ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)ได้แจ้งต่อที่ประชุมสปท. ก่อนวาระการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปแต่ละคณะ ว่า งานที่ สปท.จะต้องทำก่อนที่จะหมดวาระ ซึ่งจะออกมาเป็นกฎหมายและบางส่วนนำไปใช้ใน มาตรา 44 เป็นเรื่องที่นายกฯ กระทรวงเจ้าของเรื่อง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นด้วย และคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยร่างภาษาให้ออกมาเป็นกฎหมาย ที่สำคัญอยู่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ไม่ว่าจะอยู่ใน วาระ 1,2 หากสปท.และสนช. หมดวาระไป เรื่องนั้นก็ต้องนับหนึ่งใหม่สำหรับรัฐบาลใหม่ ดังนั้น สิ่งที่เราทำมาทำให้ผลลัพธ์บั้นปลายจะสูญเปล่า หากกมธ.ทั้ง 12 ด้าน ผลักดันให้งานปฏิรูปสำเร็จสัก 1 ชิ้น หรือ 2-3 ชิ้น อย่างมากที่สุดมาเป็นกฎหมายให้เสร็จก่อนที่เราจะพ้นวาระก็ประเสริฐสุดแล้ว และถ้าอะไรก็ตามไม่เสร็จเป็นกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ถือว่างานปฏิรูปที่เราเสนอไปชิ้นนั้นๆ ไม่บรรลุผล สำหรับงานปฏิรูปที่ค่อนข้างจะสำเร็จเช่น กมธ.ด้านกีฬา กมธ.ด้านการศึกษา ที่มีการตั้งกมธ.ร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเราต้องทำทุกวิถีทาง ล็อบบี้ ใช้กำลังภายในสูงส่ง เพราะทำงานแบบเป็นทางการมันไม่เวิร์ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ ที่ประชุมสปท. จะพักการประชุมโดยให้แต่ละคณะกรรมาธิการไปประชุมร่วมกันนั้น มีสปท.หลายคนลุกขึ้นติง อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สปท. ติงว่าการให้ กมธ.แต่ละคณะไปประชุมโดยไม่มีจุดมุ่งหมายว่า จะให้เน้นเรื่องอะไร และระยะเวลาในการประชุมมีจำกัด เพราะจะต้องนำกลับมารายงานที่ประชุมในเวลา 13.00 น. เมื่อกลับมาในที่ประชุมแล้วให้สมาชิกอภิปรายคนละ 10 นาที ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย สปท. เสนอให้กมธ.แต่ละคณะไปประชุมกันอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องจำกัดเวลาว่าต้องนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมใหญ่ในช่วงบ่าย ควรจะให้กมธ.ประชุมกันอย่างเต็มที่ แล้วนำกลับมาเสนอต่อประชุมสปท.ในวันที่ 22 ส.ค. อีกครั้ง โดยประธานสปท. และที่ประชุมก็เห็นชอบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ ที่ประชุมสปท. จะพักการประชุมโดยให้แต่ละคณะกรรมาธิการไปประชุมร่วมกันนั้น มีสปท.หลายคนลุกขึ้นติง อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สปท. ติงว่าการให้ กมธ.แต่ละคณะไปประชุมโดยไม่มีจุดมุ่งหมายว่า จะให้เน้นเรื่องอะไร และระยะเวลาในการประชุมมีจำกัด เพราะจะต้องนำกลับมารายงานที่ประชุมในเวลา 13.00 น. เมื่อกลับมาในที่ประชุมแล้วให้สมาชิกอภิปรายคนละ 10 นาที ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย สปท. เสนอให้กมธ.แต่ละคณะไปประชุมกันอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องจำกัดเวลาว่าต้องนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมใหญ่ในช่วงบ่าย ควรจะให้กมธ.ประชุมกันอย่างเต็มที่ แล้วนำกลับมาเสนอต่อประชุมสปท.ในวันที่ 22 ส.ค. อีกครั้ง โดยประธานสปท. และที่ประชุมก็เห็นชอบด้วย