“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ชะตาชีวิตมนุษย์ทุกคน..มีขึ้นมีลง..สุดท้าย-คือ-ความตาย..!
นั่นเป็น “บทเพลงชีวิตมนุษย์” ที่เป็นไป มนุษย์จึงมีคำว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” หากยึดธรรมเป็นสรณะก็มีคำว่า “เป็นวิบากกรรมของแต่ละคน”
ยุค “พิษลอยตัวค่าเงินบาท” จากฝีมือรัฐบาล “บิ๊กจิ๋ว-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” ได้ทำให้ค่าเงินบาทจากเดิม 25 บาท ต่อ US ดอลลาร์ กลายเป็น 50 บาท ส่งผลให้หนี้บริษัทที่กู้เงินจากต่างชาติเพิ่มขึ้นเท่าตัวทันที จนบริษัทมากมายของคนไทยต้องล้มครืนลงชั่วข้ามคืน
ทว่ามี“เศรษฐีบางคน” ได้กำไรมหาศาล จาก “ข้อมูลลับ” ของ “ใครคนหนึ่งในรัฐบาล” ยุคนั้น ทำให้ “เศรษฐีคนนั้น” ใช้เงินกำไรจากค่าเงินบาท มาเล่นการเมืองด้วยการซื้อเสียงเลือกตั้ง จนยึดอำนาจรัฐไทยได้สำเร็จ
แต่แทนที่ “นายกฯ รวยล้นฟ้า” จะทำเพื่อชาติ เขากลับโกงชาติอย่างมโหฬาร แถมจะเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เป็นประชาธิปไตยแบบชาติมะกัน
ด้วยการตั้งขบวนการโค่นล้ม สถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งลับและเปิดเผย ทำให้ “สนธิลิ้ม” ทนไม่ไหวจนต้องใช้สื่อในรายการของตน เปิดโปงความไม่ถูกต้องของรัฐบาล “เหลี่ยม” จนรายการทีวีของ “สนธิลิ้ม” ถูก “ปิดตาย”
“สนธิลิ้ม” จึงต้องจัดรายการ “สัปดาห์สัญจร” นอกจอ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะกลายเป็นการชุมนุมใหญ่ของประชาชน ในนาม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)”
“พธม.” ยุคนั้น นำโดย “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สนธิ ลิ้มทองกุล พิภพ ธงไชย สมศักดิ์ โกศัยสุข สมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์” มี “สุริยะใส กตะกศิลา” เป็นเลขาฯ ร่วมกับประชาชนมากมาย ชุมนุมขับไล่รัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม ”หลายระลอก ด้วยสองมือเปล่า โดยไม่กลัวเกรงต่อความตาย จากอำนาจรัฐอธรรมที่ใช้อาวุธสงคราม ลอบเข่นฆ่าชาว “พธม.” ครั้งแล้วครั้งเล่า
“แกนนำ” และชาว “พธม.” ต่อสู้แบบ “เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย” จนกว่าจะชนะ ในที่สุด..รัฐบาล “เหลี่ยม” ต้องล้มครืนลง เพราะถูกกองทัพทำรัฐประหาร ตามด้วยรัฐบาล “จมูกชมพู่” นอมีนีของ “เหลี่ยม” ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯตามคำตัดสินของศาล เรียกว่า..เป็น “นายกฯปลาตายน้ำ ตื้น” โดยแท้
สุดท้าย..นายกรัฐมนตรี “ชายม่านรูด” ที่เป็นน้องเขย “เหลี่ยม” ก็โดน “ชาวพธม.” ชุมนุมขับไล่จนรัฐบาลต้องล้มครืนลงไม่เป็นท่า เพราะมี “มือลึกลับ” ทำการ “พลิกขั้วการเมือง” จน “ชายม่านรูด” ตกจากเก้าอี้นายกฯ โดย “หล่อจ้อเก่ง” ได้เป็น“นายกฯ ส้มหล่น” แทน
ตลอดช่วงการต่อสู้ของ “พธม.” ครั้งนั้น ทำให้รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย ที่ใช้อำนาจรัฐปล้นชาติ และบังอาจ “ล้มเจ้า” เพื่อหวังจะเปลี่ยนการเมืองไทย ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมะกัน ต้องพังพาบลงถึง 3 รัฐบาล
ผลจากการต่อสู้กับรัฐบาลทุนนิยมสามานย์ของ “เหลี่ยม” เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ทำให้ “ชาวพธม.” จำนวนหนึ่งบาดเจ็บล้มตาย! “แกนนำทั้งหลาย” และ “ชาวพธม.” นับร้อย ต้องต่อสู้คดีความอยู่ในศาลจนทุกวันนี้! หลายคนต้องเดินเฉียดคุกตะราง! บางคนต้องติดคุกไปแล้ว! ฯลฯ
“สนธิลิ้ม” มีคดีความสารพัดทั้งเก่าใหม่ ต้องขึ้นศาลเป็นว่าเล่น แถม “สนธิลิ้ม” ยัง “เฉียดความตาย” จากการถูกรุมยิงด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด ในยุครัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ครองเมืองอีกด้วย
อันเป็นผลจากการทำความดี ให้กับชาติบ้านเมืองของ “สนธิลิ้ม” ที่ไปกระทบต่อผลประโยชน์มากมาย ของ “คนหลายกลุ่ม” ที่มีอำนาจในชาติไทย โชคดี-ที่การทำดีเพื่อชาตินั้น ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “สนธิลิ้ม” เคารพนับถือ เห็นและช่วยให้รอดพ้นจากความตายได้หวุดหวิดราวปาฏิหาริย์
เฉียดตาย..ก็มิได้ทำให้ “สนธิลิ้ม” เกรงกลัว เพราะ “สนธิลิ้ม” และสื่อในเครือข่าย ยังเดินหน้าต่อสู้เพื่อชาติต่อไป ด้วยการวิจารณ์ทุกรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา และชื่นชมผู้มีอำนาจที่ทำดีอยู่เสมอ
แถม “สนธิลิ้ม” ยังประกาศในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่ว่า ได้อโหสิกรรมให้กับกลุ่มคน ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการสังหารเขา ซึ่งหลายคนโดนหมายจับอย่างชัดแจ้ง แต่ไม่มีรัฐบาลใดกล้าจับตัวมาดำเนินคดี จนมือสังหารบางคนได้สิ้นชีวิตไปแล้ว
โดย “สนธิลิ้ม” ยึดหลักการว่า ใครก็ตามหากหันกลับมาทำคุณงามความดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ล้วนสมควรได้รับการให้อภัย ยกเว้นกลุ่มคนชั่วโดยสันดาน ที่มุ่งยึดอำนาจรัฐด้วยการโกงเลือกตั้ง เพื่อโกงชาติและล้มเจ้า ที่ก่อจลาจลเผาบ้านเมือง ก่อการร้ายฆ่าทหารและประชาชน ก่อวิกฤตอันชั่วร้ายให้ชาติมาจนทุกวันนี้
รัฐบาลทหาร “บิ๊กตู่” เกิดขึ้น หลังการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง กับรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” ของ “แกนนำและชาว กกปส.” จน “ชาว กกปส.” ต้องบาดเจ็บล้มตายมิใช่น้อย วันนี้..คนโกงชาติยังลอยนวล และยังทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่หยุดหย่อน
รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยึดกระบวนการยุติธรรมเป็นที่ตั้ง แต่ศาลยุติธรรมของชาติไทย มักโดน “เหลี่ยม” กับพวกให้ร้ายป้ายสีว่า กลั่นแกล้งลงโทษแต่ฝ่าย “เหลี่ยม” กับพวก โดยไม่เคยมองถึงการกระทำชั่วอย่างมากมาย ที่พวกตนทำต่อชาติแม้แต่น้อย
แถม “เหลี่ยม” ยังหนีคำสั่งจำคุกสองปีของศาลมาจนทุกวันนี้ แต่กลับใช้ศาลที่พวกตนประณาม ฟ้องฝ่ายตรงข้ามมากมาย ทั้ง “กลุ่มพธม.” และ “กกปส.” ล้วนถูก “เหลี่ยม” ฟ้องกันถ้วนหน้า
โดย “เหลี่ยม” ในฐานะโจทก์ ไม่เคยปรากฏตัวให้ฝ่ายจำเลยได้ซักค้านเลย อีกทั้งเอกสารคำฟ้องจะใช่ลายเซ็นจริงของ “เหลี่ยม” ไหม? โจทก์แบบ “เหลี่ยม” เอาเปรียบ และไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายจำเลยใช่ไหม? ทั้งยังทำให้ศาลสถิตยุติธรรมของชาติไทย เสียหายใช่ไหม?
ล่าสุด “สนธิลิ้ม” ถูกศาลฎีกาพิพากษา ให้ถูกจำคุก 20 ปีในคดีเศรษฐกิจ ยืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ “สนธิลิ้ม” เดินเข้าเรือนจำโดยไม่ลังเล แม้ “สนธิลิ้ม” มีโอกาสหนีมากมาย-แต่ไม่เคยคิดหนี!
“ผมไม่เคยมีความคิด ที่จะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ทั้งๆ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกทั้ง 2 ศาล ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะผมมีศักดิ์ศรี มีครอบครัว มีลูกน้อง และมีพี่น้องพันธมิตรที่จะได้เชิดหน้าไม่อายใคร สำคัญที่สุดเหนืออื่นใด คือ ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม”
“สนธิลิ้ม” มิใช่ “ทักษิณชิน” ที่ศาลตัดสิน-ปล่อย ก็ชมศาลมีความยุติธรรม! พอศาลตัดสินให้ติดคุกก็ประณามว่า-ศาลไม่ยุติธรรม! แล้วยังหลอกศาล-หนีคำตัดสิน-หนีคุก หายหัวไปอยู่ต่างแดนจนทุกวันนี้
“สนธิลิ้ม” ถือว่า “คุกขังได้แต่กาย” ส่วนใจรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-รักความถูกต้องนั้น “ใครก็ขังใจ-สนธิลิ้ม-ไม่ได้”
พธม. คือ “ราชสีห์ปกป้องชาติ” ที่ต่อสู้กับ “ฝูงสุนัขกัดกินชาติ” หนึ่งใน “แกนนำ พธม.”เดินหน้าเข้าคุก ตามคำสั่งศาลฎีกาเยี่ยง “ราชสีห์” แต่ “แกนนำสุนัขหลายตัว”กลับหนีคำสั่งศาล และหนีคุกเร่ร่อนอยู่ต่างแดนจนทุกวันนี้
สนธิ ลิ้มทองกุล ชายวัย 68 ปี ที่ไม่กลัวความตาย เดินเข้าคุกอย่างสง่างาม หลังสิ้นเสียงคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 20 ปี ทั้งๆที่ภรรยาร่วมชีวิต “อ.จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง!
จากใจลูกชาย สนธิ ลิ้มทองกุล “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” เขียนถึงคำพูดก่อนไปสู่เรือนจำว่า
“บอกแม่ว่าป๋าไม่เป็นอะไร ให้แม่เข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ มีชีวิตสู้ให้ถึงวันที่ป๋าจะได้ออกมาเจอแม่นะ”
นั่นเป็นคำพูดสั้นๆของ “สนธิลิ้ม” ผู้สามี ที่ส่งสารผ่าน “ลูกชายคนเดียว” ไปยัง “จารย์ปุ๊” ผู้ภรรยา
จงเก็บน้ำตาอย่าให้ “สนธิลิ้ม” เห็น! จงอย่าท้อกับเรื่องที่เกิดกับ “สนธิลิ้ม” เด็ดขาด!
ใครบางคนทำทุกวิธีการ เพราะอยากให้ “สนธิลิ้ม” ติดคุก! ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลทหาร “บิ๊กตู่” แต่อย่างใด!
จงภูมิใจกับ “แกนนำ พธม. สนธิลิ้ม” ที่สละกายทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย! ด้วยการเดินเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เพื่อทำให้คำพิพากษาของศาลฎีกา-ศักดิ์สิทธิ์!
ขณะนี้..ศัตรูของชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ยังลอยนวลและพร้อมจะกลับมายึดอำนาจรัฐอยู่ตลอดเวลา
ราชสีห์สนธิลิ้ม และชาว พธม.ผู้รักชาติ ต้องเดินหน้าด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ต่อไป..
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ชะตาชีวิตมนุษย์ทุกคน..มีขึ้นมีลง..สุดท้าย-คือ-ความตาย..!
นั่นเป็น “บทเพลงชีวิตมนุษย์” ที่เป็นไป มนุษย์จึงมีคำว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” หากยึดธรรมเป็นสรณะก็มีคำว่า “เป็นวิบากกรรมของแต่ละคน”
ยุค “พิษลอยตัวค่าเงินบาท” จากฝีมือรัฐบาล “บิ๊กจิ๋ว-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” ได้ทำให้ค่าเงินบาทจากเดิม 25 บาท ต่อ US ดอลลาร์ กลายเป็น 50 บาท ส่งผลให้หนี้บริษัทที่กู้เงินจากต่างชาติเพิ่มขึ้นเท่าตัวทันที จนบริษัทมากมายของคนไทยต้องล้มครืนลงชั่วข้ามคืน
ทว่ามี“เศรษฐีบางคน” ได้กำไรมหาศาล จาก “ข้อมูลลับ” ของ “ใครคนหนึ่งในรัฐบาล” ยุคนั้น ทำให้ “เศรษฐีคนนั้น” ใช้เงินกำไรจากค่าเงินบาท มาเล่นการเมืองด้วยการซื้อเสียงเลือกตั้ง จนยึดอำนาจรัฐไทยได้สำเร็จ
แต่แทนที่ “นายกฯ รวยล้นฟ้า” จะทำเพื่อชาติ เขากลับโกงชาติอย่างมโหฬาร แถมจะเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เป็นประชาธิปไตยแบบชาติมะกัน
ด้วยการตั้งขบวนการโค่นล้ม สถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งลับและเปิดเผย ทำให้ “สนธิลิ้ม” ทนไม่ไหวจนต้องใช้สื่อในรายการของตน เปิดโปงความไม่ถูกต้องของรัฐบาล “เหลี่ยม” จนรายการทีวีของ “สนธิลิ้ม” ถูก “ปิดตาย”
“สนธิลิ้ม” จึงต้องจัดรายการ “สัปดาห์สัญจร” นอกจอ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะกลายเป็นการชุมนุมใหญ่ของประชาชน ในนาม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)”
“พธม.” ยุคนั้น นำโดย “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สนธิ ลิ้มทองกุล พิภพ ธงไชย สมศักดิ์ โกศัยสุข สมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์” มี “สุริยะใส กตะกศิลา” เป็นเลขาฯ ร่วมกับประชาชนมากมาย ชุมนุมขับไล่รัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม ”หลายระลอก ด้วยสองมือเปล่า โดยไม่กลัวเกรงต่อความตาย จากอำนาจรัฐอธรรมที่ใช้อาวุธสงคราม ลอบเข่นฆ่าชาว “พธม.” ครั้งแล้วครั้งเล่า
“แกนนำ” และชาว “พธม.” ต่อสู้แบบ “เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย” จนกว่าจะชนะ ในที่สุด..รัฐบาล “เหลี่ยม” ต้องล้มครืนลง เพราะถูกกองทัพทำรัฐประหาร ตามด้วยรัฐบาล “จมูกชมพู่” นอมีนีของ “เหลี่ยม” ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯตามคำตัดสินของศาล เรียกว่า..เป็น “นายกฯปลาตายน้ำ ตื้น” โดยแท้
สุดท้าย..นายกรัฐมนตรี “ชายม่านรูด” ที่เป็นน้องเขย “เหลี่ยม” ก็โดน “ชาวพธม.” ชุมนุมขับไล่จนรัฐบาลต้องล้มครืนลงไม่เป็นท่า เพราะมี “มือลึกลับ” ทำการ “พลิกขั้วการเมือง” จน “ชายม่านรูด” ตกจากเก้าอี้นายกฯ โดย “หล่อจ้อเก่ง” ได้เป็น“นายกฯ ส้มหล่น” แทน
ตลอดช่วงการต่อสู้ของ “พธม.” ครั้งนั้น ทำให้รัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่าย ที่ใช้อำนาจรัฐปล้นชาติ และบังอาจ “ล้มเจ้า” เพื่อหวังจะเปลี่ยนการเมืองไทย ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมะกัน ต้องพังพาบลงถึง 3 รัฐบาล
ผลจากการต่อสู้กับรัฐบาลทุนนิยมสามานย์ของ “เหลี่ยม” เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ทำให้ “ชาวพธม.” จำนวนหนึ่งบาดเจ็บล้มตาย! “แกนนำทั้งหลาย” และ “ชาวพธม.” นับร้อย ต้องต่อสู้คดีความอยู่ในศาลจนทุกวันนี้! หลายคนต้องเดินเฉียดคุกตะราง! บางคนต้องติดคุกไปแล้ว! ฯลฯ
“สนธิลิ้ม” มีคดีความสารพัดทั้งเก่าใหม่ ต้องขึ้นศาลเป็นว่าเล่น แถม “สนธิลิ้ม” ยัง “เฉียดความตาย” จากการถูกรุมยิงด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด ในยุครัฐบาล “หล่อจ้อเก่ง” ครองเมืองอีกด้วย
อันเป็นผลจากการทำความดี ให้กับชาติบ้านเมืองของ “สนธิลิ้ม” ที่ไปกระทบต่อผลประโยชน์มากมาย ของ “คนหลายกลุ่ม” ที่มีอำนาจในชาติไทย โชคดี-ที่การทำดีเพื่อชาตินั้น ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “สนธิลิ้ม” เคารพนับถือ เห็นและช่วยให้รอดพ้นจากความตายได้หวุดหวิดราวปาฏิหาริย์
เฉียดตาย..ก็มิได้ทำให้ “สนธิลิ้ม” เกรงกลัว เพราะ “สนธิลิ้ม” และสื่อในเครือข่าย ยังเดินหน้าต่อสู้เพื่อชาติต่อไป ด้วยการวิจารณ์ทุกรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา และชื่นชมผู้มีอำนาจที่ทำดีอยู่เสมอ
แถม “สนธิลิ้ม” ยังประกาศในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่ว่า ได้อโหสิกรรมให้กับกลุ่มคน ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการสังหารเขา ซึ่งหลายคนโดนหมายจับอย่างชัดแจ้ง แต่ไม่มีรัฐบาลใดกล้าจับตัวมาดำเนินคดี จนมือสังหารบางคนได้สิ้นชีวิตไปแล้ว
โดย “สนธิลิ้ม” ยึดหลักการว่า ใครก็ตามหากหันกลับมาทำคุณงามความดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ล้วนสมควรได้รับการให้อภัย ยกเว้นกลุ่มคนชั่วโดยสันดาน ที่มุ่งยึดอำนาจรัฐด้วยการโกงเลือกตั้ง เพื่อโกงชาติและล้มเจ้า ที่ก่อจลาจลเผาบ้านเมือง ก่อการร้ายฆ่าทหารและประชาชน ก่อวิกฤตอันชั่วร้ายให้ชาติมาจนทุกวันนี้
รัฐบาลทหาร “บิ๊กตู่” เกิดขึ้น หลังการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง กับรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” ของ “แกนนำและชาว กกปส.” จน “ชาว กกปส.” ต้องบาดเจ็บล้มตายมิใช่น้อย วันนี้..คนโกงชาติยังลอยนวล และยังทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่หยุดหย่อน
รัฐบาล “บิ๊กตู่” ยึดกระบวนการยุติธรรมเป็นที่ตั้ง แต่ศาลยุติธรรมของชาติไทย มักโดน “เหลี่ยม” กับพวกให้ร้ายป้ายสีว่า กลั่นแกล้งลงโทษแต่ฝ่าย “เหลี่ยม” กับพวก โดยไม่เคยมองถึงการกระทำชั่วอย่างมากมาย ที่พวกตนทำต่อชาติแม้แต่น้อย
แถม “เหลี่ยม” ยังหนีคำสั่งจำคุกสองปีของศาลมาจนทุกวันนี้ แต่กลับใช้ศาลที่พวกตนประณาม ฟ้องฝ่ายตรงข้ามมากมาย ทั้ง “กลุ่มพธม.” และ “กกปส.” ล้วนถูก “เหลี่ยม” ฟ้องกันถ้วนหน้า
โดย “เหลี่ยม” ในฐานะโจทก์ ไม่เคยปรากฏตัวให้ฝ่ายจำเลยได้ซักค้านเลย อีกทั้งเอกสารคำฟ้องจะใช่ลายเซ็นจริงของ “เหลี่ยม” ไหม? โจทก์แบบ “เหลี่ยม” เอาเปรียบ และไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายจำเลยใช่ไหม? ทั้งยังทำให้ศาลสถิตยุติธรรมของชาติไทย เสียหายใช่ไหม?
ล่าสุด “สนธิลิ้ม” ถูกศาลฎีกาพิพากษา ให้ถูกจำคุก 20 ปีในคดีเศรษฐกิจ ยืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ “สนธิลิ้ม” เดินเข้าเรือนจำโดยไม่ลังเล แม้ “สนธิลิ้ม” มีโอกาสหนีมากมาย-แต่ไม่เคยคิดหนี!
“ผมไม่เคยมีความคิด ที่จะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ทั้งๆ ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกทั้ง 2 ศาล ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะผมมีศักดิ์ศรี มีครอบครัว มีลูกน้อง และมีพี่น้องพันธมิตรที่จะได้เชิดหน้าไม่อายใคร สำคัญที่สุดเหนืออื่นใด คือ ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม”
“สนธิลิ้ม” มิใช่ “ทักษิณชิน” ที่ศาลตัดสิน-ปล่อย ก็ชมศาลมีความยุติธรรม! พอศาลตัดสินให้ติดคุกก็ประณามว่า-ศาลไม่ยุติธรรม! แล้วยังหลอกศาล-หนีคำตัดสิน-หนีคุก หายหัวไปอยู่ต่างแดนจนทุกวันนี้
“สนธิลิ้ม” ถือว่า “คุกขังได้แต่กาย” ส่วนใจรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-รักความถูกต้องนั้น “ใครก็ขังใจ-สนธิลิ้ม-ไม่ได้”
พธม. คือ “ราชสีห์ปกป้องชาติ” ที่ต่อสู้กับ “ฝูงสุนัขกัดกินชาติ” หนึ่งใน “แกนนำ พธม.”เดินหน้าเข้าคุก ตามคำสั่งศาลฎีกาเยี่ยง “ราชสีห์” แต่ “แกนนำสุนัขหลายตัว”กลับหนีคำสั่งศาล และหนีคุกเร่ร่อนอยู่ต่างแดนจนทุกวันนี้
สนธิ ลิ้มทองกุล ชายวัย 68 ปี ที่ไม่กลัวความตาย เดินเข้าคุกอย่างสง่างาม หลังสิ้นเสียงคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 20 ปี ทั้งๆที่ภรรยาร่วมชีวิต “อ.จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง!
จากใจลูกชาย สนธิ ลิ้มทองกุล “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” เขียนถึงคำพูดก่อนไปสู่เรือนจำว่า
“บอกแม่ว่าป๋าไม่เป็นอะไร ให้แม่เข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ มีชีวิตสู้ให้ถึงวันที่ป๋าจะได้ออกมาเจอแม่นะ”
นั่นเป็นคำพูดสั้นๆของ “สนธิลิ้ม” ผู้สามี ที่ส่งสารผ่าน “ลูกชายคนเดียว” ไปยัง “จารย์ปุ๊” ผู้ภรรยา
จงเก็บน้ำตาอย่าให้ “สนธิลิ้ม” เห็น! จงอย่าท้อกับเรื่องที่เกิดกับ “สนธิลิ้ม” เด็ดขาด!
ใครบางคนทำทุกวิธีการ เพราะอยากให้ “สนธิลิ้ม” ติดคุก! ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลทหาร “บิ๊กตู่” แต่อย่างใด!
จงภูมิใจกับ “แกนนำ พธม. สนธิลิ้ม” ที่สละกายทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย! ด้วยการเดินเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เพื่อทำให้คำพิพากษาของศาลฎีกา-ศักดิ์สิทธิ์!
ขณะนี้..ศัตรูของชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ยังลอยนวลและพร้อมจะกลับมายึดอำนาจรัฐอยู่ตลอดเวลา
ราชสีห์สนธิลิ้ม และชาว พธม.ผู้รักชาติ ต้องเดินหน้าด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่ต่อไป..