xs
xsm
sm
md
lg

ปลุกม็อบพระ เจ้าคุณประสารระดมลิ่วล้อ ฉุนDSIฟันรถสมเด็จช่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระเมธีฯ (เจ้าคุณประสาร) โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องพระสงฆ์ทั่วประเทศชุมนุมพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา รอฟังสัญญาณเมื่อมีงานใหญ่ อ้างสถานการณ์ไม่ปกติ ถูกสร้างเรื่องให้ถูกมองว่าเลวร้าย ทั้งเรื่องรถโบราณ เรื่องของ มส. เรื่อง พ.ร.บ.สงฆ์ ถูกด่าทอประณามหยามเหยียด ถูกย่ำยีอย่างหนัก

วานนี้ (24 ก.ค.) พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "เข้าใจ ลุกขึ้นยืน สามัคคี" ระบุว่า กราบเรียนคณะสงฆ์ เจ้าคณะพระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร ทุกรูป ทั้งที่อยู่ในประเทศและพระธรรมทูตในต่างประเทศทั่วโลก ในนามองค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายชาวพุทธทั่วประเทศ อยากกราบเรียนให้ทราบว่า บัดนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวงการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ

ไม่ปกติแน่นอน เหตุเพราะมีกลุ่มคนหลายกลุ่ม หลายพวกและหลากหลายอำนาจมารวมตัวกันเฉพาะกิจในการทำภารกิจพิเศษเพื่อไล่ต้อนคณะสงฆ์ให้จนมุม วิธีการเริ่มจากการสร้างเรื่อง สร้างสถานการณ์และสร้างเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงให้เห็นว่าพระสงฆ์และคณะสงฆ์มีแต่เรื่องเลวร้าย เลวร้ายมากจริงๆ แล้วก็ชี้โทษประจาน

จากนั้นก็โยนบาปนั้นๆ มาให้คณะสงฆ์โดยรวม แล้วประจานให้สังคมไทยมองเห็นว่าภายใต้การปกครองของคณะสงฆ์ในปัจจุบันล้วนประสบปัญหาด้านความเสื่อมถอยมากมาย จากนั้นก็ชี้นำว่าหากภาครัฐไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยการปฏิรูปโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ทั้งระบบแล้ว โดยหากขืนปล่อยให้มีการปกครองกันเองแบบนี้ก็มีแต่ความเน่าเฟะ และมีแต่จะนำความเสื่อมมาสู่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ดังนั้นแผนการทั้งหลายทั้งปวงของกลุ่มเหล่านี้จึงบังเกิดขึ้น เกิดขึ้นเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อสร้างเรื่อง สร้างปัญหา เช่น เรื่องรถโบราณ เรื่องของ มส. เรื่อง พ.ร.บ.สงฆ์ เป็นต้น

สาระสำคัญพวกเขาที่กระทำการแบบนี้ก็เพราะมองว่า พระสงฆ์ คณะสงฆ์และชาวพุทธไม่มีพลัง ไม่มีความสามัคคีมากพอที่จะต่อต้านพวกเขาได้ โดยเฉพาะคณะสงฆ์นั้นเขามองว่าอ่อนแอมาก ถูกด่าทอประณามหยามเหยียดตั้งแต่สูงลงมาถึงล่างก็ไม่มีปากมีเสียง ยังคงนิ่งสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วันนี้ ผมอยากกราบเรียนพระสงฆ์ทั่วประเทศและที่เป็นพระธรรมทูตอยู่ทั่วทุกมุมโลกว่า ได้โปรดตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้วครับ ตื่นๆๆ อย่ามัวหลับใหลอยู่เลย ประมุขสงฆ์ องค์กรสงฆ์ พระสงฆ์ คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาถูกย่ำยีอย่างหนัก ถูกย่ำยีอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน เราจะนิ่งดูดายต่อไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ขอทุกรูปได้โปรดกรุณา ปฏิบัติ ดังนี้

1. ลุกขึ้นมาสนใจศึกษาปัญหาที่กระผมพูดมานี้ให้เข้าใจลึกซึ้ง ให้เข้าใจว่านี่เป็นปัญหาโดยรวมของคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ปัญหาระดับปัจเจกบุคคลอีกต่อไป

2. ลุกขึ้นมายืนเป็นพลังกันทั้งประเทศ ทั้งในประเทศและทั่วโลก เมื่อทุกรูปเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งแล้ว ให้รวมกลุ่มกันให้เข้มแข็ง มีพลังในทุกอณูส่วนที่มีพระสงฆ์ โดยให้ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ทำทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่นและระดับชาติ

3. องค์กรพุทธและภาคีเครือข่าย ขอเป็นสะพานเชื่อมโยงให้ถนนทุกสายมุ่งหน้ามาเจอกันเมื่อมีงานใหญ่ในการพิทักษ์ปกป้องคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ได้โปรดรอฟังสัญญาณ

หลายรูป หลายกลุ่ม หลายองค์กร ตื่นแล้ว พวกเราจึงร่วมกันทำงานเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอยู่อย่างชนิดเหนียวแน่นไม่คลอนแคลน แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ตื่น ยังสะลึมสะลือหรือยังหลับใหลอยู่ ได้โปรดตื่นได้แล้ว ตื่นเถิดครับ พวกเรามีภัยรอบด้าน มีภัยมากจริงๆ อนาคตของพระพุทธศาสนาจะไปได้อีกนานแค่ไหนในประเทศนี้ และถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาปกป้องพวกเรากันเองจะให้ใครมาปกป้องเรา พวกเราต้องตื่นขึ้นมาช่วยกันครับ ตื่นเถิด สามัคคีกันเถิดชาวพุทธ ลงชื่อ พระเมธีธรรมาจารย์ 24 กรกฎาคม 2559 #เจ้าคุณประสาร

ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีที่ ดีเอสไอ แถลงข่าวคดีรถโบราณของ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ว่า คดีรถโบราณดังกล่าว ดีเอสไอ แถลงแค่มีมูลความผิดเกิดขึ้น ยังไม่ได้กล่าวหาว่า สมเด็จช่วง ท่านกระทำผิดกฎหมาย เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ในคดีอาญาองค์ประกอบความผิดที่สำคัญ คือ เจตนา ซึ่งโดยปัจจุบัน สมเด็จช่วง ท่านอายุ 90 พรรษา 71 เป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสสูงสุด รักษาศีล 227 ข้อ ประกอบคุณงามความดีในบวรพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนเข้าสู่บั้นปลายของชีวิตสมณเพศ แม้แต่ศีล 227 ข้อ ซึ่งรักษายากอย่างยิ่ง ท่านยังรักษามาอย่างยาวนาน จึงไม่มีเหตุผลใดที่ท่านจะไปมีเจตนากระทำความผิดทางโลก โดยส่วนตัวตนมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าท่านไม่มีเจตนา ดังที่ให้เหตุผลไว้ข้างต้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น