ผู้จัดการรายวัน360 - “บิ๊กตู่” ไม่กังวลโค้งสุดท้ายประชามติ ซัดพวกเรียกร้องอย่ากดดัน เผยสั่ง กกต. จัดเวทีแสดงความเห็นแล้ว ไม่สนคำทำนาย “โหรวารินทร์” ชี้ไม่มีเลือกตั้ง 60 ย้ำประชามติไม่ผ่านก็อยู่ต่อจนมี รธน.ใหม่ “ชาติชาย” ยัน กรธ.ไม่ร่วมดีเบต กกต.จัดต่อแม้ กรธ.-ปชป.เมิน มาแล้วบัญชีดำเชือด ขรก.-อปท.ล็อต 4 ไร้ชื่อ “สุขุมพันธุ์” ตามคาด
วานนี้ (21 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการออกเสียงประชามติวันที่ 7 ส.ค.ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาลและ คสช.ก็ดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อย ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายพลเมืองผู้ห่วงใย ที่ขอให้เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญนั้นได้ให้ กกต.พิจารณาอยู่ ถ้าเหมาะสมก็จะทำให้ การเปิดพื้นที่นั้นได้สั่งการไปแล้ว แต่วิธีการต้องเหมาะสม ไม่ใช่เปิดเวทีแล้วทะเลาะกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึง คำทำนายของ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรวารินทร์ ที่ระบุว่า จะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนกำลังทำให้มีการเลือกตั้งอยู่ ถ้าไม่มีเลือกตั้งจริงก็ไม่ใช่ตนเป็นคนทำ ส่วนเรื่องทำนายก็เป็นเรื่องของโหร เป็นเรื่องของไสยศาสตร์
เมื่อถามว่า ในการลงประชามติครั้งนี้จะเปรียบได้หรือไม่ว่าประชาชนตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอา คสช. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน จะเอาหรือไม่เอา ตนก็อยู่จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่เช่นนั้นก็เลือกตั้งไม่ได้ ถ้าประชามติไม่ผ่าน จะให้ตนรับผิดชอบก็ไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนร่าง แต่เป็นคนรับผิดชอบที่จะต้องทำใหม่ ส่วนในวันลงประชามติจะเรียบร้อยหรือไม่นั้น ต้องถามคนทำเรื่องวุ่นวาย เราไม่ได้ไปรักษาความปลอดภัยในทุกสถานที่
** “บิ๊กป้อม” รูดซิปคำทำนายโหรฯ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ โหรวารินทร์ ระบุว่า การออกเสียงประชามติจะราบรื่น แต่รัฐบาลต้องอยู่ยาวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ข้างหน้า ไม่สามารถคาดเดาได้ และไม่ทราบเรื่องที่นายวารินทร์ออกมาทำนายอะไร
สำหรับการเปิดเวทีเพื่อให้ข้อมูลเรื่องร่างรัฐธรรมนูญตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้บอกกับผู้ว่าราชการจังหวัด และ กกต.ให้เปิดเวทีทุกพื้นที่ และทุกจังหวัด สามารถดีเบต พูดคุยเรื่องร่างรัฐธรรมนูญได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.ดูแลทุกพื้นที่ ส่วนแนวทางหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ประชามตินั้น กำลังพิจารณากันอยู่
** กรธ.ย้ำไม่ร่วมเวทีดีเบตแน่นอน
ด้าน นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาส่งตัวแทน กรธ.ไปร่วมเวทีดีเบตของ กกต.ว่า ทาง กรธ.ได้คุยกันในเรื่องนี้แล้ว มีข้อสรุปเหมือนเดิมว่า กรธ.ไม่ได้มีหน้าที่ไปดีเบตกับใคร เพราะกฎหมายก็ระบุให้ กรธ.มีหน้าที่ไปชี้แจงเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนที่มีนักการเมืองและกลุ่มการเมืองหลายฝ่ายเริ่มแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้นในช่วงก่อนการทำประชามติ ก็ถือเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
** กกต.จัดเวทีดีเบตต่อแม้ กรธ.เมิน
ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และ กรธ.ประกาศไม่ร่วมรายการสนทนาระหว่างฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ หรือเวทีดีเบต ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า รายการก็ต้องจัดต่อไป ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดรายการลักษณะดังกล่าวช้าเกินไป ตนก็ไม่อยากให้มองเช่นนั้น แต่ควรมองว่าคนจะสนใจในช่วงท้าย ดังนั้นช่วงโค้งสุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นอะไรที่เป็นประโยชน์ โดยสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นก็สามารถจัดรายการลักษณะนี้ได้เช่นกัน แต่ต้องไม่ก้าวร้าว รุนแรง ปลุกระดม
** “พีซทีวี” จอดำ-ใช้โซเชี่ยลฯเคลื่อนไหว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลปกครอง คณะผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีซทีวี นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ไต่สวนพิจารณาคุ้มครองกรณี กสทช.มีคำสั่งให้ยุติการออกอากาศชั่วคราว 30 วัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป โดยภายหลังการไต่สวนนาน 1 ชั่วโมงครึ่ง นายจตุพร กล่าวสั้นๆว่า หลังเวลา 00.01 ของวันที่ 22 ก.ค. พีซทีวีคงต้องจอดำไปก่อน โดยศาลปกครองจะนัดไต่สวน 2 ฝ่ายอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ระหว่างนี้จะใช้การเผยแพร่สัญญาณผ่านเวบไซต์ยูทูบ และเฟสบุ๊คไลฟ์แทน
** เชือดอีกล็อต ขรก.-อปท.เอี่ยวโกง
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 43/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 4 โดยโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว ของผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการพลเรือน ผู้บริหารและผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวม 60 ราย อาทิ นายปิยพันธ์ แสนทวีสุข รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหาสารคาม นายสำเริง กิปัญญา ผู้อำนวยการ (ผอ.)โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ นายมนัส นิลคปตุ์ ผอ.โครงการชลประทานสมุทรปราการ นางมลัยรัก ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร
นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายก อบจ.ชัยนาท นายสุนทร รัตนากร นายก อบจ.กำแพงเพชร นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ และนายณรงค์ วิบูลย์มา นายกเทศมนตรี ต.หนองหอย จ.เชียงใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีรายชื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.และทีมผู้ผู้บริหาร กทม. ตามที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งรายชื่อคณะผู้บริหาร กทม.ที่ถูกชี้มูลว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการไฟประดับของ กทม. มูลค่า 39.5 ล้านบาท ไปให้ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาด้วย.
วานนี้ (21 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการออกเสียงประชามติวันที่ 7 ส.ค.ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รัฐบาลและ คสช.ก็ดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อย ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายพลเมืองผู้ห่วงใย ที่ขอให้เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญนั้นได้ให้ กกต.พิจารณาอยู่ ถ้าเหมาะสมก็จะทำให้ การเปิดพื้นที่นั้นได้สั่งการไปแล้ว แต่วิธีการต้องเหมาะสม ไม่ใช่เปิดเวทีแล้วทะเลาะกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึง คำทำนายของ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรวารินทร์ ที่ระบุว่า จะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนกำลังทำให้มีการเลือกตั้งอยู่ ถ้าไม่มีเลือกตั้งจริงก็ไม่ใช่ตนเป็นคนทำ ส่วนเรื่องทำนายก็เป็นเรื่องของโหร เป็นเรื่องของไสยศาสตร์
เมื่อถามว่า ในการลงประชามติครั้งนี้จะเปรียบได้หรือไม่ว่าประชาชนตัดสินใจว่าจะเอาหรือไม่เอา คสช. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน จะเอาหรือไม่เอา ตนก็อยู่จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่เช่นนั้นก็เลือกตั้งไม่ได้ ถ้าประชามติไม่ผ่าน จะให้ตนรับผิดชอบก็ไม่ได้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนร่าง แต่เป็นคนรับผิดชอบที่จะต้องทำใหม่ ส่วนในวันลงประชามติจะเรียบร้อยหรือไม่นั้น ต้องถามคนทำเรื่องวุ่นวาย เราไม่ได้ไปรักษาความปลอดภัยในทุกสถานที่
** “บิ๊กป้อม” รูดซิปคำทำนายโหรฯ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ โหรวารินทร์ ระบุว่า การออกเสียงประชามติจะราบรื่น แต่รัฐบาลต้องอยู่ยาวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ข้างหน้า ไม่สามารถคาดเดาได้ และไม่ทราบเรื่องที่นายวารินทร์ออกมาทำนายอะไร
สำหรับการเปิดเวทีเพื่อให้ข้อมูลเรื่องร่างรัฐธรรมนูญตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้บอกกับผู้ว่าราชการจังหวัด และ กกต.ให้เปิดเวทีทุกพื้นที่ และทุกจังหวัด สามารถดีเบต พูดคุยเรื่องร่างรัฐธรรมนูญได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.ดูแลทุกพื้นที่ ส่วนแนวทางหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ประชามตินั้น กำลังพิจารณากันอยู่
** กรธ.ย้ำไม่ร่วมเวทีดีเบตแน่นอน
ด้าน นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาส่งตัวแทน กรธ.ไปร่วมเวทีดีเบตของ กกต.ว่า ทาง กรธ.ได้คุยกันในเรื่องนี้แล้ว มีข้อสรุปเหมือนเดิมว่า กรธ.ไม่ได้มีหน้าที่ไปดีเบตกับใคร เพราะกฎหมายก็ระบุให้ กรธ.มีหน้าที่ไปชี้แจงเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนที่มีนักการเมืองและกลุ่มการเมืองหลายฝ่ายเริ่มแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้นในช่วงก่อนการทำประชามติ ก็ถือเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
** กกต.จัดเวทีดีเบตต่อแม้ กรธ.เมิน
ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และ กรธ.ประกาศไม่ร่วมรายการสนทนาระหว่างฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ หรือเวทีดีเบต ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า รายการก็ต้องจัดต่อไป ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดรายการลักษณะดังกล่าวช้าเกินไป ตนก็ไม่อยากให้มองเช่นนั้น แต่ควรมองว่าคนจะสนใจในช่วงท้าย ดังนั้นช่วงโค้งสุดท้ายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นอะไรที่เป็นประโยชน์ โดยสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นก็สามารถจัดรายการลักษณะนี้ได้เช่นกัน แต่ต้องไม่ก้าวร้าว รุนแรง ปลุกระดม
** “พีซทีวี” จอดำ-ใช้โซเชี่ยลฯเคลื่อนไหว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลปกครอง คณะผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีซทีวี นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ไต่สวนพิจารณาคุ้มครองกรณี กสทช.มีคำสั่งให้ยุติการออกอากาศชั่วคราว 30 วัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป โดยภายหลังการไต่สวนนาน 1 ชั่วโมงครึ่ง นายจตุพร กล่าวสั้นๆว่า หลังเวลา 00.01 ของวันที่ 22 ก.ค. พีซทีวีคงต้องจอดำไปก่อน โดยศาลปกครองจะนัดไต่สวน 2 ฝ่ายอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ระหว่างนี้จะใช้การเผยแพร่สัญญาณผ่านเวบไซต์ยูทูบ และเฟสบุ๊คไลฟ์แทน
** เชือดอีกล็อต ขรก.-อปท.เอี่ยวโกง
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 43/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 4 โดยโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว ของผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการพลเรือน ผู้บริหารและผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวม 60 ราย อาทิ นายปิยพันธ์ แสนทวีสุข รองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหาสารคาม นายสำเริง กิปัญญา ผู้อำนวยการ (ผอ.)โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ นายมนัส นิลคปตุ์ ผอ.โครงการชลประทานสมุทรปราการ นางมลัยรัก ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มุกดาหาร
นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายก อบจ.ชัยนาท นายสุนทร รัตนากร นายก อบจ.กำแพงเพชร นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ และนายณรงค์ วิบูลย์มา นายกเทศมนตรี ต.หนองหอย จ.เชียงใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีรายชื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.และทีมผู้ผู้บริหาร กทม. ตามที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งรายชื่อคณะผู้บริหาร กทม.ที่ถูกชี้มูลว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการไฟประดับของ กทม. มูลค่า 39.5 ล้านบาท ไปให้ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาด้วย.