่ายรูปตัดสินกันเลยทีเดียว

ตอนแรกนึกว่า อธึกกิตคงคิดปล่อยมุกเพื่อตะแบงเท่านั้น คงไม่ได้เชื่ออย่างนั้นจริงแต่ปรากฏว่า เมื่อมีคนเข้าไปแสดงความเห็น “ก็แปลว่าหนีนั่นแหละ อย่าทำเป็นบิดบาลีเลย” อธึกกิตเข้ามาตอบกลับว่า “ใครอนุญาตให้หนีล่ะ แล้วทำไมเขาไม่อนุญาตให้สนธิหนีมั่ง”

แสดงว่าเขาเชื่อจริงว่าศาลอนุญาตให้หนี ถ้าความคิดนี้เป็นความจริง ก่อนจะไปฟังคำพิพากษาเพียง 2 วันสนธิก็ขออนุญาตศาลไปทำธุระที่ต่างประเทศแล้วเดินทางกลับมา อย่างนี้ตีความว่า ศาลอนุญาตให้สนธิหนีได้มั้ย แล้วก่อนหน้านี้สนธิก็ขออนุญาตศาลไปต่างประเทศมาหลายสิบครั้งแล้ว แต่ก็เดินทางกลับมาทุกครั้ง

การสร้างวาทกรรมลวงเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงของเสื้อแดงไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรก จำได้ไหมเมื่อศาลตัดสินให้ทักษิณติดคุก 2 ปีเพราะทำความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 “เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และเป็นเจ้าพนักงาน และสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง”

ทักษิณผิดเพราะเป็นเจ้าพนักงานรัฐเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง ในที่นี้หมายถึงประโยชน์ของภรรยาซึ่งตามกฎหมายถือเป็นบุคคลคนเดียวกันในการซื้อที่ดินดังกล่าว แต่คุณหญิงพจมานไม่ผิด เพราะไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่เข้าข่ายการกระทำความผิด

แต่เสื้อแดงก็ใช้วาทกรรมว่า “ทักษิณผิดเพราะเซ็นชื่อให้เมียซื้อที่ดิน” เพื่อให้คนเข้าใจว่า เซ็นชื่อแค่นี้ทำไมต้องผิดด้วย เมื่อคนซื้อที่ดินไม่ผิดแล้วคนเซ็นชื่อจะผิดได้อย่างไร

ดังนั้น ไม่แปลกหรอกครับที่เราได้ยินพวกเขาบอกมวลชนว่า “ทักษิณถูกอำมาตย์อิจฉา” เพราะทำให้คนจนอยู่ดีกินดีขึ้น ซึ่งถ้าฟังแล้วคิดจะหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้เลยว่า ถ้าทักษิณเป็นนายกฯ แล้วทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้นแล้วอำมาตย์จะไปอิจฉาทักษิณทำไม

จำตอนสมัครถูกศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งได้ไหม ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีของสมัคร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 182 (7) เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า”

มาตรา 267 รองรัฐธรรมนูญ 2550 บัญญัติไว้ว่า…ให้นำบทบัญญัติมาตรา 265 มาใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งหรือดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และจะดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใดก็มิได้ด้วย

นั่นหมายความว่า เขาห้ามให้นายกรัฐมนตรีไปประกอบอาชีพอื่นเพื่อหารายได้ แต่นายสมัครเป็นพิธีกรให้กับบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด หลายรายการ โดยได้รับค่าตอบแทนการเป็นพิธีกรครั้งละ 5,000 บาท และบางครั้งได้รับเงินเพิ่มซึ่งเป็นค่าจัดซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารที่ออกรายการประมาณครั้งละ 1,000-2,000 บาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ชัดเจน

แต่คนเสื้อแดงใช้วาทกรรมว่า “สมัครโดนปลดเพราะทำกับข้าวออกทีวี” เพื่อให้ดูว่า แค่ทำกับข้าวออกทีวีก็มีความผิด ให้คนทั่วไปเชื่อว่าศาลตัดสินไม่เป็นธรรม

การพูดแบบไม่รับผิดชอบ เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงของคนเสื้อแดงนั้น ยังมีมากมายอีกหลายเรื่องเพื่อหลอกให้คนเสื้อแดงออกมาตายแทน แล้วเรียกการต่อสู้นั้นว่า เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

เมื่อไม่นานมานี้สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการแนวร่วมของคนเสื้อแดงเองถึงกับออกมาเตือนที่แกนนำเสื้อแดงซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ แล้วปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกมาใช้ความรุนแรง ทำนองว่า ออกไป “ฆ่าพวกมัน” “อย่าให้มันมีชีวิตอยู่” “ไม่ให้มันมีชีวิตเหลือ”

ซึ่งสมศักดิ์ถึงกับบอกว่า เป็นการกระทำที่ “ทุเรศ” ที่คนอยู่ต่างประเทศมาเที่ยวยุให้คนที่อยู่ในประเทศทำอะไรแบบนี้ - คือเป็นการพูดชนิดไม่มีความรับผิดชอบสุดๆเลย การที่คลิปเหล่านี้พูดอะไรแบบไม่รับผิดชอบ ทั้งในแง่ข้อมูล และความเห็นมั่วๆ แบบซ้ำๆ ผมว่ามันมีผลในเชิงความคิด ในเชิงจิตวิทยา”

แล้วสมศักดิ์เรียกการกระทำนี้ว่า เป็นการ “มอมเมามวลชน”

ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่าแนวทางของคนเสื้อแดงนั้น ไม่สนใจว่า ข้อมูลที่สื่อสารไปถึงมวลชนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ บิดเบือนหรือไม่ แต่เพื่อให้มวลชนหลงเชื่อก็เพียงพอแล้ว กระทั่งไม่สนใจชีวิตของมวลชน ซึ่งมันสะท้อนออกมาในการเสียชีวิตของมวลชนนับร้อยที่ราชประสงค์นั่นแหละ เพราะในตอนแรกมีการเจรจากับรัฐบาลจบลงแล้ว รัฐบาลยอมถอยยุบสภาแลกกับเสื้อแดงยุติการชุมนุม

แต่ต่อมาเสื้อแดงเกิดเปลี่ยนใจซึ่งวิสา คัญทัพ เคยเอามาแฉเหตุผลของการล้มข้อตกลงว่า แกนนำเสื้อแดงบางคนเชื่อว่า หากชุมนุมยืดเยื้อไปอีก จะได้ชัยชนะที่มากกว่าการยุบสภา กระทั่งมีกระแสเข้มข้นข่มขู่ห้ามสลายการชุมนุมในลักษณะปัจเจกบุคคลของบางคน ด้วยถ้อยคำก้าวร้าวรุนแรง

วิสาตั้งคำถามว่า อะไรคือสิ่งที่มากไปกว่านั้นที่ต้องการได้จากรัฐบาล อะไรคือจุดที่ทำให้แกนนำบางคนต้องเปลี่ยนความคิดกะทันหัน ชนะแค่ไหนและอย่างไร คุ้มต่อการต้องสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนต่อไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะหากได้มาแค่ยุบสภาในทันที แล้วต้องเสียชีวิตบาดเจ็บมากมายขนาดนี้ คุ้มหรือ จริงแล้วแม้เพียงชีวิตคนเดียวก็ไม่สมควรแลก

นั่นเป็นการสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการแม้จะต้องสังเวยด้วยชีวิตของมวลชนแกนนำเสื้อแดง ก็ไม่คำนึงการบิดเบือนวาทกรรมด้วยความเท็จ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ชนชั้นนำเสื้อแดงกระทำกันจนเคยชิน

ดังนั้น ไม่แปลกหรอกครับที่กล้าพูดอย่างไม่อายว่า “ทักษิณไม่ได้หนี แต่ศาลอนุญาตให้ทักษิณไปต่างประเทศ”
กำลังโหลดความคิดเห็น