**ดูท่าการแต่งตั้ง"สีกากี"ระดับ รองสารวัตร(รอง สว.)-ชั้นประทวน วาระประจำปี 2558 จะซ้ำรอยเหมือนการแต่งตั้ง“นายพัน”ระดับ รองผู้บังคับการ(รอง ผบก.)-สารวัตร(สว.) ที่ผ่านมา ยืดเยื้อยาวนานเป็นเดือนๆ กว่าจะเสร็จเรียบร้อย เพราะจนถึงป่านนี้ยังไม่มีใครยืนยันฟันธง การแต่งตั้ง“มดงาน”จะเสร็จเรียบร้อยเมื่อใด
นับตั้งแต่"บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน มีหนังสือแจ้งแนวทางการแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง สว.-ผบ.หมู่ หรือ ชั้นประทวน วาระประจำปี 2558 ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.59 โดยให้หน่วยดำเนินการเสนอข้อมูลการแต่งตั้งพร้อมเสนอเหตุผลความจำเป็น ทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนภายในหน่วยและสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัด ส่งมายัง ตร. ผ่านสำนักงานกำลังพล ภายในวันที่ 30 มิ.ย.59 ผ่านมาเกือบจะครบ 2 เดือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ชั้นประทวน ก็ยังคงนิ่งสนิท
แม้ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) จะมีหนังสือประสานงานไปยัง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า อ้างถึงการแต่งตั้งตำรวจให้ดำรงตำแหน่งระดับ รอง สว.และ ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2558 นี้ ตร.จะต้องพิจารณามีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกหน่วย ซึ่งจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ข้าราชการตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้านกำลังพลของหน่วยต่างๆ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานภาพกำลังพลของหน่วย ตลอดจนการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ มาร่วมในการตรวจสอบและจัดทำคำสั่งแต่งตั้งก่อนที่จะนำเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาออกคำสั่งแต่งตั้งระดับ สว. ขึ้นไป จำนวน 1 นาย และระดับ รอง สว.หรือ ผบ.หมู่ จำนวน 1 นาย รวมกว่า 68 นาย มาช่วยทำบัญชีตั้งแต่วันที่ 5 -15ก.ค.59
แต่เมื่อถึงวันที่ 15 ก.ค. คำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ชั้นประทวน ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย มิหนำซ้ำ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ทาง พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล (ผบก.ทพ.) ยังมีคำสั่งขยายเวลาปฏิบัติหน้าที่ให้ตำรวจจำนวน 8 นาย ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายแต่งตั้งกองทะเบียนพลตั้งแต่ วันที่ 16 ก.ค.เป็นต้นไป จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น แม้จะมีข่าวสะพัดว่าภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ คำสั่งแต่งตั้งน่าจะเสร็จสิ้น และประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
**โดยคำสั่งจะมีผลบังคับใช้ หลังวันที่ 7ส.ค.59 เพื่อให้ผ่านผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญผ่านพ้นไปก่อน แต่ก็ไม่มีผู้มีอำนาจ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องรายใดออกมายืนยันความชัดเจน
ยิ่งการแต่งตั้งระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน วาระประจำปี 2558 อำนาจการจัดทำบัญชีแต่งตั้งใช้รูปแบบเดียวกับการแต่งตั้งระดับ“นายพัน”คือ รวบอำนาจให้ ผบ.ตร. ดำเนินการ ตามคำสั่ง หัวหน้าคสช. ที่ให้ดาบอาญาสิทธิ์ในการทำบัญชีแต่งตั้งทั้งหมด และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เลือกที่จะจัดทำบัญชีแต่งตั้งเองทั้งหมด โดยไม่ได้มอบหมายให้แต่ละกองบัญชาการไปจัดทำบัญชีแต่งตั้ง เพียงแค่ให้เสนอข้อมูลการแต่งตั้งพร้อมเสนอเหตุผลความจำเป็น ทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนภายในหน่วยและสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัด
แนวโน้มที่จะเกิดความยุงยาก ล่าช้า ก็มีสูง เนื่องจากตำแหน่งระดับล่างมีเป็นจำนวนมาก แค่ไล่ชื่อ ไล่ตำแหน่ง ไล่สังกัด ไล่คุณสมบัติต่างๆ ก็ต้องใช่เวลาไม่น้อย แถมพอเสร็จแล้วจะซ้ำรอย “นายพัน”ที่มีชื่อซ้ำซ้อน มั่วตำแหน่งมากน้อยขนาดไหน ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายหวั่นเกรง
อย่างไรก็ดี ในขณะที่การแต่งตั้งระดับ“มดงาน”ตำแหน่ง รอง สว.-ชั้นประทวน ยังดูไร้วี่แว่วเสร็จสิ้นเรียบร้อย ตอนนี้ภายในแวดวง“สีกากี”ก็กลับมีกระแสข่าวการแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู ลือกระหึ่มแทรกขึ้นมาให้เหล่าสีกากีต้องเช็คข้อมูลกันจ้าละหวั่น แม้จะว่าไป โอกาสจะมีการแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู ในช่วงนี้มีโอกาสน้อย เพราะเมื่อเข้าสู่เดือน ส.ค. ตามระเบียบขั้นตอนก็จะเข้าสู่วาระการแต่งตั้ง"นายพล" ประจำปี 2559 อยู่แล้ว
**“ไม่มีมูลหมาไม่ขี้”ดังนั้นย่อมมองข้ามกระแสข่าวลือการแต่งตั้ง“นายพล”นอกฤดูไปไม่ได้ โดยเฉพาะอำนาจยุทธจักร"โล่เงิน"ยุคนี้ อะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมาแล้ว แบบไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี หรือแนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่ผ่านมา หากจะผ่าทะลุกลางปล้อง แต่งตั้ง“นายพล”นอกฤดูขึ้นมา เหตุและผลต่างๆ ก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างกันชนิดไม่สนใจอะไร
ยิ่ง ณ ตอนนี้ เก้าอี้ “จเรตำรวจแห่งชาติ”ซึ่งถือเป็น 1 เสียงในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่างลง จากที่ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ลาออกไปดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ถ้าเผื่อเหลือเผื่อขาด ในการออกเสียงในวงประชุมก.ตร. พิจารณาแต่งตั้ง“นายพล” วาระประจำปี 2559 ก็ย่อมจำเป็นที่ควรจะตั้ง จเรตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งประจำปี
นอกจากนี้ ก็มีเสียงลือหนาหู อาจใช้จังหวะนี้ในการโยกย้าย“นายพล”ที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่งัด มาตรา 44 ออกคำสั่ง 33/2559 เด้งข้าราชการเข้ากรุ กราวรูด 23 ราย ซึ่งใน 23 ราย มีถึง 17 ราย เป็น "ตำรวจ" และเป็น“นายพล”ถึง 4 ราย คือ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ซึ่งไล่เรียงรายชื่อนายพลแต่ละราย ล้วนใกล้ชิดขั้วอำนาจในแวดวงสีกากีปัจจุบัน หากจะเลือกโยกย้ายมาอยู่ตำแหน่งไม่สำคัญ เพื่อลดกระแสแรงกดดันจากภายนอก ก็ดีกว่าจะไปโยกย้ายวาระประจำปี ที่สำคัญหากจับพลัดจับผลูพอถึงวาระประจำปี อาจขยับนายพลเหล่านี้ ไปอยู่ตำแหน่งระดับเกรดเอ ก็ไม่น่าเกลียดอะไร
**ข่าวแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู อาจไม่ใช่แค่ข่าวลือ ก็เป็นไปได้ ใครจะรู้.
นับตั้งแต่"บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน มีหนังสือแจ้งแนวทางการแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง สว.-ผบ.หมู่ หรือ ชั้นประทวน วาระประจำปี 2558 ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.59 โดยให้หน่วยดำเนินการเสนอข้อมูลการแต่งตั้งพร้อมเสนอเหตุผลความจำเป็น ทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนภายในหน่วยและสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัด ส่งมายัง ตร. ผ่านสำนักงานกำลังพล ภายในวันที่ 30 มิ.ย.59 ผ่านมาเกือบจะครบ 2 เดือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ชั้นประทวน ก็ยังคงนิ่งสนิท
แม้ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) จะมีหนังสือประสานงานไปยัง ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า อ้างถึงการแต่งตั้งตำรวจให้ดำรงตำแหน่งระดับ รอง สว.และ ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2558 นี้ ตร.จะต้องพิจารณามีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกหน่วย ซึ่งจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ข้าราชการตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้านกำลังพลของหน่วยต่างๆ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานภาพกำลังพลของหน่วย ตลอดจนการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ มาร่วมในการตรวจสอบและจัดทำคำสั่งแต่งตั้งก่อนที่จะนำเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาออกคำสั่งแต่งตั้งระดับ สว. ขึ้นไป จำนวน 1 นาย และระดับ รอง สว.หรือ ผบ.หมู่ จำนวน 1 นาย รวมกว่า 68 นาย มาช่วยทำบัญชีตั้งแต่วันที่ 5 -15ก.ค.59
แต่เมื่อถึงวันที่ 15 ก.ค. คำสั่งแต่งตั้ง รอง สว.-ชั้นประทวน ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย มิหนำซ้ำ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ทาง พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล (ผบก.ทพ.) ยังมีคำสั่งขยายเวลาปฏิบัติหน้าที่ให้ตำรวจจำนวน 8 นาย ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายแต่งตั้งกองทะเบียนพลตั้งแต่ วันที่ 16 ก.ค.เป็นต้นไป จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น แม้จะมีข่าวสะพัดว่าภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ คำสั่งแต่งตั้งน่าจะเสร็จสิ้น และประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
**โดยคำสั่งจะมีผลบังคับใช้ หลังวันที่ 7ส.ค.59 เพื่อให้ผ่านผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญผ่านพ้นไปก่อน แต่ก็ไม่มีผู้มีอำนาจ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องรายใดออกมายืนยันความชัดเจน
ยิ่งการแต่งตั้งระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน วาระประจำปี 2558 อำนาจการจัดทำบัญชีแต่งตั้งใช้รูปแบบเดียวกับการแต่งตั้งระดับ“นายพัน”คือ รวบอำนาจให้ ผบ.ตร. ดำเนินการ ตามคำสั่ง หัวหน้าคสช. ที่ให้ดาบอาญาสิทธิ์ในการทำบัญชีแต่งตั้งทั้งหมด และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เลือกที่จะจัดทำบัญชีแต่งตั้งเองทั้งหมด โดยไม่ได้มอบหมายให้แต่ละกองบัญชาการไปจัดทำบัญชีแต่งตั้ง เพียงแค่ให้เสนอข้อมูลการแต่งตั้งพร้อมเสนอเหตุผลความจำเป็น ทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนภายในหน่วยและสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัด
แนวโน้มที่จะเกิดความยุงยาก ล่าช้า ก็มีสูง เนื่องจากตำแหน่งระดับล่างมีเป็นจำนวนมาก แค่ไล่ชื่อ ไล่ตำแหน่ง ไล่สังกัด ไล่คุณสมบัติต่างๆ ก็ต้องใช่เวลาไม่น้อย แถมพอเสร็จแล้วจะซ้ำรอย “นายพัน”ที่มีชื่อซ้ำซ้อน มั่วตำแหน่งมากน้อยขนาดไหน ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายหวั่นเกรง
อย่างไรก็ดี ในขณะที่การแต่งตั้งระดับ“มดงาน”ตำแหน่ง รอง สว.-ชั้นประทวน ยังดูไร้วี่แว่วเสร็จสิ้นเรียบร้อย ตอนนี้ภายในแวดวง“สีกากี”ก็กลับมีกระแสข่าวการแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู ลือกระหึ่มแทรกขึ้นมาให้เหล่าสีกากีต้องเช็คข้อมูลกันจ้าละหวั่น แม้จะว่าไป โอกาสจะมีการแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู ในช่วงนี้มีโอกาสน้อย เพราะเมื่อเข้าสู่เดือน ส.ค. ตามระเบียบขั้นตอนก็จะเข้าสู่วาระการแต่งตั้ง"นายพล" ประจำปี 2559 อยู่แล้ว
**“ไม่มีมูลหมาไม่ขี้”ดังนั้นย่อมมองข้ามกระแสข่าวลือการแต่งตั้ง“นายพล”นอกฤดูไปไม่ได้ โดยเฉพาะอำนาจยุทธจักร"โล่เงิน"ยุคนี้ อะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมาแล้ว แบบไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี หรือแนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่ผ่านมา หากจะผ่าทะลุกลางปล้อง แต่งตั้ง“นายพล”นอกฤดูขึ้นมา เหตุและผลต่างๆ ก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างกันชนิดไม่สนใจอะไร
ยิ่ง ณ ตอนนี้ เก้าอี้ “จเรตำรวจแห่งชาติ”ซึ่งถือเป็น 1 เสียงในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่างลง จากที่ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ลาออกไปดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ถ้าเผื่อเหลือเผื่อขาด ในการออกเสียงในวงประชุมก.ตร. พิจารณาแต่งตั้ง“นายพล” วาระประจำปี 2559 ก็ย่อมจำเป็นที่ควรจะตั้ง จเรตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งประจำปี
นอกจากนี้ ก็มีเสียงลือหนาหู อาจใช้จังหวะนี้ในการโยกย้าย“นายพล”ที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่งัด มาตรา 44 ออกคำสั่ง 33/2559 เด้งข้าราชการเข้ากรุ กราวรูด 23 ราย ซึ่งใน 23 ราย มีถึง 17 ราย เป็น "ตำรวจ" และเป็น“นายพล”ถึง 4 ราย คือ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 ซึ่งไล่เรียงรายชื่อนายพลแต่ละราย ล้วนใกล้ชิดขั้วอำนาจในแวดวงสีกากีปัจจุบัน หากจะเลือกโยกย้ายมาอยู่ตำแหน่งไม่สำคัญ เพื่อลดกระแสแรงกดดันจากภายนอก ก็ดีกว่าจะไปโยกย้ายวาระประจำปี ที่สำคัญหากจับพลัดจับผลูพอถึงวาระประจำปี อาจขยับนายพลเหล่านี้ ไปอยู่ตำแหน่งระดับเกรดเอ ก็ไม่น่าเกลียดอะไร
**ข่าวแต่งตั้ง “นายพล”นอกฤดู อาจไม่ใช่แค่ข่าวลือ ก็เป็นไปได้ ใครจะรู้.