xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กตู่ปลุกคนไทยร่วมลุยโรดแมป-ป้อมปัดป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - "บิ๊กตู่" ออกทีวีขอบคุณประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ แจง 3 ขั้นโรดแมป ปลายปี 60 มีเลือกตั้งแน่ ย้ำประชาชนมีสิทธิเสรีภาพทุกประการ แต่ยังมีคนไม่พอใจรัฐบาล จ้องทำร้ายประเทศ-จาบจ้วงสถาบันฯไม่หยุด จำเป็นต้องคง ม.44 ด้าน กกต.แถลงผลประชามติทางการ เห็นชอบร่างธน. 16.8 ล้าน คำถามพ่วง 15.1 ล้าน ประชาชนใช้สิทธิ 29.7 ล้าน คิดเป็น 59.40% เหนือใช้สิทธิมาก-ใต้โหวตรับสูงสุด "บิ๊กป้อม"ปัดข่าวลือเป็นลมถูกหามส่งรพ. ยัน สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหา ไม่เคยขัดแย้งกับ"บิ๊กตู่" เรื่องโผทหาร พร้อมเปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ให้ผู้ที่เคารพนักถือ ร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบ 72 ปี เช้าวันนี้

วานนี้ (10ส.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำโดย นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. ร่วมกันแถลงผลออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ ที่ได้มีการนำส่งถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยในจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง 50,071,589 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 29,740,677 คน หรือร้อยละ 59.40 บัตรเสีย 936,209 บัตร หรือร้อยละ 3.15 ประเด็นที่ 1 ร่างรัฐธรรมนูญ เห็นชอบ 16,820,402 คะแนน หรือ ร้อยละ 61.35 ไม่เห็นชอบ 10,598,037 หรือร้อยละ 38.65

ประเด็นที่ 2 คำถามพ่วง เห็นชอบ 15,132,050 คน หรือร้อยละ 58.07 ไม่เห็นชอบ 10,926,648 หรือร้อยละ 41.93 ส่วนเรื่องร้องคัดค้านไม่มี
นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า การทำประชามติในปี 50 ยังมีบางจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึงร้อยละ 50 แต่ครั้งนี้ไม่มีจังหวัดไหนที่ออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าร้อยละ 50 เลย จากนี้ไป กกต.ก็จะถอดบทเรียน ปัญหาอุปสรรคในการออกเสียง เพื่อเป็นบทเรียนไว้สำหรับการจัดการเลือกตั้งปลายปีหน้า

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิ เป็นที่น่าพอใจ เกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิในปี 50 บัตรเสียร้อยละ 3.15 ก็อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจเช่นกัน เพราะมี 2 คำถาม น่าจะมีบัตรเสียมากกว่านี้ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า บัตรเสียเกิดใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ค่อนข้างสูง คือ ปัตตานี ร้อยละ 7.43 นราธิวาส 7.11 ยะลา 6.54 ซึ่งจะนำไปศึกษาว่าเกิดจากเหตุใด ทั้งในแง่ความรู้ ความเข้าใจ ปัญหาศาสนา ต้องไปดูเกิดจากอะไร ส่วนบัตรเสียน้อยสุดคือ กทม.ร้อยละ 1.53

สำหรับผู้มาใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก จ.ลำพูน 76.47 จ.แม่ฮ่องสอน 74.36 จ.เชียงใหม่ 73.17 จ. ตาก 70.06 จ. เชียงราย 67.64 ส่วนจังหวัดที่เห็นชอบทั้งประเด็นที่ 1 และประเด็น 2 เห็นชอบสูงสุด 5 จังหวัด คือ ชุมพร นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎ์ธานี ระนอง

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีการหันหลังนับคะแนนที่ จ.พิษณุโลกว่า กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นวิธีการนับที่ผิดระเบียบ ต้องนับโดยเปิดเผย แต่ในหน่วยดังกล่าว ไม่มีการร้องคัดค้าน จึงจะไม่นับคะแนนใหม่ แต่เมื่อเป็นประเด็นสังคมให้ความสนใจ ตนจะเดินทางไป จ.พิษณุโลก ในวันนี้ ( 11 ส.ค.) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นเป็นเพียงคลิป การดำเนินการต่อไปคงต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งจำนวนเสียงไม่มีผลกระทบต่อการประกาศผลเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการยกร่างพ.ร.ป.รัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนายศุภชัย กล่าวว่า การร่างกฎหมายลูกเป็นอำนาจของกรธ. ถ้ามีการประสานมายังกกต.เราก็พร้อมที่จะเสนอ เนื่องจากขณะนี้เราได้มีการเตรียมความพร้อม มีคณะทำงานดำเนินการเรื่องดังกล่าวไว้อยู่แล้ว หากมีการประสานมา ส่วนที่มีการเสนอให้เซ็ตซีโร่พรรคการเมือง เป็นเรื่องกรธ.ที่จะพิจารณา ซึ่งกกต.ไม่มีหน้าที่ยกร่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการกกต. ในฐานะตัวแทน กกต. ได้นำเอกสารสรุปผลประชามติ ร่างรธน. ส่งมอบให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ผ่าน นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร เรียบร้อยแล้ว

** "บิ๊กตู่"ออกทีวีแจงโรดแมป

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ถึงเรื่องการออกเสียงประชามติร่างรธน. เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ครม.ได้รับแจ้งผลอย่างเป็นทางการจากกกต.แล้วว่า ร่างรธน. และคำถามพ่วง ได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่า ทั้ง 2 ประเด็น ผ่านประชามติ

คสช.และครม.ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญที่สุดคือ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ออกไปใช้สิทธิในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ถึงเกือบร้อยละ60 และไม่ว่าท่านลงประชามติอย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณที่ได้ช่วยกันรักษากฎเกณฑ์ กติกา และความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จนเหตุการณ์ส่วนใหญ่ผ่านไปด้วยดี และขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาบรรยากาศดีๆ เช่นนี้ตลอดไป โดยเฉพาะในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึงในอีกประมาณหนึ่งปีข้างหน้า

"ความคิดเห็นส่วนตัวที่อาจมีผู้สมหวัง หรือผิดหวัง ถูกใจหรือไม่ถูกใจร่างรธน. และผลการออกเสียงประชามติ ย่อมมีอยู่เป็นธรรมดา เช่นเดียวกับในการจัดทำรธน.ทุกครั้ง และในทุกประเทศ แต่ผมใคร่ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับผลดังกล่าว บัดนี้การออกเสียงประชามติยุติลงแล้ว แต่ภารกิจของท่านและผม ยังไม่ยุติ ขอให้เราทั้งหลาย ทิ้งความเห็นต่าง ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ หรือ รับ ไม่รับ ไว้ในหีบลงคะแนนแล้วร่วมกันก้าวต่อไปข้างหน้า ภารกิจที่รอเราอยู่ยังมีอีกมากและอาจยากลำบากกว่าที่ผ่านมา นั่นคือการสร้างความเจริญรุ่งเรือง การปฏิรูปประเทศ การยุติความขัดแย้ง และการสร้างความปรองดองภายใต้กติกาฉบับใหม่"

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงโรดแมปของคสช. ว่า ขั้นตอนที่ 1 คือ เมื่อคสช. เข้าควบคุมสถานการณ์ จนถึงการมีรธน.ฉบับชั่วคราว และการจัดตั้งรัฐบาลรวม 3 เดือน ขั้นตอนที่ 2 เริ่มจากการจัดตั้งรัฐบาลนี้เมื่อ 3 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน และจะยังคงอยู่ต่อไปอีกประมาณ 1 ปี ตามบทเฉพาะกาลของรธน.ฉบับใหม่ จนถึงการเลือกตั้งในปีหน้า ส่วนขั้นตอนที่ 3 จะเริ่มเมื่อมีการเลือกตั้งตามโรดแมป และจัดตั้งรัฐบาลตามรธน.ฉบับใหม่

ทั้งนี้ เพื่อความเข้าใจ ความชัดเจน และความมั่นใจของพี่น้องทั้งหลาย ขอรายงานให้ทราบถึงสิ่งที่จะต้องทำต่อจากนี้ไป ดังนี้

1. กรธ. จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลของร่างรธน. ให้สอดคล้องกับประชามติ ตามประเด็นคำถามพ่วง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประชาชนแล้ว และส่งให้ศาลรธน.ตรวจสอบความถูกต้อง เสร็จแล้วจึงให้เจ้าหน้าที่อาลักษณ์เขียนร่างรธน.ที่สมบูรณ์ลงในสมุดไทย หลังจากนั้น นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพิจารณา และลงพระปรมาภิไธย ซึ่งจะใช้เวลารวมแล้วไม่เกิน 3 เดือน

2. เมื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้รธน.ฉบับใหม่แล้ว รธน.ฉบับชั่วคราว2557 จะสิ้นสุดลง กรธ.จะต้องจัดทำกฎหมายประกอบรธน. อีก 10 ฉบับ โดยเฉพาะ 4 ฉบับแรก ซึ่งจำเป็นต่อการเลือกตั้ง จะต้องสำเร็จลงก่อนฉบับอื่นๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็จะจัดทำกฎหมายหลายสิบฉบับ และเตรียมการอื่นๆ ตามที่รธน.กำหนด คู่ขนานกันไป เมื่อเสร็จแล้วจะได้เสนอให้สนช. พิจารณา ในระหว่างนี้ คสช. รัฐบาล สนช. และสปท. จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามบทเฉพาะกาล จนกว่าองค์กรใหม่จะเข้ามารับช่วงตามกติกาที่วางไว้ในรธน.ฉบับใหม่

3. การจัดทำกฎหมายประกอบรธน. 4 ฉบับ ที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง เป็นงานที่ละเอียดอ่อน และยากลำบากไม่น้อยไปกว่าการร่างรธน. ทั้งยังมีขั้นตอนมากเช่น ต้องส่งให้ศาลรธน. และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบความถูกต้อง แต่น่าจะเสร็จสิ้น จนประกาศใช้ได้ไม่เกินกลางปี 60 หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน หรือ 5 เดือน คือช่วงปลายปี 60 ซึ่งยังคงเป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ หากสถานการณ์บ้านเมืองยังคงมีความสงบสุข ดังเช่นปัจจุบัน

**ยังใช้ ม.44 ดูแลความเรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์บ้านเมืองโดยทั่วไปในขณะนี้ แม้จะดูว่ามีความสงบเรียบร้อยดี เพราะพี่น้องทั้งหลายรู้สึกได้ว่า ยังคงสามารถใช้ชีวิต ประกอบสัมมาอาชีพ และไปมาหาสู่กันได้เป็นปกติ นักท่องเที่ยว นักลงทุน ยังเดินทางเข้ามาตามปกติ การสนทนาปราศรัยระหว่างญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหรือคนแปลกหน้าไม่ต้องหวาดระแวงเหมือนเมื่อก่อนว่าใครเป็นใคร สีใด หรืออยู่ฝ่ายใด สิทธิเสรีภาพยังมีอยู่ทุกประการ แม้จะมีผู้บิดเบือนว่าถูกจำกัด ตัดสิทธิ แต่ก็เห็นได้ว่าถ้าสุจริต และไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองแล้ว ทุกคนยังสามารถกระทำการใดๆ ก็ได้ ทั้งยังสามารถแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียนรัฐบาลได้

"ที่สำคัญในช่วงเวลานี้ ประเทศไทยยังได้รับความเชื่อมั่น การยกย่อง และการจัดอันดับในขั้นที่น่าพอใจในด้านต่างๆ จากนานาประเทศ องค์กรต่างๆ ไม่ว่ารัฐบาล สนช. ศาล องค์กรอิสระ หรือ หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไม่อยู่ในสภาพง่อยเปลี้ย ทำงานไม่ได้ดังในอดีต ท่านลองเปรียบเทียบสภาพบ้านเมืองในวันนี้ กับบ้านเมือง และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เมื่อก่อนเดือนพ.ค.57 อย่างน้อย ท่านอาจถามตัวเองว่า ทุกวันนี้ท่านมีความสุขสบายใจขึ้นกว่าเมื่อก่อนหรือไม่"

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ใช่ว่าบ้านเมืองจะปราศจากปัญหาโดยสิ้นเชิง เพราะแม้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาชน โดยเฉพาะฝ่ายเอกชนที่ร่วมกันทำงานตามแนวทางประชารัฐ จะพยายามคืนความสงบสุขแก่ประชาชน ยุติความขัดแย้ง เยียวยาความบอบช้ำของบ้านเมือง มุ่งมั่นแก้ปัญหาเดิม ๆ และนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามหลักนิติธรรม แต่ก็ยังมีผู้ไม่พอใจ หรือผิดหวังกับความปกติสุขเช่นนี้ ยังคงทำลายและทำร้ายประเทศ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวยิ่งกว่าความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันอันเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนอย่างรุนแรง โดยทางสื่อออนไลน์บ้าง ส่งข้อความเข้ามาจากต่างประเทศบ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐ จะต้องดูแลมิให้ปัญหาเหล่านี้เป็นภยันตรายคุกคามความสงบสุขของประชาชน และความมั่นคงแห่งชาติ แต่ขอยืนยันว่า การดำเนินการของรัฐจะอยู่ภายใต้กฎหมาย และหลักนิติธรรม อย่างน้อยอำนาจของคสช. ตามรธน.ฉบับชั่วคราว มาตรา 44 ก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป เพื่อให้ความอุ่นใจ สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องทั้งหลายไปอีกระยะหนึ่ง จึงขอให้ผู้คิดร้ายต่อประเทศ ยอมรับนับถือกฎหมาย และคำนึงถึงพลังประชามติ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.นี้ด้วย

การประกาศใช้รธน.ฉบับใหม่ เป็นสัญญาณว่า การเลือกตั้งทั่วไปกำลังจะมาถึงในอีกหนึ่งปีเศษนับจากนี้ และยังงมีภารกิจยิ่งใหญ่ที่รอคอยอยู่ และเป็นความหวังของชาติ เป็นทางรอดของบ้านเมือง นั่นคือ การปฏิรูปประเทศ ซึ่ง การปฏิรูปเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลายาวนาน เพราะคือการเปลี่ยนความเคยชินเดิมๆ เปลี่ยนกรอบความคิด เปลี่ยนวิธีการ จากที่เคยทำมาหลายปี จึงไม่อาจสำเร็จเสร็จสิ้นในเวลาอันสั้น แต่ต้องลงมือทำคู่ขนานไปกับเรื่องอื่นๆ และต้องค่อยทำค่อยไป ต้องสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อลดความขัดแย้งไปด้วย ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เริ่มทำสิ่งเหล่านี้มาบ้างแล้วตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และหลังจากนี้ ทุกคนต้องเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน เพื่อว่าเราทั้งหลาย จะสามารถก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แม้บางคนจะยังมีความเห็นแย้ง หรือความเห็นต่างกันอยู่บ้างก็ตาม

**"บิ๊กป้อม"ปัดข่าวเป็นลมต้องหามเข้ารพ.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกระแสข่าวว่ามีอาการเป็นลม หน้ามืดต้องเข้าพักรักษาตัวกลางดึก ที่โรงพยาบาลว่า ไม่มี ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เอาข่าวลือแบบนี้มาเล่นกัน ทั้งๆ ที่ร่างกายตนแข็งแรงดี แม้ว่าตอนนี้ภารกิจในการแก้ไขปัญหาประเทศมีมากมาย แต่ก็ไม่ได้เครียดอะไร ตามที่มีข่าวลืออกมา

"ผมปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้เป็นอะไร ยังชกกับสื่อมวลชนได้ ทำไมถึงไปลือกันแบบนี้ ผมเกิดมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งปัจจุบัน ก็ไม่เคยเป็นลมอะไรเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากเป็นลม หรือเป็นโรคประจำตัว ผมคงไม่สามารถเข้าไปเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (จปร.) ได้ เพราะถ้าเป็นโรงเรียนก็ไม่รับเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมปกครองรุ่นน้อง และกำลังพลมากี่ปี จะมาเป็นลมได้อย่างไร"

พล.อ.ประวิตร ยังย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ เลย แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มาจับให้ตนกับ พล.อ.ประยุทธ์ ขัดแย้งกันอยู่เรื่อย

"ผมกับ พล.อ.ประยุทธ์ รักกันดี แม้แต่เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 60 ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และที่สำคัญ ต้องปล่อยให้ ผบ.เหล่าทัพ เป็นคนดำเนินการหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่มีว่าใครเป็นเด็กใคร ทุกคนต้องเป็นหนึ่งเดียวในการนำพาประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อย ส่วนรายชื่อโผทหารจะเสร็จเมื่อไหร่นั้น ไม่ต้องรีบ แต่รับรองได้ว่า ถึงอย่างไร ก.ย.นี้ จะต้องมีคนเป็น ผบ.เหล่าทัพ อยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) เวลา 07.00 น. พล.อ.ประวิตร เตรียมเปิดมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ให้ข้าราชาการทหาร ตำรวจ พ่อค้า และ นักธุรกิจ เข้าร่วมอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครอบรอบ 72 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น