นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ. ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่า คณะ กมธ.เตรียมกำหนดประเด็นสำคัญเพื่อบรรจุในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง หากร่างรธน.ผ่านประชามติ จำนวน 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1. การเลือกตั้งส.ส. 2.การได้มาซึ่งส.ว. 3. พรรคการเมือง และ 4. คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เจตนารมณ์ของกฎหมายเหล่านี้ ต้องการสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น ป้องกันไม่ให้นายทุนมาควบคุมพรรคการเมือง และลดการซื้อสิทธิ ขายเสียง โดยจะมีการกำหนดบทลงโทษที่สูงขึ้น เช่น ระวางโทษจำคุก 10 ปี สำหรับผู้ซื้อเสียง และถ้าเป็นกรณีที่่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาครอบงำพรรคการเมือง จะต้องโทษจำคุก 10 ปี และปรับ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการกำหนดรางวัลนำจับ แก่ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสให้กับผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นเงิน 1 แสนบาท
ส่วนบทลงโทษว่าด้วยการยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ยังคงมีอยู่ตามเดิม แต่จะเป็นเฉพาะกรณีที่พรรคการเมืองมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
"จะไม่มียุบพรรคการเมืองที่มาจากการกระทำความผิดของกรรมการบริหารพรรคเพียงคนเดียว เพราะพรรคการเมือง ถือเป็นสถาบันสำคัญทางการเมือง แต่จะกำหนดบทลงโทษเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่กระทำความผิดเฉพาะบุคคลเท่านั้น" นายเสรี กล่าว
ทั้งนี้ เจตนารมณ์ของกฎหมายเหล่านี้ ต้องการสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น ป้องกันไม่ให้นายทุนมาควบคุมพรรคการเมือง และลดการซื้อสิทธิ ขายเสียง โดยจะมีการกำหนดบทลงโทษที่สูงขึ้น เช่น ระวางโทษจำคุก 10 ปี สำหรับผู้ซื้อเสียง และถ้าเป็นกรณีที่่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาครอบงำพรรคการเมือง จะต้องโทษจำคุก 10 ปี และปรับ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะเสนอให้มีการกำหนดรางวัลนำจับ แก่ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสให้กับผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นเงิน 1 แสนบาท
ส่วนบทลงโทษว่าด้วยการยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ยังคงมีอยู่ตามเดิม แต่จะเป็นเฉพาะกรณีที่พรรคการเมืองมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
"จะไม่มียุบพรรคการเมืองที่มาจากการกระทำความผิดของกรรมการบริหารพรรคเพียงคนเดียว เพราะพรรคการเมือง ถือเป็นสถาบันสำคัญทางการเมือง แต่จะกำหนดบทลงโทษเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่กระทำความผิดเฉพาะบุคคลเท่านั้น" นายเสรี กล่าว