ผบก.น.2 พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจห้องขังดีเอสไอที่อดีตที่ดิน จ.พังงา ผูกคอดับ เบื้องต้นไม่พบกล้องวงจรปิดภายในห้อง น้องชายผู้ตายรีบรุดเข้าร่วมตรวจสอบ ย้อนถามหน่วยงานระดับชาติปล่อยเซิร์ฟเวอร์พัง-กล้องเสียได้อย่างไร ด้านป.ป.ช.ระงับคดี "ที่ดินพังงา" เหตุเสียชีวิต แต่เดินหน้าไต่สวนผู้กระทำผิดคนอื่นต่อ
วานนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 6 ของอาคาร หลังนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยก่อนเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุว่า ในวันนี้เดินทางมาตรวจสอบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้สอบปากคำพยานเพิ่มบางปากซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงมาเพื่อพิสูจน์ทราบระหว่างคำให้การกับสถานที่เกิดเหตุว่าสอดคล้องกันหรือไม่ โดยที่มี พฐ.เข้าร่วมด้วย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในห้องควบคุมผู้ต้องหาไม่มีกล้องวงจรปิด
พล.ต.ต.เจริญเผยอีกว่า สำหรับการตรวจสอบของ พฐ. หากทำครบแล้วแต่ก็สามารถเข้าตรวจสอบได้เรื่อยๆ ตามสถานการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดสรุปคดีภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้งเหตุ และถ้าไม่เสร็จสิ้นก็สามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 30 วัน
ต่อมาเวลา 10.20 น. นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย อนุกูล เดินทางมายังดีเอสไอเพื่อขอร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าได้ทราบจากสื่อมวลชนว่าทางดีเอสได้ประสานตำรวจ บก.น.2 ในการขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพในวันเกิดเหตุ แต่ดีเอสไอกลับไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ ทั้งที่ตนเคยแจ้งว่าหากจะมีความคืบหน้าอะไรให้แจ้งให้ตนทราบด้วย
นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เชิญให้ตนมาดูห้องเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดแต่กลับให้ไปเซ็นคำร้องยินยอมให้ผ่าชันสูตรศพนายธวัชชัยเป็นครั้งที่ 2 พร้อมระบุว่า กล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณทางเดินไม่สามารถบันทึกภาพได้เพราะเซิร์ฟเวอร์เสีย ซึ่งตนมีข้อสงสัยว่าทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอุปกรณ์ต่างๆ จะเสียหาย ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูงระดับประเทศปล่อยให้มีเครื่องมือเป็นแบบนี้ได้อย่างไร แต่ละปีมีงบประมาณสนับสนุนจำนวนไม่น้อย แต่กลับอ้างว่าเซิร์ฟเวอร์เสียจึงอยากขอคำชี้แจง
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยหลังเข้าตรวจสอบเสร็จสิ้นว่า หลังจากได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาตรวจสอบบางอย่างอีกครั้งตามข้อสงสัยและมี พฐ.ร่วมด้วย ซึ่งการตรวจสอบซ้ำเพื่อหาประเด็นใหม่ๆ จากก่อนหน้านี้ โดย พฐ.จะตรวจสอบทุกจุดที่ยังมีข้อสงสัยเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนรายงานกลับมาให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง
“สำหรับเรื่องกล้องวงจรปิดต้องขอจากดีเอสไอซึ่งมีอยู่แล้วและกำลังเร่งดำเนินการ ส่วนกรณีเซิร์ฟเวอร์เสียนั้นไม่ทราบ ต้องถามดีเอสไอ ส่วนการทำสรุปสำนวนคดี คาดว่าเวลา 30 วันน่าจะเพียงพอ ไม่ต้องขอขยายเวลาออกไปอีก” รอง ผบก.น.2 กล่าว
ด้าน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณี นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชาย นายธวัชชัย ซึ่งเสียชีวิตภายในห้องควบคุมของ ดีเอสไอ ไม่ได้รับการประสานขึ้นไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุร่วมกับ พฐ. ในวันนี้เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเสียก่อนจึงจะเชิญ นายชัยณรงค์ มาร่วมด้วยทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับตำรวจ
"ส่วนที่ นายชัยณรงค์ ระบุว่ากล้องเซิฟเวอร์เสียนั้น หากเป็นเรื่องจริงก็สามารถกู้ระบบได้แต่อาจต้องใช้เวลาสักพัก นอกจากนี้ การผ่าชันสูตรศพนั้นต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกลางที่เป็นแพทย์จากโรงพยาบาล เมื่อมีการประชุมได้ข้อสรุปก็สามารถผ่าชันสูตรศพที่ใดก็ได้" นายชาญเชาวน์ กล่าว
***ป.ป.ช.เดินหน้าไต่สวนผู้กระทำผิดคนอื่นต่อ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวของ กรมสอบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนอยู่ของป.ป.ช. ว่า คดีที่นายธวัชชัย ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างไต่สวนป.ป.ช.มีประมาณ 3 -4 คดี และอีกหลายคดีได้มีการชี้มูลความผิดไปแล้ว จึงได้มีการออกหมายจับกุม แต่เมื่อนายธวัชชัย เสียชีวิต คดีความทางอาญาจึงถูกระงับไปด้วยการตายของผู้กระทำความผิด แต่ในคดีเดียวกันนั้น หากมีผู้ร่วมกระทำความผิดอื่นคดีจะยังคงต้องเดินไปต่อ เป็นการระงับคดีเฉพาะตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 3 (สตร.3) กำลังจะรวบรวมรายละเอียดเพื่อมารายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.
วานนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา ชั้น 6 ของอาคาร หลังนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ใช้ถุงเท้าผูกคอเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยก่อนเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุว่า ในวันนี้เดินทางมาตรวจสอบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้สอบปากคำพยานเพิ่มบางปากซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงมาเพื่อพิสูจน์ทราบระหว่างคำให้การกับสถานที่เกิดเหตุว่าสอดคล้องกันหรือไม่ โดยที่มี พฐ.เข้าร่วมด้วย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในห้องควบคุมผู้ต้องหาไม่มีกล้องวงจรปิด
พล.ต.ต.เจริญเผยอีกว่า สำหรับการตรวจสอบของ พฐ. หากทำครบแล้วแต่ก็สามารถเข้าตรวจสอบได้เรื่อยๆ ตามสถานการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดสรุปคดีภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้งเหตุ และถ้าไม่เสร็จสิ้นก็สามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 30 วัน
ต่อมาเวลา 10.20 น. นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย อนุกูล เดินทางมายังดีเอสไอเพื่อขอร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าได้ทราบจากสื่อมวลชนว่าทางดีเอสได้ประสานตำรวจ บก.น.2 ในการขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพในวันเกิดเหตุ แต่ดีเอสไอกลับไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ ทั้งที่ตนเคยแจ้งว่าหากจะมีความคืบหน้าอะไรให้แจ้งให้ตนทราบด้วย
นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เชิญให้ตนมาดูห้องเกิดเหตุและกล้องวงจรปิดแต่กลับให้ไปเซ็นคำร้องยินยอมให้ผ่าชันสูตรศพนายธวัชชัยเป็นครั้งที่ 2 พร้อมระบุว่า กล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณทางเดินไม่สามารถบันทึกภาพได้เพราะเซิร์ฟเวอร์เสีย ซึ่งตนมีข้อสงสัยว่าทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอุปกรณ์ต่างๆ จะเสียหาย ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูงระดับประเทศปล่อยให้มีเครื่องมือเป็นแบบนี้ได้อย่างไร แต่ละปีมีงบประมาณสนับสนุนจำนวนไม่น้อย แต่กลับอ้างว่าเซิร์ฟเวอร์เสียจึงอยากขอคำชี้แจง
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยหลังเข้าตรวจสอบเสร็จสิ้นว่า หลังจากได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาตรวจสอบบางอย่างอีกครั้งตามข้อสงสัยและมี พฐ.ร่วมด้วย ซึ่งการตรวจสอบซ้ำเพื่อหาประเด็นใหม่ๆ จากก่อนหน้านี้ โดย พฐ.จะตรวจสอบทุกจุดที่ยังมีข้อสงสัยเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนรายงานกลับมาให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง
“สำหรับเรื่องกล้องวงจรปิดต้องขอจากดีเอสไอซึ่งมีอยู่แล้วและกำลังเร่งดำเนินการ ส่วนกรณีเซิร์ฟเวอร์เสียนั้นไม่ทราบ ต้องถามดีเอสไอ ส่วนการทำสรุปสำนวนคดี คาดว่าเวลา 30 วันน่าจะเพียงพอ ไม่ต้องขอขยายเวลาออกไปอีก” รอง ผบก.น.2 กล่าว
ด้าน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณี นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชาย นายธวัชชัย ซึ่งเสียชีวิตภายในห้องควบคุมของ ดีเอสไอ ไม่ได้รับการประสานขึ้นไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุร่วมกับ พฐ. ในวันนี้เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเสียก่อนจึงจะเชิญ นายชัยณรงค์ มาร่วมด้วยทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับตำรวจ
"ส่วนที่ นายชัยณรงค์ ระบุว่ากล้องเซิฟเวอร์เสียนั้น หากเป็นเรื่องจริงก็สามารถกู้ระบบได้แต่อาจต้องใช้เวลาสักพัก นอกจากนี้ การผ่าชันสูตรศพนั้นต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกลางที่เป็นแพทย์จากโรงพยาบาล เมื่อมีการประชุมได้ข้อสรุปก็สามารถผ่าชันสูตรศพที่ใดก็ได้" นายชาญเชาวน์ กล่าว
***ป.ป.ช.เดินหน้าไต่สวนผู้กระทำผิดคนอื่นต่อ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวของ กรมสอบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนอยู่ของป.ป.ช. ว่า คดีที่นายธวัชชัย ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างไต่สวนป.ป.ช.มีประมาณ 3 -4 คดี และอีกหลายคดีได้มีการชี้มูลความผิดไปแล้ว จึงได้มีการออกหมายจับกุม แต่เมื่อนายธวัชชัย เสียชีวิต คดีความทางอาญาจึงถูกระงับไปด้วยการตายของผู้กระทำความผิด แต่ในคดีเดียวกันนั้น หากมีผู้ร่วมกระทำความผิดอื่นคดีจะยังคงต้องเดินไปต่อ เป็นการระงับคดีเฉพาะตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 3 (สตร.3) กำลังจะรวบรวมรายละเอียดเพื่อมารายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.
