แนวความคิดของพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการยกเลิกสินบนนำจับยาเสพติด ถูกพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สวนกลับทันที โดยออกมาประกาศไม่เห็นด้วย
คำถามที่พล.อ.ไพบูลย์ตั้งไว้คือ ทำไมต้องจ่ายสินบนนำจับยาเสพติด เพราะตำรวจมีหน้าที่จับกุมอยู่แล้ว จึงไม่มีประโยชน์และไม่มีเหตุผลที่ต้องจ่ายเพื่อจับกุม
แต่พล.ต.อ.จักรทิพย์อ้างว่า สินบนนำจับ เป็นการสร้างแรงจูงใจในการจับกุมผู้กระทำความผิด และอะไรที่ดีก็ต้องคงไว้ โดยสินบนนำจับน่าจะเพิ่มจำนวนเงินด้วยซ้ำ
การแสดงท่าทีคัดค้านการยกเลิกสินบนนำจับของพล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นการปกป้อง “หม้อข้าว” ของตำรวจไม่ให้ถูกทุบ และต้องถือเป็นการแสดงท่าทีที่ห้าวมาก
เพราะไม่บ่อยนักที่ข้าราชการประจำ ระดับอธิบดี จะลุกขึ้นมาประกาศ “ชน” กับรัฐมนตรี โดยเฉพาะในยุครัฐบาลทหาร
มีกระแสความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ในการเรียกร้องให้ยกเลิกสินบนนำจับคดียาเสพติดและความผิดในพ.ร.บ.จราจร เพราะไม่มีความจำเป็น และนอกจากปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้แล้ว ยังเป็นช่องทางที่ตำรวจใช้หากินด้วย
สินบนนำจับคดียาเสพติด ถูกใช้เป็นช่องทางในการรีดทรัพย์ผู้กระทำความผิด แลกเปลี่ยนกับการไม่ดำเนินคดี หรือการเวียนของกลางยาเสพติด เพื่อเพิ่มจำนวนยาเสพติดที่จับกุม นำไปสู่วงเงินสินบนนำจับที่เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับสินบนความผิดจราจร ยิ่งเพิ่มจำนวนค่าปรับ ยิ่งทำให้ตำรวจเพิ่มวงเงินรีดไถจากผู้ทำผิดกฎจราจรมากขึ้น โดยที่ปัญหาจราจรไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
พล.ต.อ.จักรทิพย์และตำรวจทั้งประเทศจำนวนกว่า 2 แสนคน ย่อมไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสินบนนำจับ เพราะตำรวจมีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินก้อนนี้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับพล.อ.ไพบูลย์
และสนับสนุนการประกาศยกเลิกสินบนนำจับของตำรวจในทุกรูปแบบ
เพราะตำรวจไม่ควรมีอภิสิทธิ์เหนือข้าราชการหน่วยอื่น และตำรวจก็ไม่ใช่ “เทวดา” ที่รัฐจะต้องดูแลเป็นพิเศษ
ถ้าจะอ้างว่าเงินเดือนน้อย ต้องกางบัญชีเงินเดือนมาดูกัน กางเบี้ยเลี้ยงหรือเงินได้อื่นมาเปรียบเทียบว่า ตำรวจเงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการหน่วยงานอื่นจริงหรือเปล่า
ไม่ใช่อ้างกันส่งเดชว่า เงินเดือนไม่พอกิน
และถ้าจะอ้างว่า ลักษณะงานมีความเสี่ยงภัยสูง จึงต้องมีรางวัลจูงใจการทำงาน ต้องเทียบกับทหารตามชายแดน หรือในพื้นที่ภาคใต้ว่า มีความเสี่ยงต่ำกว่าตำรวจหรืออย่างไร และมีรางวัลจูงใจการปฏิบัติหน้าที่มากกว่าตำรวจหรือไม่
สินบนนำจับ ไม่รู้ว่ามีประเทศไหนบ้างที่จ่าย โดยเฉพาะสินบนนำจับความผิดจราจร ซึ่งมีไทยเพียงประเทศเดียวที่จ่าย ดังนั้น ถ้าจะยกเลิก จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะถ้าใช้สินบนนำจับเป็นสิ่งสร้างแรงจูงใจการทำงานของตำรวจ ข้าราชการหน่วยงานอื่นก็คงต้องใช้ข้ออ้างเดียวกับตำรวจ ในการขอสินบนนำจับบ้าง
เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรก็มีสิทธิขอสินบนนำจับในการตามเก็บภาษี พนักงานการไฟฟ้าทั้งหมด ก็ต้องจ่ายสินบนในการตามเก็บค่าใช้ไฟฟ้าจากประชาชน
สุดท้ายทุกหน่วยงานจะต้องตั้งสินบนนำจับกันหมด ไม่เช่นนั้นข้าราชการจะหมดกำลังใจทำงาน
ต้องถามพล.ต.อ.จักรทิพย์ว่า ถ้าเลิกสินบนนำจับแล้ว ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตกลงจะไม่ทำงานกันใช่หรือไม่ ตำรวจจราจรจะไม่กวดขันผู้กระทำผิดกฎจราจรใช่หรือไม่
ถ้าใช่ต้องถามต่อไปว่า จะมีตำรวจไว้ให้เปลืองเงินงบประมาณทำไม โละตำรวจทิ้งไม่ดีกว่าหรือ
การยกเลิกสินบนนำจับ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่น้อยนิดของการปฏิรูปตำรวจ แต่ตำรวจก็แสดงตัวออกมาแล้วว่า จะไม่ยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยเฉพาะการตัดช่องทางทำมาหากินของตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเดินหน้านโยบายปราบทุจริตคอร์รัปชันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้ประเทศไทยปลอดคนโกง แต่ตราบใดที่ยังไม่ปฏิรูปตำรวจ ตราบใดที่ยังไม่แก้ปัญหาส่วยตำรวจ ไม่แก้ปัญหาตำรวจรีดไถและใช้เครื่องแบบหากิน
ตราบใดที่ยังไม่แก้ต้นธารของการโกง นโยบายปราบคอร์รัปชันก็เป็นเพียงการขายฝันเท่านั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นแหล่งหมักหมมการทุจริต ถ้าไม่สะสางทำความสะอาดองค์กรแห่งนี้ ประเทศไทยไม่มีวันปลอดจากการคอร์รัปชัน
คำถามที่พล.อ.ไพบูลย์ตั้งไว้คือ ทำไมต้องจ่ายสินบนนำจับยาเสพติด เพราะตำรวจมีหน้าที่จับกุมอยู่แล้ว จึงไม่มีประโยชน์และไม่มีเหตุผลที่ต้องจ่ายเพื่อจับกุม
แต่พล.ต.อ.จักรทิพย์อ้างว่า สินบนนำจับ เป็นการสร้างแรงจูงใจในการจับกุมผู้กระทำความผิด และอะไรที่ดีก็ต้องคงไว้ โดยสินบนนำจับน่าจะเพิ่มจำนวนเงินด้วยซ้ำ
การแสดงท่าทีคัดค้านการยกเลิกสินบนนำจับของพล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นการปกป้อง “หม้อข้าว” ของตำรวจไม่ให้ถูกทุบ และต้องถือเป็นการแสดงท่าทีที่ห้าวมาก
เพราะไม่บ่อยนักที่ข้าราชการประจำ ระดับอธิบดี จะลุกขึ้นมาประกาศ “ชน” กับรัฐมนตรี โดยเฉพาะในยุครัฐบาลทหาร
มีกระแสความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ในการเรียกร้องให้ยกเลิกสินบนนำจับคดียาเสพติดและความผิดในพ.ร.บ.จราจร เพราะไม่มีความจำเป็น และนอกจากปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ได้แล้ว ยังเป็นช่องทางที่ตำรวจใช้หากินด้วย
สินบนนำจับคดียาเสพติด ถูกใช้เป็นช่องทางในการรีดทรัพย์ผู้กระทำความผิด แลกเปลี่ยนกับการไม่ดำเนินคดี หรือการเวียนของกลางยาเสพติด เพื่อเพิ่มจำนวนยาเสพติดที่จับกุม นำไปสู่วงเงินสินบนนำจับที่เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับสินบนความผิดจราจร ยิ่งเพิ่มจำนวนค่าปรับ ยิ่งทำให้ตำรวจเพิ่มวงเงินรีดไถจากผู้ทำผิดกฎจราจรมากขึ้น โดยที่ปัญหาจราจรไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
พล.ต.อ.จักรทิพย์และตำรวจทั้งประเทศจำนวนกว่า 2 แสนคน ย่อมไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสินบนนำจับ เพราะตำรวจมีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินก้อนนี้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับพล.อ.ไพบูลย์
และสนับสนุนการประกาศยกเลิกสินบนนำจับของตำรวจในทุกรูปแบบ
เพราะตำรวจไม่ควรมีอภิสิทธิ์เหนือข้าราชการหน่วยอื่น และตำรวจก็ไม่ใช่ “เทวดา” ที่รัฐจะต้องดูแลเป็นพิเศษ
ถ้าจะอ้างว่าเงินเดือนน้อย ต้องกางบัญชีเงินเดือนมาดูกัน กางเบี้ยเลี้ยงหรือเงินได้อื่นมาเปรียบเทียบว่า ตำรวจเงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการหน่วยงานอื่นจริงหรือเปล่า
ไม่ใช่อ้างกันส่งเดชว่า เงินเดือนไม่พอกิน
และถ้าจะอ้างว่า ลักษณะงานมีความเสี่ยงภัยสูง จึงต้องมีรางวัลจูงใจการทำงาน ต้องเทียบกับทหารตามชายแดน หรือในพื้นที่ภาคใต้ว่า มีความเสี่ยงต่ำกว่าตำรวจหรืออย่างไร และมีรางวัลจูงใจการปฏิบัติหน้าที่มากกว่าตำรวจหรือไม่
สินบนนำจับ ไม่รู้ว่ามีประเทศไหนบ้างที่จ่าย โดยเฉพาะสินบนนำจับความผิดจราจร ซึ่งมีไทยเพียงประเทศเดียวที่จ่าย ดังนั้น ถ้าจะยกเลิก จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะถ้าใช้สินบนนำจับเป็นสิ่งสร้างแรงจูงใจการทำงานของตำรวจ ข้าราชการหน่วยงานอื่นก็คงต้องใช้ข้ออ้างเดียวกับตำรวจ ในการขอสินบนนำจับบ้าง
เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรก็มีสิทธิขอสินบนนำจับในการตามเก็บภาษี พนักงานการไฟฟ้าทั้งหมด ก็ต้องจ่ายสินบนในการตามเก็บค่าใช้ไฟฟ้าจากประชาชน
สุดท้ายทุกหน่วยงานจะต้องตั้งสินบนนำจับกันหมด ไม่เช่นนั้นข้าราชการจะหมดกำลังใจทำงาน
ต้องถามพล.ต.อ.จักรทิพย์ว่า ถ้าเลิกสินบนนำจับแล้ว ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตกลงจะไม่ทำงานกันใช่หรือไม่ ตำรวจจราจรจะไม่กวดขันผู้กระทำผิดกฎจราจรใช่หรือไม่
ถ้าใช่ต้องถามต่อไปว่า จะมีตำรวจไว้ให้เปลืองเงินงบประมาณทำไม โละตำรวจทิ้งไม่ดีกว่าหรือ
การยกเลิกสินบนนำจับ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่น้อยนิดของการปฏิรูปตำรวจ แต่ตำรวจก็แสดงตัวออกมาแล้วว่า จะไม่ยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยเฉพาะการตัดช่องทางทำมาหากินของตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังเดินหน้านโยบายปราบทุจริตคอร์รัปชันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้ประเทศไทยปลอดคนโกง แต่ตราบใดที่ยังไม่ปฏิรูปตำรวจ ตราบใดที่ยังไม่แก้ปัญหาส่วยตำรวจ ไม่แก้ปัญหาตำรวจรีดไถและใช้เครื่องแบบหากิน
ตราบใดที่ยังไม่แก้ต้นธารของการโกง นโยบายปราบคอร์รัปชันก็เป็นเพียงการขายฝันเท่านั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นแหล่งหมักหมมการทุจริต ถ้าไม่สะสางทำความสะอาดองค์กรแห่งนี้ ประเทศไทยไม่มีวันปลอดจากการคอร์รัปชัน
