นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่เเข็งค่ามาอยู่ที่ 34.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้อยู่ที่ 35.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ว่า ส่งผลให้ไทยส่งออกข้าวมีราคาสูงขึ้นกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนามถึงตันละ 15 เหรียญสหรัฐ และไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพอยู่ในระดับที่เหมาะสมแข่งขันได้ และไม่ผันผวนเร็วจนเกินไป ประกอบกับในช่วงเดือนกันยายนนี้จะมีข้าวฤดูกาลใหม่ทยอยออกสู่ตลาดอีกประมาณ 12 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเอกชนห่วงว่าค่าเงินที่แข็งค่าขณะนี้จะมีผลต่อการกดดันราคาส่งออกข้าวไทยในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกข้าวต้องการให้กระทรวงพาณิชย์บริหารจัดการข้าวในสต๊อกของรัฐที่มีอยู่ประมาณ 9 ล้านตัน และให้ชะลอการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดประมูลระบายข้าวรอบใหม่อีก 1 ล้านตันในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรอดูช่วงจังหวะที่เหมาะสม และขายข้าวได้ราคาไม่กระทบราคาตลาด ส่วนการส่งออกข้าวขณะนี้ยอมรับว่ามีปัญหาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับปีนี้ฝนตกชุกอาจทำให้ข้าวมีความชื้นสูงซึ่งจะกระทบต่อราคาขาย
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกข้าวต้องการให้กระทรวงพาณิชย์บริหารจัดการข้าวในสต๊อกของรัฐที่มีอยู่ประมาณ 9 ล้านตัน และให้ชะลอการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดประมูลระบายข้าวรอบใหม่อีก 1 ล้านตันในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรอดูช่วงจังหวะที่เหมาะสม และขายข้าวได้ราคาไม่กระทบราคาตลาด ส่วนการส่งออกข้าวขณะนี้ยอมรับว่ามีปัญหาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับปีนี้ฝนตกชุกอาจทำให้ข้าวมีความชื้นสูงซึ่งจะกระทบต่อราคาขาย