xs
xsm
sm
md
lg

"ธัมมชโย"ยิ่งกบดานยิ่งอ่วมหมายจับยาวเป็นหางว่าว-จบยาก !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ตอนแรกนึกว่าคดีของพระเทพญาณมุนี หรือ "ธัมมชโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกันรับของโจร และฟอกเงินจะค่อยๆ เงียบไปจากการอาศัยช่วงชุลมุนจากเทศกาลลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และต่อเนื่องด้วยเหตุการณ์"ป่วนชาติ" จากการลอบวางระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ แต่กลายเป็นว่าผิดคาด เพราะเท่าที่เห็นเวลานี้ในเรื่องอื่นก็เดินไปตามเหตุการณ์ตามขั้นตอน
คดีของ ธัมมชโย นาทีนี้ก็ถือว่าเดินหน้าไปเงียบๆ เหมือนกัน เพราะล่าสุด "เจออีกคดี" นั่นคือ ถูกศาลจังหวัดเลย อนุมัติหมายจับ พระธัมมชโย และผู้ดูแล "สวนป่าหิมวันต์" ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ในข้อหาที่เข้าใจแบบชาวบ้านคือ "บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ" โดยมีการออกเอกสารสิทธิ์อันเป็นเท็จ มีเนื้อที่รวม 129 ไร่ มีการก่อสร้างอาคาร และแผ้วถางทำลายป่าโดยผิดกฎหมาย
โดยหมายจับดังกล่าวได้รับคำอธิบายจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ควบคุมคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง การบุกรุกป่าสงวน และพวกมือปืนรับจ้างทั่วประเทศ ว่า พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับจริง โดยศาลจังหวัดเลยได้อนุมัติ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา
น่าสนใจก็คือ คดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เป็นคดีอาญา ที่สำคัญก็คือคราวนี้เป็นการเสนอหมายจับโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ แตกต่างจากคดีก่อน คือคดีฟอกเงินและรับของโจร ที่เป็นคดีพิเศษที่เสนอขอหมายจับ และหมายค้น โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลายเป็นว่าในตอนนี้ ธัมมชโย ถูกออกหมายจับสองคดีแล้ว โดยถูกดำเนินคดี
ครอบคลุมทั้งสองหน่วยงาน คือ ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
**แม้ว่าจะถูกออกหมายจับ มีการปิดหมายทั่วราชอาณาจักรก็ตาม และแม้ตามรายงานข่าวที่ออกมาว่า ยังกบดานอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ที่จังหวัดปทุมธานี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการบุกเข้าไปจับกุมภายในวันสองวันนี้ แต่ความหมายก็คือ ภายในอนาคตข้างหน้าอันใกล้นี้ มีแนวโน้มที่ ธัมมชโย จะถูกออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหลายคดีตามมา โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวนฯ ในอีกหลายพื้นที่ตามต่างจังหวัดที่มีการร้องเรียนให้สอบสวนกันอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น ลักษณะหมายจับจึงออกมาในแบบ "หางว่าว" สะสมไปเรื่อยๆ
หากย้อนกลับไปพิจารณาคดีบุกรุกป่าสงวนฯ ที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ดังกล่าว ตามการให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีวัดป่าหิมวันต์ พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร รอง ผบก.ภว.เลย ระบุว่า ตามเอกสารมีการระบุชื่อของพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย ซึ่งตามการให้สัมภาษณ์ ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ ยังพบว่ากำลังมีการพิสูจน์พื้นที่ใกล้เคียง ว่ามีการบุกรุกเพิ่มหรือไม่
ขณะเดียวกัน แน่นอนว่าเมื่อมีการออกหมายจับในคดีใหม่เพิ่มเติมแบบนี้ ฝ่ายวัดพระธรรมกาย ก็ต้องนั่งไม่ติด มีการออกคำแถลงชี้แจงโดยสำนักสื่อสารองค์กรของวัดที่ย้ำว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวได้มาถูกต้องตามกฎหมาย และที่สำคัญ ธัมมชโย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น ความหมายก็คือ หากมีความผิด ก็ต้องเป็นคนอื่น ไม่เกี่ยวกับ "หลวงพ่อ" ของพวกเขา
อย่างไรก็ดี นั่นคือ"ความเชื่อ" หรือการปฏิเสธ เป็นเรื่องปกติของฝ่ายผู้ต้องหาที่ส่วนใหญ่ออกมาแบบนี้ แต่ทุกอย่างมันต้องมีการพิสูจน์กันด้วยเอกสาร พยาน หลักฐาน ไม่ใช่พิสูจน์กันด้วยความเชื่อ หรือความศรัทธา
**เมื่อพิจารณากันตามรูปการณ์แล้วก็พอคาดเดาได้ว่า นับจากนี้ไป ธัมมชโย คงจะขยับลำบาก เพราะอย่าว่าแต่การ "ขยายเครือข่าย" อย่างที่เคยทำมาตลอดจะสะดุดแล้วในทางตรงกันข้ามกลับต้องเตรียมเจอข้อหาเพิ่มเติมในทำนองเดียวกันอีกหลายพื้นที่ มันจึงไม่ต่างจากการค่อยๆ ถูกบีบรัดเข้ามาพร้อมกันหลายทาง และเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่พวกเขาเชื่อมโยงอยู่ กับเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังถอยร่น หลังจากพ่ายแพ้ประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมไปถึงความเชื่อจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดทุกอย่างเริ่มปั่นป่วน รวนเร
ขณะเดียวกัน ความคิดที่จะ "ยื้อ" เวลาออกไปเพื่อรอลุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือรอให้มีการเลือกตั้งในปลายปี 2560 เพื่อหวังให้มีรัฐบาลใหม่ในสายเดียวกัน นาทีนี้ ดูแล้วมันช่างห่างไกลออกไปทุกที เพราะเมื่อมีหมายจับ ก็ต้องตามมาด้วยหมายค้น และยิ่งสะสมเป็นหางว่าว การนอนกบดานอยู่ในที่ตั้งนานไป ก็ไม่น่าจะเป็นผลดีนัก เพราะหากสถานการณ์เป็นใจ ทุกอย่างสะสมมาเรื่อยๆ โอกาสที่จะถูกล้อมจับ ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เพราะเวลานี้ไม่ใช่แค่หมายจับของดีเอสไอ เท่านั้น ยังมีหมายจับของตำรวจสมทบเข้ามาอีก
**เพราะหากมีการจับกุมเกิดขึ้นเมื่อใดก็จบเห่ หมดสิทธิ์ได้ประกันตัว ต้องจับสึกสถานเดียว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น