2 สมาคมนักข่าวแถลงขอให้ปล่อยตัวผู้สื่อข่าวประชาไทที่ถูกจับผิดกฎหมายประชามติ เหตุนั่งรถมากับกลุ่มชุมนุม ชี้ติดรถแหล่งข่าวลงพื้นที่เรื่องปกติ วอน คสช.คำนึงเสรีภาพการเสนอข่าว
วันนี้ (11 ก.ค.) นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ อุปฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และนายสุปัน รักเชื้อ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกันแถลงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวประชาไท ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ควบคุมตัวระหว่างลงพื้นที่ติดตามการทำข่าวด้วยข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ และถูกนำตัวไปฝากขัง ทั้งที่นายทวีศักดิ์ได้แสดงตัวมาตลอดว่าเป็นผู้สื่อข่าว และได้ลงพื้นที่ไปติดตามการทำข่าว แต่ตำรวจกลับมองว่าร่วมกระทำความผิด โดยมีสาเหตุมาจากการนั่งรถมากับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากทุกฝ่าย หากยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการกระทำความผิดอย่างชัดเจน ขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวประชาไทโดยไม่การตั้งข้อกล่าวหาโดยเร็ว เพราะการอ้างว่านักข่าวนั่งรถไปกับแหล่งข่าวถือเป็นความผิดนั้นจะกระทำไม่ได้ เพราะตามปกตินักข่าวจะต้องลงพื้นที่ทำงานข่าวให้ทันต่อเวลา ดังนั้น การเดินทางอาจมีความจำเป็นที่จะอาศัยติดรถแหล่งข่าวลงไปทำข่าวด้วยก็ถือเป็นเรื่องปกติ ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวเองก็เป็นไปตามหลักสิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบในการนำเสนอข่าวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย และสังคมยังคงมีความขัดแย้ง อยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลคำนึงถึงการสร้างบรรยากาศของการมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อเป็นการนำไปสู่การตัดสินใจของประชาชนในการลงประชามติ ทั้งนี้ขอให้สื่อมวลชนทุกคนใช้เหตุผลในการนำเสนอข่าวสารให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมวิกฤตความขัดแย้งเพิ่มขึ้น
วันนี้ (11 ก.ค.) นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ อุปฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และนายสุปัน รักเชื้อ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกันแถลงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวประชาไท ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ควบคุมตัวระหว่างลงพื้นที่ติดตามการทำข่าวด้วยข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ และถูกนำตัวไปฝากขัง ทั้งที่นายทวีศักดิ์ได้แสดงตัวมาตลอดว่าเป็นผู้สื่อข่าว และได้ลงพื้นที่ไปติดตามการทำข่าว แต่ตำรวจกลับมองว่าร่วมกระทำความผิด โดยมีสาเหตุมาจากการนั่งรถมากับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากทุกฝ่าย หากยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการกระทำความผิดอย่างชัดเจน ขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวประชาไทโดยไม่การตั้งข้อกล่าวหาโดยเร็ว เพราะการอ้างว่านักข่าวนั่งรถไปกับแหล่งข่าวถือเป็นความผิดนั้นจะกระทำไม่ได้ เพราะตามปกตินักข่าวจะต้องลงพื้นที่ทำงานข่าวให้ทันต่อเวลา ดังนั้น การเดินทางอาจมีความจำเป็นที่จะอาศัยติดรถแหล่งข่าวลงไปทำข่าวด้วยก็ถือเป็นเรื่องปกติ ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวเองก็เป็นไปตามหลักสิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบในการนำเสนอข่าวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย และสังคมยังคงมีความขัดแย้ง อยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลคำนึงถึงการสร้างบรรยากาศของการมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อเป็นการนำไปสู่การตัดสินใจของประชาชนในการลงประชามติ ทั้งนี้ขอให้สื่อมวลชนทุกคนใช้เหตุผลในการนำเสนอข่าวสารให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมวิกฤตความขัดแย้งเพิ่มขึ้น