xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชูปฏิรูปเลือกตั้ง4ด้าน แจง"ใบดำ"มีในรธน.อยู่แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมกกต.ถึงความคืบหน้าในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ร่างที่กกต.จะเสนอเพื่อปฏิรูปการเลือกตั้งใน 4 ด้าน คือ
1. ปฏิรูปกลไกการรับสมัคร โดยเพิ่มค่าสมัครจาก 5,000 บาทเป็น 10,000 บาท แต่หากผู้สมัครในเขตนั้นได้รับคะแนนเกิน 5 % ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หรือประมาณ 4000–5000คะแนนขึ้นไป ก็จะคืนเงินค่าสมัครให้ครึ่งหนึ่ง หรือ 5,000 บาท สำหรับค่าสมัครที่เพิ่มนั้นกกต. จะนำไปสมทบกับค่าใช้จ่ายที่จะจัดทำแผ่นป้ายเพื่อติดโปสเตอร์หาเสียงให้กับผู้สมัครต่อไป
นอกจากนี้จะให้มีช่องทางการรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นคู่ขนานกับการสมัครด้วยตนเอง เพื่อป้องกันปัญหาขบวนการขัดขวางการสมัครในบางพื้นที่แล้วจึงมาจับสลากหมายเลขอีกที ให้แต่ละพรรค มีหมายเลขเดียวกันทั่วประเทศ
2. ด้านการปฏิรูปกลไกการหาเสียง จะมีการกำหนดขนาด จำนวน และ สถานที่ปิดป้ายหาเสียง โดยเบื้องต้น กำหนดให้ผู้สมัครทำโปสเตอร์หาเสียงของตนเองขนาด 60 คูณ 60 ซม. ส่วน กกต. จะทำบอร์ด ให้ติดโปสเตอร์ดังกล่าวประมาณ 200 จุด ต่อ 1 เขตเลือกตั้ง หรือประมาณ 70,000 จุดทั่วประเทศ ค่าใช้จ่ายที่กกต. ต้องใช้ทำบอร์ดดังกล่าว ประมาณ 140 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเก็บค่าสมัครได้ราว 20 ล้านบาทบาท น้อยกว่าจำนวนหน่วยออกเสียงเล็กน้อย ดังนั้นผู้สมัครจึงไม่จำเป็นต้องทำโปสเตอร์มากกว่า 200 - 300 ใบ ไม่ต้องทำป้ายคัดเอ้าต์ ป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ โดย กกต.ยังจะทำเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลผู้สมัครเผยแพร่ให้กับประชาชน ส่งผลทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงและเกิดความสะอาดต่อบ้านเมือง เป็นการลดต้นทุนทางการเมืองอย่างมหาศาล
สำหรับการโฆษณาหาเสียงทางอินเทอร์เน็ตนั้น เชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการหาเสียง ปัญหาคือ อาจมีการใช้ข้อมูลเท็จ หรือปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างกระทันหัน มีการโจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงให้การหาเสียงทางอินเทอร์เน็ตได้ แต่ข้อมูลต้องนิ่งตั้งแต่ 24.00 น. ของ 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง ห้ามเปลี่ยนแปลงข้อมูล เพื่อไม่ให้มีการปล่อยข่าว โจมตี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จะยังมีการจำกัดเงินค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งอยู่ ซึ่งแนวโน้มน่าจะน้อยลง
ส่วนประเด็นห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุราจากเดิม 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้งถึง 24.00 น. ในวันเลือกตั้งให้ลดจำนวนชั่วโมงเหลือ 24 ชั่วโมง เป็น 18.00 น. - 18.00 น. เท่านั้น เพราะเชื่อว่าทุกอย่างคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะการนับคะแนนที่หน่วยน่าจะเสร็จสิ้นเร็ว
3 ด้านการลงคะแนน ให้เพิ่มช่องทางวิธีการลงคะแนน เปิดกว้างขึ้น เช่น ทางไปรษณีย์ การใช้เครื่องมืออิเลกทรอนิกในบางพื้นที่ การลงคะแนนในอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศที่มีความพร้อม การเลือกตั้งล่วงหน้าจะมี 2 วัน และขยายเวลาถึง 18.00 น. ให้ประชาชนมีเวลามากขึ้น ส่วนวันเลือกตั้งจริงขยายถึง 16.00 น.
4. ด้านปฏิรูปการประกาศผล หลักการเดิมยังคงอยู่คือ กกต. มีอำนาจสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลือง ก่อนการประกาศรับรองผล และหลังการเลือกตั้ง ภายใน 1 ปี กกต.มีอำนาจเสนอศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือ ใบแดง สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลือง ชดใช้ค่าเสียหาย ดำเนินคดีอาญา แต่มีส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมา คือ ใบส้ม ที่ก่อนประกาศผล หากพบว่ามีการทำผิดโดยการกระทำความผิดเชื่อมโยงกับผู้สมัคร กกต.สามารถเอาผู้สมัครรายนั้นออกจากการแข่งขันได้ โดยเป็นการตัดสิทธิสมัคร 1 ปี ส่วนเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ ที่เรียกว่า ใบดำ ซึ่งจะมีผลไม่อาจดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง และกรรมการองค์กรอิสระนั้น กกต.ไม่ได้เป็นผู้เสนอ ฉะนั้นใครกล่าวหาว่า กกต. เพิ่มอำนาจให้ตัวเอง เข้าใจผิด เพราะโทษดังกล่าว เป็นไปตามที่รธน.กำหนด และศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ
กำลังโหลดความคิดเห็น