ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -การเสียชีวิตของ “นายธวัชชัย อนุกูล” อดีตข้าราชการระดับ 7 สำนักงานที่ดินจ.ภูเก็ต และอดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงาสาขาท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา คาห้องคุมขังของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมยังคงคลางแคลงใจอย่างต่อเนื่องว่า อะไรเป็นสาเหตุให้อดีตข้าราชการที่กุมความลับมากมายนายนี้ต้อง “ตับแตกตาย” และกลายเป็นการเสียชีวิตที่ CONSPIRACY มากที่สุดเรื่องนี้บนผืนแผ่นดินไทย
โดยเฉพาะเมื่อ “นพ.เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุการตายด้วยสมมติฐานอันน่าเชื่อถือจนสร้างความสั่นสะเทือนเลือนลั่นให้กับทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้อง หลังก่อนหน้าที่สร้างความสั่นสะเทือนมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อออกมายืนยันว่าการปั๊มหัวใจไม่สามารถทำให้คนไข้เสียชีวิตเพราะตับแตกได้
“เมื่อผมได้ทำหน้าที่ในฐานะ ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะที่เคยเป็นเสนาธิการฝ่ายยุทธการและการข่าวว่า การเสียชีวิตของนายธวัชชัยนั้น น่าจะเป็นการฆาตกรรมที่มีเจ้าหน้าที่ภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษรู้เห็นเป็นใจร่วมมือกับมือสังหาร โดยที่ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษมิได้รู้เห็น ทั้งนี้ เพื่อหวังผลกระทบทางตรงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษและผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษและผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษตกอยู่ในสถานะผู้ร้ายทางสังคม” หมอเหรียญทองโพสต์แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว
จริงหรือ?
นั่นเป็นคำถามที่สังคมกระหายใคร่รู้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สน.ทุ่งสองห้อง) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษจำต้องให้คำตอบกับสังคมให้ชัดเจนชนิดหมดข้อสงสัย เพราะญาติของนายธวัชชัยเองก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำอัตวินิบาติกรรมด้วยการใช้ถุงเท้าผูกคอตาย และเชื่อว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติจนต้องเลื่อนการฌาปนกิจศพนายธวัชชัยออกไปอย่างไม่มีกำหนด
“รอยบริเวณรอบลำคอพี่ชายมีขนาดเล็กมากเหมือนเกิดจากลวดหรือสลิงมากกว่า ดีเอสไอบอกกับผมตอนแรกว่าพี่ชายใช้ชายเสื้อผูกคอตาย แต่กลับแถลงข่าวว่าเป็นถุงเท้า ทำให้เกิดคำถามว่าดีเอสไอทำแบบนี้เพื่อต้องการเบี่ยงประเด็นอะไรกันแน่ ส่วนการเสียชีวิตของพี่ชายจะส่งผลกระทบหรือเอื้อประโยชน์กับใครไม่ขอตอบ”นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัยยืนยันความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตเหมือนเดิม
ทั้งนี้ เป็นที่รับทราบกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า นายธวัชชัยเกี่ยวข้องกับคดีที่ดินสำคัญหลายคดี ซึ่งรวมแล้วคิดเป็นมูลค่ามหาศาล นอกจากนั้นคดีเหล่านี้ยังเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อย ได้แก่ คดีออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติสิรินาถ” จ.ภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท คดีที่ดินเขาหน้ายักษ์ ซึ่งทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง-เขาลำปี จำนวน 500 ไร่ ราคาประเมินของกรมที่ดินไร่ละ 21 ล้านบาท มูลค่าทั้งสิ้น 10,500 ล้านบาท คดีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 61483 - 61491 หมู่ที่ 5 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต คดีร่วมกันปลอมเอกสารโฉนดที่ดิน และออกหนังสือรับรองราคา ประเมินที่ดินตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 42650 และ 42651 ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต คดีทุจริตออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน เลขที่ 5070 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต คดีออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 65869, 65870 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เป็นต้น
แน่นอน การตั้งข้อสังเกตที่สอดรับกับของทั้งญาติและนพ.เหรียญทองได้ส่งแรงสั่นสะเทือนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะ นพ.เหรียญทองที่ฟันธงว่าเป็นการฆาตกรรมที่มีเจ้าหน้าที่ภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษรู้เห็นเป็นใจ ซึ่งต้องถือว่าสร้างความเสียหายให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างหนักจนอาจมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานได้ ทั้งๆ ในความเป็นจริงแล้วต้องยอมรับว่า กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของกรมสอบสวนคดีพิเศษมิได้นิ่งนอนใจ และที่สำคัญกระบวนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่แล้วเสร็จ
“ผมอ่านทุกตัวหนังสือในข้อความที่คุณเขียนโพสต์ ผมไม่สนใจว่าเขียนเชื่อมโยงคดีอะไรหรือใครได้ประโยชน์อย่างไร คุณมีสิทธิก็วิเคราะห์ไป แต่ติดใจสิ่งที่เขียนคำว่าฆาตกรรม เจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ เขียนได้อย่างไร เขียนไปแล้วมันทำให้องค์กรที่เข้าเกี่ยวข้องเสียหาย เพราะผลสอบมันยังไม่เสร็จ ซึ่งมันอาจจะเป็นจริงอย่างที่คุณเขียนก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ แต่ไม่ใช่ออกมาพูด ณ เวลานี้ เพราะหากผลสอบออกมาแล้วมันไม่ใช่ องค์กรอื่นเสียหายไปแล้วใช่หรือไม่ ผมขอถาม”พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวถึง นพ.เหรียญทอง
แต่จะอย่างไร คงต้องยอมรับเช่นกันว่า ข้อมูลจากการให้ปากคำของคนดีเอสไอเองก็ดูเหมือนจะกลับไปกลับมาจนน่าสงสัย ทั้งเรื่องอุปกรณ์ที่นายธวัชชัยใช้ฆ่าตัวตาย รวมถึงข้อผิดปกติล่าสุดเรื่อง “กล้องวงจรปิด” บริเวณทางเดินที่ในวันเกิดเหตุ “เซิฟเวอร์” ก็ดันมา “เสีย” อีกต่างหากทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพได้
นี่ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ หากแต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อ “ความเชื่อมั่น” และ “ศรัทธา” ที่มีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างหนัก
และนั่นเป็นที่มาของการที่ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วและมีกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน โดยมีนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นประธาน รศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช และ ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้งนิติกรชำนาญการกระทรวงยุติธรรมอีก 3 คนเป็นกรรมการ
มิหนำซ้ำความสั่นสะเทือนเลือนลั่นจาก “หมอเหรียญทองเอฟเฟ็กต์” ยังพลอยไปสร้างความไหว กระเพื่อม กับการเสียชีวิตของ นายฉวี อินทระ ยุติธรรมจังหวัดพังงา ซึ่งได้เข้าร่วมขบวนตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบของนายธวัชชัยด้วย เพราะแม้ทิศทางของคดีจะพุ่งเป้าไปที่ปมเหตุเรื่องชู้สาวกระทั่งนำไปสู่การฆ่าเปลือยแล้วนำไปยัดถังปูนถ่วงน้ำที่จังหวัด นครศรีธรรมราช แต่ผลของหมอเหรียญทองเอฟเฟ็กต์ได้ทำให้ญาติพี่น้องไม่ปักใจเชื่อว่าชนวนเหตุจะเป็นเรื่องชู้สาวจริงๆ
น.ส.อนุ อินทระ อายุ 50 ปี น้องสาวของนายฉวี ระบุว่า ไม่เชื่อว่าสาเหตุการตายของพี่ชายจะมาจากสาเหตุเรื่องชู้สาวตามที่ตำรวจสรุปคดี และคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน แต่ตนเชื่อว่าสาเหตุการตายของพี่ชายตนลึกๆ แล้วน่าจะมาจากเรื่องหน้าที่การงานที่พี่ชายทำงานอยู่ จ.พังงา ซึ่งอยากให้ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีรื้อฟื้นคดีใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง เพราะมันมีเบื้องหลังลึกๆ อยู่
เฉกเช่นเดียวกับ นายวิบูลย์ เชื้อชุมพล อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ม.รามคำแหง และเป็นอดีตคณะ กก.สิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และประธานเครือข่ายทนายความไทย แสดงความเห็นว่า คดีนี้มีเงื่อนงำ มีการอำพรางซ่อนเร้นศพ มีการเตรียมการอย่างดี ประสบการณ์ของเด็กอายุเพียง 22 ปี ไม่น่าจะมีการวางแผนได้เป็นขั้นตอนเช่นนี้
“คำถามมีอยู่ว่าผู้ต้องหาคนสุดท้ายเหตุใดซ่อนตัวที่เขาลานสกา ไปอยู่กับใคร มีอิทธิพลแค่ไหน ตำรวจในพื้นที่จะต้องรับทราบต้องรู้ ทำไมต้องให้ท่านจเรตำรวจลงมารับมอบตัว ทำไมตำรวจในพื้นที่ไม่มีเลยหรือ จับไม่ได้หรือ รถหลังเกิดเหตุไปอยู่ไหน วงจรปิดมีทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชทำไมหาไม่เจอเลย รถคันนี้หายไปไหนยังหาไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
“การทำงานของ ผอ.ฉวี อินทระ ค่อนข้างที่จะรุนแรงในหน้าที่ราชการ ทำไมไม่เอาเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง ทำไมต้องเอามาลงชู้สาว ซึ่งมันปิดคดีได้ง่ายมาก มีการเตรียมการได้ง่ายมาก ผมถามว่าเด็ดอายุ 20 กว่าปีคิดเป็นหรือไม่ แค่ตีก็ตายเต็มที่ก็ทิ้งศพไว้ตรงนั้น และข้อสงสัยมากที่สุด แม่น้ำเชียรใหญ่ อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด ทำไมต้องพาอ้อมไป 40 กม. ไปพาทิ้งที่คลองบางจาก บ้านแสงวิมาน อ.ปากพนัง ผมไม่เชื่อว่าจะคิดเป็น ผมเชื่อว่าจะต้องมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และอาจจะเป็นอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับ ฉวี อินทระ ในตำแหน่งยุติธรรมจังหวัดพังงาเสียด้วยซ้ำไป”
เรื่องจริงซับซ้อนซ่อนเงื่อนหนักเข้าไปอีก
ดังนั้น ในระหว่างที่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงกำลังดำเนินไป สังคมคงต้องติดตามเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิดว่าสุดท้ายผลจะออกมาอย่างไร เป็นอย่างที่หมอเหรียญทองให้ข้อมูลและความเห็นไว้หรือไม่
ยิ่งเมื่อกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ออกมาระบุว่า DNA ที่พบบนถุงเท้าของนายธวัชชัยมีมากกว่า 1 และยังไม่ชัดเจนว่าผูกคอตัวเองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เรื่องนี้ CONSPIRACY หนักเข้าไปอีก