ผู้จัดการรายวัน360 - อัยการแถลง เลื่อนสั่งคดี “พระธัมมชโย - ศุภชัย อดีต ปธ.สหกรณ์ยูเนี่ยนฯ - พวก ” ร่วมกันฟอกเงิน เหตุสอบเพิ่มยังไม่เสร็จ นัดฟังคำสั่งครั้งที่ 3 สิบโมงเช้า 6 ต.ค.นี้ ขณะที่ “ โฆษกอัยการ ” ย้ำขั้นตอนสั่งคดีโอนหุ้นชูวงษ์ ยังไม่จบ รอ รองอัยการสูงสุดพิจารณา
วานนี้ (30 ส.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวเลื่อนนัดสั่งคดี นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 1 และพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2 กับพวกรวม 5 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร
โดย ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้นายชาติพงษ์ จิรพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงาน ได้นัดฟังคำสั่งครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะทำงานก็ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการสอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น และให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมในวันที่ 11 ส.ค.พร้อมนัดให้น.ส. ศรัณยา มานหมัด ผู้ต้องหาที่ 3 และนางทองพิน กันล้อม ผู้ต้องหาที่ 4 มารายงานตัวเพื่อรับทราบคำสั่งทางคดีในวันที่ 30 ส.ค.นี้
** แย้มอาจเลื่อนอีก-อายุความเหลือๆ
ร.ท.สมนึก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้ต้องหาที่ 3 -4 ก็ได้มารายงานตามนัดแต่เนื่องจากอัยการได้รับผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากดีเอสไอไม่ครบถ้วน อีกทั้งเอกสารในสำนวนคดีนี้และเอกสารเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณามีจำนวนมาก มีเนื้อหาที่ซับซ้อน ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนสูง อัยการจึงต้องพิจารณาสั่งสำนวนคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงเลื่อนการสั่งคดีนี้ออกไป และนัดผู้ต้องหาที่ 3 - 4 มารายงานตัวเพื่อรับฟังคำสั่งในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ส่วนนายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่น สำหรับพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 ยังจับกุมตัวไม่ได้
“ คดีนี้ อัยการสูงสุด ได้เร่งรัด และกำชับให้ความสำคัญในระดับต้นๆ ส่วนประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งมาให้อัยการนั้นมีรายละเอียดที่ซับซ้อนต้องใช้เวลารวบรวมบางเรื่อง ซึ่งวันที่ 6 ต.ค. ถือเป็นกรอบเวลาที่ดีที่สุด แต่ถ้าในวันดังกล่าวคณะทำงานอัยการยังไม่พร้อม เงื่อนเวลาการสั่งคดีอาจจะเลื่อนออกไปอีกได้ แต่ไม่มีผลกระทบอะไร เนื่องจากคดีนี้มีอายุความหลายปี ”โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว
เมื่อถามว่า ประเด็นที่สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ยังคงเหลือเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้สอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และพระลูกวัด
นายประยุทธ กล่าวว่า เป็นความลับในสำนวน หากเปิดเผยไปจะทำให้เสียรูปคดี และไม่ให้ความธรรมกับคู่ความ
**รอความเห็น อสส. คดี”ชูวงษ์”
ร.ท. สมนึก ยังกล่าวย้ำถึงขั้นตอนการพิจารณาสำนวนคดีปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ มูลค่า 300 ล้านบาท ด้วยว่า ต้องรอให้ รองอัยการสูงสุดทำความเห็นก่อน หากมีความเห็นไม่ฟ้องเช่นเดียวกับอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ก็ต้องส่งสำนวนให้ ผบ.ตร. ตาม ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 เพื่อพิจารณาทำความเห็นทางคดีมาและให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด แต่หากรองอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะส่งเรื่องให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อไป ซึ่งการพิจารณาคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน.
วานนี้ (30 ส.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวเลื่อนนัดสั่งคดี นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 1 และพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2 กับพวกรวม 5 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร
โดย ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้นายชาติพงษ์ จิรพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงาน ได้นัดฟังคำสั่งครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะทำงานก็ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการสอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น และให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมในวันที่ 11 ส.ค.พร้อมนัดให้น.ส. ศรัณยา มานหมัด ผู้ต้องหาที่ 3 และนางทองพิน กันล้อม ผู้ต้องหาที่ 4 มารายงานตัวเพื่อรับทราบคำสั่งทางคดีในวันที่ 30 ส.ค.นี้
** แย้มอาจเลื่อนอีก-อายุความเหลือๆ
ร.ท.สมนึก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้ต้องหาที่ 3 -4 ก็ได้มารายงานตามนัดแต่เนื่องจากอัยการได้รับผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากดีเอสไอไม่ครบถ้วน อีกทั้งเอกสารในสำนวนคดีนี้และเอกสารเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณามีจำนวนมาก มีเนื้อหาที่ซับซ้อน ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนสูง อัยการจึงต้องพิจารณาสั่งสำนวนคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงเลื่อนการสั่งคดีนี้ออกไป และนัดผู้ต้องหาที่ 3 - 4 มารายงานตัวเพื่อรับฟังคำสั่งในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ส่วนนายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่น สำหรับพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 ยังจับกุมตัวไม่ได้
“ คดีนี้ อัยการสูงสุด ได้เร่งรัด และกำชับให้ความสำคัญในระดับต้นๆ ส่วนประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมที่ดีเอสไอส่งมาให้อัยการนั้นมีรายละเอียดที่ซับซ้อนต้องใช้เวลารวบรวมบางเรื่อง ซึ่งวันที่ 6 ต.ค. ถือเป็นกรอบเวลาที่ดีที่สุด แต่ถ้าในวันดังกล่าวคณะทำงานอัยการยังไม่พร้อม เงื่อนเวลาการสั่งคดีอาจจะเลื่อนออกไปอีกได้ แต่ไม่มีผลกระทบอะไร เนื่องจากคดีนี้มีอายุความหลายปี ”โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว
เมื่อถามว่า ประเด็นที่สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ยังคงเหลือเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้สอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และพระลูกวัด
นายประยุทธ กล่าวว่า เป็นความลับในสำนวน หากเปิดเผยไปจะทำให้เสียรูปคดี และไม่ให้ความธรรมกับคู่ความ
**รอความเห็น อสส. คดี”ชูวงษ์”
ร.ท. สมนึก ยังกล่าวย้ำถึงขั้นตอนการพิจารณาสำนวนคดีปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ มูลค่า 300 ล้านบาท ด้วยว่า ต้องรอให้ รองอัยการสูงสุดทำความเห็นก่อน หากมีความเห็นไม่ฟ้องเช่นเดียวกับอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ก็ต้องส่งสำนวนให้ ผบ.ตร. ตาม ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 เพื่อพิจารณาทำความเห็นทางคดีมาและให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด แต่หากรองอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะส่งเรื่องให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อไป ซึ่งการพิจารณาคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน.