xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปตำรวจเริ่มต้นผิดก็ไร้ประโยชน์ แค่ปาหี่ตลกต้มชาวบ้าน !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ไม่รู้ว่าระบบคิดของรัฐบาลในระดับนโยบายคิดกันแบบไหน สำหรับการปฏิรูปตำรวจที่ล่าสุดมีการกำหนดตัวหัวหน้าคณะทำงาน และประสานงานการปฏิรูปองค์กรตำรวจขึ้นมา พร้อมทั้งบอกว่ามีการเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานในองค์กรตำรวจโดยกำหนดเวลาเป็นสามระยะ ตั้งแต่เร่งด่วน ระยะกลาง 5 ปี ไปจนถึงระยะยาว 20 ปี โดยมีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะทำงานดังกล่าวขึ้นมาแล้ว คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาทำหน้าที่อันสำคัญนี้
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณากันก่อนก็คือ การปฏิรูปแบบนี้ มีการแต่งตั้งคนแบบนี้มาปฏิรูปวงการตำรวจ ผลจะออกมาถูกต้องตรงตามความต้องการของชาวบ้านหรือไม่ รวมไปถึงสร้างหลักประกันให้กับตำรวจด้วยกันได้แค่ไหน เนื่องจากยังมีคำถามตามมาว่า คนที่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิรูป กลับกลายเป็นว่าน่าจะต้องปฏิรูปตัวเองเสียก่อน หรือไม่อีกด้วย
ก่อนอื่นต้องเข้าใจปฐมบทของเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากตำรวจจำนวนมากไม่ได้ทำหน้าที่เป็น"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"ตามเจตนารมย์ แต่"รับใช้การเมือง" ใช้อำนาจมิชอบ ขณะเดียวกันฝ่ายการเมืองก็เข้ามาล้วงลูก ใช้ตำรวจเป็นเครื่องทางการเมือง มีการวิ่งเต้นซื้อตำแหน่งจนมีข่าวอื้อฉาวอยู่ทุกปี ด้วยระบบที่"ห่วยแตก" ดังกล่าว นอกจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านแล้วในวงการตำรวจด้วยกันก็มีการแตกแยก ตำรวจที่มีคุณภาพมีฝีมือ ก็ไม่มีหลักประกันความก้าวหน้า เพราะไม่ใช่ "เด็กนาย" ภาพแบบนี้มีให้เห็นจนชินตา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นว่ายุคใครยุคมัน
ที่สำคัญที่สุดคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคนขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้ คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ก็เป็น "ตำรวจการเมือง" มีภาพฝักใฝ่การเมืองชัดเจน โดยเฉพาะภาพที่เห็นไม่นานก่อนหน้านี้ กับพรรคเพื่อไทย โดยเขาเคยเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเมื่อพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เขากลับไปรับราชการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ที่มีการสงวนตำแหน่งรอเอาไว้ให้
** คำถามก็คือ นี่หรือเส้นทางของนักปฏิรูปที่น่าเชื่อถือ หรือคนที่ได้รับแต่งตั้งให้มาขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจที่เป็นวาระสำคัญในระดับชาติตามความต้องการของชาวบ้านเป็นอันดับต้นๆ
แน่นอนว่านักปฏิรูปแบบนี้ย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการเป็นนักโปรโมต เล่นไปกับกระแสสังคมด้วยความฉาบฉวย คราวนี้เมื่อได้รับการแต่งตั้ง ก็ขึงขังตามฟอร์ม ว่านี่คือนโยบายที่ได้ถูกมอบหมายมาจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ากันเป็นฉากๆ เหมือนทุกครั้งที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อที่เป็นภาพคุ้นชิน
คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ก็ขึงขังว่า ทุกหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องให้ความร่วมมือและต้องทำแผนปฏิรูปเสนอมาตามกรอบที่กำหนดเอาไว้ 10 ประเด็น โดยเร็ว หากหน่วยงานใดหรือใครไม่ให้ความร่วมมือ จะถูกลงโทษ
ได้ยินแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนยากที่จะบรรยายความรู้สึก หัวร่อไม่ออก เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ไม่น่าจะใช่เจตนาหรือความต้องการแบบนี้ แน่นอนว่า ชาวบ้านปราถนาอย่างแรงกล้า ต้องการให้ปฏิรูปตำรวจโดยเร็วที่สุดแบบวันนี้พรุ่งนี้ ยิ่งดี เพียงแต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องระดมความคิดเห็นจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงกว่าใคร อีกทั้งชาวบ้านเป็นผู้บังคับบัญชาที่แท้จริงของข้าราชการพวกนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องฟังตำรวจด้วยกันด้วย เพียงแต่ว่า ต้องเป็นตำรวจที่ได้รับความเชื่อถือมากกว่านี้
**อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติในตอนนี้ มันก็เหมือนกับการ "ชิงลงมือก่อน" ทางหนึ่งหวังว่าจะลดกระแสของชาวบ้าน เพราะพวกเขารู้ดีว่า ชาวบ้านต้องการให้มีการปฏิรูป อีกทั้งยังรู้ดีว่า หากปล่อยให้มีการดำเนินการปฏิรูปจากภายนอก พวกเขาอาจจะสูญเสียอำนาจและระบบเส้นสายที่เคยมีมาไปทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็ต้องยืนยันว่า วิธีการแบบนี้มันไม่ใช่การปฏิรูปตำรวจตามที่ชาวบ้านต้องการ เสียเวลาเปล่า เพราะมันไม่ต่างจากปาหี่ ตบตาชาวบ้านเท่านั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น