ผู้จัดการรายวัน360-"พาณิชย์"เผยเอกชนยื่นประมูลซื้อข้าวรวม 15 ราย ปริมาณ 9.19 แสนตัน จากที่เปิดระบายกว่า 1 ล้านตัน เตรียมพิจารณาผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำหรือไม่ หากผ่านจะเสนอ นบข. อนุมัติต่อไป ส่วนการเปิดระบายรอบใหม่ ขอประเมินสถานการณ์ก่อน ยันจะแข่งประมูลขายข้าวฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตันวันที่ 31 ส.ค.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการเปิดซองเสนอราคาประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน แบ่งเป็นการประมูลทั่วไปปริมาณ 7.5 แสนตัน และการจำหน่ายทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรม 2.55 แสนตัน ว่า ในส่วนของการประมูลทั่วไป มีผู้มายื่นเสนอราคา 13 ราย โดยเสนอราคาสูงสุดทั้งหมด 8 ราย ใน 28 คลัง ปริมาณ 7.5 แสนตัน หรือคิดเป็น 100% ของปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด มูลค่าที่เสนอซื้อ 7,403 ล้านบาท ส่วนการเปิดประมูลทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรม มีผู้มายื่นซองเสนอราคา 10 ราย เสนอราคาสูงสุด 7 ราย ใน 18 คลัง ปริมาณ 1.69 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 66.12% ของปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด มูลค่า 1,024 ล้านบาท
“การยื่นประมูลทั้ง 2 รูปแบบ มีผู้มายื่นซองเสนอราคาสูงสุดรวม 15 ราย ปริมาณข้าว 9.19 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 8,427 ล้านบาท ซึ่งคณะทำงานพิจารณาการระบายข้าวจะมีการประชุมในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยจะพิจารณาว่าราคาที่เสนอสูงสุดผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำที่กำหนดหรือไม่ หากผ่านเกณฑ์ ก็จะนำผลสรุปเสนอต่อประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่ออนุมัติภายในต้นเดือน ก.ย.นี้” นางดวงพร กล่าว
**ปีนี้ส่งออกข้าวแล้วเกือบแสนล้านบ.
นางดวงพร กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดระบายข้าวรอบต่อไป กรมฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะมีปัจจัยที่จะต้องพิจารณามากขึ้น เช่น ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาช่วงปลายปี ซึ่งอาจต้องติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน หากสถานการณ์พอเป็นไปได้ที่จะเปิดระบายข้าว ก็จะพิจารณาระบาย ส่วนจะระบายปริมาณเท่าใด ต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยต้องสำรวจดูข้าวที่มีอยู่ในคลังประกอบด้วยว่าเป็นข้าวที่เหมาะสมจะระบายแบบใด สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ตลาดข้าวในปัจจุบัน ไม่ถึงขึ้นเงียบ ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามา โดยในวันนี้ (31 ส.ค.) ไทยจะเข้าร่วมเสนอราคาข้าวขาว 25% ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดนำเข้าปริมาณ 2.5 แสนตัน ซึ่งยืนยันว่าจะสู้ราคาในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะคำสั่งซื้อดังกล่าวจะรองรับผลผลิตข้าวใหม่ที่กำลังจะออกมา และคาดว่าฟิลิปปินส์จะมีการเปิดนำเข้าข้าวอีกหลายรอบ ส่วนอินโดนีเซียคาดว่าก็จะมีการเปิดนำเข้าข้าวในปลายปีด้วยเช่นเดียวกัน
นางดวงพร กล่าวด้วยว่า สำหรับ ประเทศจีน กรมฯได้ทำหนังสือติดตามถึงการเปิดนำเข้าข้าวในส่วนของ 1 ล้านตันแรกที่ทำสัญญาซื้อขายในรัฐบาลชุดปัจจุบันแล้ว แต่ยอมรับว่าจีนมีผลผลิตข้าวในประเทศออกมามาก หากมีการนำเข้าข้าว ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาภายใน โดยกรมฯ จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่ได้ลงนามระหว่างกันไว้ ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ส.ค.2559 ส่งออกได้แล้วปริมาณ 6.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.2% มูลค่า 9.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ยอมรับว่ามีผลต่อการส่งออกข้าวไทย เพราะค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น 1 บาท จะทำให้มูลค่าการขายข้าวหายไป 10 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของข้าวไทย.
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการเปิดซองเสนอราคาประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน แบ่งเป็นการประมูลทั่วไปปริมาณ 7.5 แสนตัน และการจำหน่ายทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรม 2.55 แสนตัน ว่า ในส่วนของการประมูลทั่วไป มีผู้มายื่นเสนอราคา 13 ราย โดยเสนอราคาสูงสุดทั้งหมด 8 ราย ใน 28 คลัง ปริมาณ 7.5 แสนตัน หรือคิดเป็น 100% ของปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด มูลค่าที่เสนอซื้อ 7,403 ล้านบาท ส่วนการเปิดประมูลทั่วไปและเข้าอุตสาหกรรม มีผู้มายื่นซองเสนอราคา 10 ราย เสนอราคาสูงสุด 7 ราย ใน 18 คลัง ปริมาณ 1.69 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 66.12% ของปริมาณที่เปิดระบายทั้งหมด มูลค่า 1,024 ล้านบาท
“การยื่นประมูลทั้ง 2 รูปแบบ มีผู้มายื่นซองเสนอราคาสูงสุดรวม 15 ราย ปริมาณข้าว 9.19 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 8,427 ล้านบาท ซึ่งคณะทำงานพิจารณาการระบายข้าวจะมีการประชุมในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยจะพิจารณาว่าราคาที่เสนอสูงสุดผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำที่กำหนดหรือไม่ หากผ่านเกณฑ์ ก็จะนำผลสรุปเสนอต่อประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่ออนุมัติภายในต้นเดือน ก.ย.นี้” นางดวงพร กล่าว
**ปีนี้ส่งออกข้าวแล้วเกือบแสนล้านบ.
นางดวงพร กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดระบายข้าวรอบต่อไป กรมฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะมีปัจจัยที่จะต้องพิจารณามากขึ้น เช่น ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะออกมาช่วงปลายปี ซึ่งอาจต้องติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน หากสถานการณ์พอเป็นไปได้ที่จะเปิดระบายข้าว ก็จะพิจารณาระบาย ส่วนจะระบายปริมาณเท่าใด ต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยต้องสำรวจดูข้าวที่มีอยู่ในคลังประกอบด้วยว่าเป็นข้าวที่เหมาะสมจะระบายแบบใด สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ตลาดข้าวในปัจจุบัน ไม่ถึงขึ้นเงียบ ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามา โดยในวันนี้ (31 ส.ค.) ไทยจะเข้าร่วมเสนอราคาข้าวขาว 25% ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดนำเข้าปริมาณ 2.5 แสนตัน ซึ่งยืนยันว่าจะสู้ราคาในการแข่งขันครั้งนี้ เพราะคำสั่งซื้อดังกล่าวจะรองรับผลผลิตข้าวใหม่ที่กำลังจะออกมา และคาดว่าฟิลิปปินส์จะมีการเปิดนำเข้าข้าวอีกหลายรอบ ส่วนอินโดนีเซียคาดว่าก็จะมีการเปิดนำเข้าข้าวในปลายปีด้วยเช่นเดียวกัน
นางดวงพร กล่าวด้วยว่า สำหรับ ประเทศจีน กรมฯได้ทำหนังสือติดตามถึงการเปิดนำเข้าข้าวในส่วนของ 1 ล้านตันแรกที่ทำสัญญาซื้อขายในรัฐบาลชุดปัจจุบันแล้ว แต่ยอมรับว่าจีนมีผลผลิตข้าวในประเทศออกมามาก หากมีการนำเข้าข้าว ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาภายใน โดยกรมฯ จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่ได้ลงนามระหว่างกันไว้ ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ส.ค.2559 ส่งออกได้แล้วปริมาณ 6.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.2% มูลค่า 9.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ยอมรับว่ามีผลต่อการส่งออกข้าวไทย เพราะค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น 1 บาท จะทำให้มูลค่าการขายข้าวหายไป 10 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของข้าวไทย.