จนท.ควบคุมผู้ต้องหาดีเอสไอให้ปากคำ ตร.ปมที่ดินพังงาผูกคอดับ ยันในห้องขังไม่มีวงจรปิด

MGR Online - หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขังดีเอสไอเข้าให้ปากคำ พงส.สน.ทุ่งสองห้อง ถึงการเสียชีวิตของอดีตที่ดินพังงา เผยในห้องขังไม่มีวงจรปิด มีเพียงทางเดินหน้าห้องขัง ชี้เป็นการละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง ขณะที่ตำรวจเผยคดีคืบกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

จากกรณีที่นายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ที่ถูกควบคุมไว้ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 6 ดีเอสไอ ได้ใช้ถุงเท้าผูกคอกับลูกกรงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ปรากฏว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้คือภาวะตับแตกและเลือดออกในช่องท้อง

วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายชยพล หวานชะเอม อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องหาเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายธวัชชัย

นายชยพลกล่าวว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพราะตนได้อยู่ในวันเกิดเหตุดังกล่าวในส่วนของรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ตนมีหน้าที่ดูแลผู้ต้องหาตลอดจนตรวจสอบเอกสารผู้ต้องหาก่อนจะนำตัวเข้าห้องคุมขัง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเนื่องจากตนเข้าทำงานตั้งแต่ปี 2553-2559 รวมทั้งสิ้น 7 ปี ไม่เคยมีเหตุดังกล่าวเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกซึ่งตนก็กลัวว่าทางผู้บังคับบัญชาจะเอาผิดทางวินัยเพราะดีเอสไอให้ความเข้มงวดอย่างมากให้การควบคุมผู้ต้องหา

อย่างไรก็ตาม ภายในห้องผู้ต้องหามีกล้องวงจรปิดแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกล้องชนิดใด และประเภทไหน เนื่องจากตนไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของกล้องดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาทั้งหมด 3 คนรวมตนด้วยซึ่งได้เข้าให้ปากคำก่อนหน้านี้ไปแล้ว 1 คน คือ นายสมมาตร นาควงศ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ควบคุมห้องขัง ส่วนอีกหนึ่งคือนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นรองหัวหน้างานควบคุมผู้ต้องหาซึ่งไม่ทราบว่าจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อใด

ต่อมาเวลา 13.30 น. ภายหลังพนักงานสอบสวนพร้อมอัยการร่วมสอบปากคำนายชยพล หวานชะเอม อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้างานควบคุมผู้ต้องหา และพ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ รองหัวหน้าผู้ควบคุม โดยใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง

ด้าน พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาสอบสวนซึ่งให้การเป็นประโยชน์มาก สำหรับในห้องคุมขังผู้ต้องหานั้นขอยืนยันว่าไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงบริเวณทางเดินด้านหน้าเท่านั้นเนื่องจากถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ต้องหา ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วซึ่งจะสามารถบันทึกได้หรือเปล่านั้นยังไม่ทราบได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับไฟล์จากภาพทางดีเอสไอเลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ ยังต้องรอการสอบปากคำเพิ่มเติมซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบไปแล้วจำนวน 3 คน กลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตได้สอบน้องชายไปแล้ว กลุ่มของพยาบาลโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สอบไปแล้วจำนวน 3 คน เหลือเพียงกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มผลตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานซึ่งต้องรอการตรวจพิสูจน์หลักรอบสองว่าจะมีผลปรากฏออกมาอย่างไร โดยขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว

พ.ต.อ.คมศักดิ์กล่าวต่อว่า ในวันเกิดเหตุก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงนั้นทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เดินเข้าไปตรวจสอบก็ไม่พบอาการหรือพิรุธผิดปกติของนายธวัชชัย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 กันยายน เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง แม้จะมีการตรวจสอบไปแล้วในครั้งแรกเพื่อนำมาประกอบกับการสอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยพลและพ.ต.ท.ไพโรจน์ ไม่ให้สัมภาษณ์ใดต่อสื่อมวลชน โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามถึงกรณีให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าว่ามีกล้องวงปิดภายในห้องคุมขังนั้น นายชยพลกล่าวว่า เป็นการสื่อสาร ตนต้องการบอกเพียงว่ามีกล้องอยู่บริเวณทางเดินหน้าห้องของผู้ต้องหาเท่านั้น ไม่ได้มีกล้องอยู่ภายในห้องคุมขัง ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ต้องหา