ผู้จัดการรายวัน360-ปลัดไอซีทีเผยสอบถามกฤษฎีกาแล้ว "ไอโชว์" ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือกฎหมายใดๆ ของไอซีที หลังเกิดเหตุหนุ่มอยุธยาโอนเงินให้วีเจสาวกว่า 1.2 ล้านบาท รับนัดทุกฝ่ายถกแก้ปัญหาวันนี้ ด้านผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์แนะใช้วิธีอื่นจัดการ ชี้การเอาเงินไปซื้อสติกเกอร์ ของรางวัลให้วีเจ ขออนุญาตแบงก์ชาติแล้วหรือยัง และหากวีเจอายุต่ำกว่า 20 ปี ให้ฟันผิดพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงกรณีหนุ่มชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขโมยเงินแม่ 1.2 ล้านบาท โอนให้วีเจสาวที่รู้จักผ่านแอพพลิเคชั่น "ไอโชว์" จนกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในส่วนกฎหมายที่กำกับดูแลในเรื่องของแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะในกรณีเช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน “ไอโชว์” ซึ่งปัจจุบันพบว่า ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะเจาะจงที่เข้ามาดูแลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันโดยตรง แต่จะแยกไปตามสายงานของกฎหมายที่แอปพลิเคชันนั้นๆ มีความเกี่ยวข้องเป็นหลัก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการหารือร่วมกันว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรือเข้าข่ายตามความผิดกฎหมายของหน่วยงานใดบ้าง เช่น แอปฯ ไอโชว์ อาจต้องไปดูว่าในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เป็นไอเทมจะไปเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ การมีการโชว์ที่อาจส่อไปในทางอนาจารจะไปเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายของกระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือไม่ และโฆษณาที่ปรากฏบนแอปพลิเคชันจะไปขัดต่อกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือไม่ เป็นต้น
สำหรับกรณีแอปพลิเคชัน ไอโชว์ กระทรวงไอซีทีได้มีการทำเรื่องสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่า เรื่องดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตามมาตราใดในกฎหมายที่กระทรวงไอซีทีกำกับดูแลอยู่หรือไม่ ซึ่งทางกฤษฎีกาตอบกลับมาชัดเจนแล้วว่า ไม่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมายใดๆ ของไอซีที แต่ขอความร่วมให้ไอซีทีช่วยให้ความร่วมมือในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ช่วยดูแล และประสานงานในส่วนของผู้ให้บริการ
ทั้งนี้ ในวันนี้ (26 ก.ค.) ไอซีทีจะมีการหารือในเรื่องมาตรการป้องกัน และการเตือนประชาชนในการโอนเงินซื้อไอเทมผ่านเกม และแอปพลิเคชัน ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ทุกราย
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า แอปพลิเคชันไอโชว์ มีประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ การเอาเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นสติ๊กเกอร์ หรือของรางวัลให้กับวีเจได้มีการขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้วหรือยัง และการให้บริการลักษณะนี้ต้องขึ้นทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงพาณิชย์ และขึ้นทะเบียนกับ สคบ. หากผู้ให้บริการยังไม่ได้ขออนุญาต หรือขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายย่อมจะมีความผิดเกิดขึ้น และประเด็นสำคัญที่สุด คนที่มาเป็นวีเจ หรือปรากฏในเนื้อหาของเว็บไซต์ หากเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี แล้วมาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เจ้าของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กด้วย
นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงกรณีหนุ่มชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาขโมยเงินแม่ 1.2 ล้านบาท โอนให้วีเจสาวที่รู้จักผ่านแอพพลิเคชั่น "ไอโชว์" จนกลายเป็นประเด็นอื้อฉาวเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในส่วนกฎหมายที่กำกับดูแลในเรื่องของแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะในกรณีเช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน “ไอโชว์” ซึ่งปัจจุบันพบว่า ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะเจาะจงที่เข้ามาดูแลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันโดยตรง แต่จะแยกไปตามสายงานของกฎหมายที่แอปพลิเคชันนั้นๆ มีความเกี่ยวข้องเป็นหลัก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการหารือร่วมกันว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรือเข้าข่ายตามความผิดกฎหมายของหน่วยงานใดบ้าง เช่น แอปฯ ไอโชว์ อาจต้องไปดูว่าในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เป็นไอเทมจะไปเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ การมีการโชว์ที่อาจส่อไปในทางอนาจารจะไปเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายของกระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือไม่ และโฆษณาที่ปรากฏบนแอปพลิเคชันจะไปขัดต่อกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือไม่ เป็นต้น
สำหรับกรณีแอปพลิเคชัน ไอโชว์ กระทรวงไอซีทีได้มีการทำเรื่องสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่า เรื่องดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตามมาตราใดในกฎหมายที่กระทรวงไอซีทีกำกับดูแลอยู่หรือไม่ ซึ่งทางกฤษฎีกาตอบกลับมาชัดเจนแล้วว่า ไม่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมายใดๆ ของไอซีที แต่ขอความร่วมให้ไอซีทีช่วยให้ความร่วมมือในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ช่วยดูแล และประสานงานในส่วนของผู้ให้บริการ
ทั้งนี้ ในวันนี้ (26 ก.ค.) ไอซีทีจะมีการหารือในเรื่องมาตรการป้องกัน และการเตือนประชาชนในการโอนเงินซื้อไอเทมผ่านเกม และแอปพลิเคชัน ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ทุกราย
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า แอปพลิเคชันไอโชว์ มีประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ การเอาเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นสติ๊กเกอร์ หรือของรางวัลให้กับวีเจได้มีการขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้วหรือยัง และการให้บริการลักษณะนี้ต้องขึ้นทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกระทรวงพาณิชย์ และขึ้นทะเบียนกับ สคบ. หากผู้ให้บริการยังไม่ได้ขออนุญาต หรือขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายย่อมจะมีความผิดเกิดขึ้น และประเด็นสำคัญที่สุด คนที่มาเป็นวีเจ หรือปรากฏในเนื้อหาของเว็บไซต์ หากเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี แล้วมาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เจ้าของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กด้วย
