xs
xsm
sm
md
lg

แฉสารพัดโกงในกปภ. วิลาศจี้"เสรี"จัดการก่อนเจอม.157

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (17ก.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้แถลงการทุจริตในโครงการต่างๆ ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง และล็อกสเปก 10 กว่าโครงการ มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่า นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเบื้องต้น แทนที่จะใช้อำนาจที่มี ออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทุกโครงการมีความผิดชัดเจน และที่สำคัญคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีนายกฤษฎา ศังขมณี รองผู้ว่าฯ ฝ่ายบริหาร เป็นประธาน ทั้งที่เป็นบุคคลที่ถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส และยังเป็นคนที่ออกมาคัดค้านการแต่งตั้งนายเสรี เป็นผู้ว่าฯ อีกด้วย แสดงให้เห็นว่านายเสรี ไม่กล้าเอาผิดใคร ทำตัวเหมือนนักวิชาการทั่วๆไป อีกทั้งยังแต่งตั้ง นายถาวร นิติภาวะชน อดีต รองผู้ว่าฯ ฝ่ายปฏิบัติการ 4 ดูแลเขต 2 และเขต 3 ที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมามากที่สุด มาเป็นที่ปรึกษา โดยนายถาวร ได้นำเลขาส่วนตัวและลูกสาว มาเป็นหน้าห้องตัวเองอีกด้วย
"ผมขอส่งสัญญาณไปยังนายเสรีว่า ให้เลิกวัฒธรรมเก่าๆ ที่เอาคนถูกกล่าวหาส่อโกง มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ แทนที่จะเอาคนนอกมาทำหน้าที่ หรือใช้อำนาจที่มี สั่งการเด็ดขาดไปเลย เพราะสุดท้ายก็คงได้แค่ตักเตือนทางวินัย ไม่สามารถเอาผิด หรือเอาเงินคืนได้ แต่ก็เข้าใจว่า นายเสรีเพิ่งได้รับตำแหน่งเพียง 1 เดือนเศษ ก็ต้องให้เวลา แต่หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็จำเป็นที่จะต้องกล่าวหาไปยังนายเสรีด้วย ในฐานะที่รับรู้ปัญหาแล้ว แต่ยังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาล"
นายวิลาศ กล่าวว่า ตนเริ่มไม่มั่นใจในแนวคิดของนายเสรี ว่าจะทำงานในตำแหน่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เช่น กรณีที่ตนเคยประกาศผ่านสื่อว่า จะเปิดโปงอีกหลายโครงการในกปภ. ปรากฏว่ามีนกรู้ โดยนายเสรีได้เรียกประชุมรองผู้ว่าฯเขต 6 ผอ.สำนักต่างๆ รวมถึงผู้รับเหมาที่ร้องเรียนว่ามีการล็อกสเปกใน โครงการวางท่อน้ำดิบอ่างโป่งช้างน้อย ถึงอ่างท่าขาม จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 35 กม. โดยขอให้ผู้รับเหมายุติการร้องเรียน ขณะที่ ผอ.เขต 6 ได้ทำหนังสือแจ้งต่อนายเสรีว่า ยอมรับว่ามีการล็อกสเปกจริง แต่เป็นการทำเพื่อให้ได้ผลงานที่ดี และเคยทำกรณีนี้กับโครงการที่ หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กับที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มาแล้ว ซึ่งนายเสรีอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ควรใช้อำนาจที่มีเด็ดขาดหรือ เชือดไก่ให้ลิงดู เพราะเรื่องนี้ผิดจริง แต่กลับปล่อยให้ผ่านไป
นายวิลาศ ยังกล่าวเปิดเผยถึงโครงการวางท่อน้ำดิบระยะทาง 8,000 เมตร พร้อมสถานีสูบน้ำ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของนายถาวร ว่า มีปัญหาคือ ไม่มีการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับเหมาดำเนินการจนหมดสัญญา เนื่องจากมีประชาชนคัดค้านการก่อสร้างในพื้นที่ ขณะที่ผู้รับเหมาได้ขนอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น ท่อประปาไปวางในพื้นที่ตามกำหนดสัญญา แต่ก็ถูกชาวบ้านจุดไฟเผาทำลาย จนได้รับความเสียหาย เมื่อทำหนังสือไปยังนายถาวร เพื่อทวงถามเรื่องการส่งมอบพื้นที่ ถึง 43 ฉบับ แต่กลับมีการดองเรื่องไว้จนหมดครบสัญญา 3 ปี ต่อมานายถาวร ได้ทำหนังสือไปยังผู้รับเหมาให้ส่งมอบรถปิ๊กอัพ เพื่อให้นายช่างควบคุมงานไว้ใช้ ทั้งที่สัญญาหมดไปแล้ว โดยเรื่องนี้ทำให้กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนเพราะผู้รับเหมาถูกขูดรีด จึงเสนอให้นายเสรีลงพื้นที่ เพื่อไปดูว่าลูกน้องว่าเฮงซวยขนาดไหน
นอกจากนี้ ล่าสุดเกิดความเสียหายกับโครงการโรงสูบน้ำประปาบ้านโป่ง จ.ราชบุรี มูลค่า100 ล้านบาทเศษ มีการก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ไม่สามารถสูบน้ำได้ น้ำไม่ขึ้น เนื่องจากคำนวนส่วนสูงของอาคารผิด สภาพโรงสูบมีลักษณะเหมือนหอดูดาว และทราบว่ากำลังจะของบประมาณใหม่ เพื่อทำการทุบหรือเปลี่ยนแปลงให้ใช้การได้ โครงนี้ถือเป็นการจารึกผลงานฉาวของ กปภ. โดยตนขอเสนอให้ยกอาคารนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อใช้ดูดาว ไม่ต้องไปทุบทิ้งให้เสียงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าตนจะทยอยส่งเร่องการทุจริตต่างๆ ของกปภ.ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทีละเรื่อง เพื่อทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป
นายวิลาศ ยังได้กล่าวถึงกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.เตรียมฟ้องกลับ จากกรณีที่ตนกล่าวหาทุจริตรถดับเพลิง กทม. ว่า ขอให้ฟ้องมาได้เลย ตนจะได้ขอเรียกเอกสารเพิ่มเติมได้สะดวกขึ้น ส่วนกรณีที่รมว.มหาดไทย ระบุว่า จะไม่ปลดผู้ว่าฯ กทม. แต่ขอให้มีการสอบสวนการทุจริตเสร็จสิ้นนั้น นาววิลาศ กล่าวว่า ตามกฎหมายมีอยู่มาตราหนึ่ง ที่ให้อำนาจ รมว.มหาดไทย หากเห็นว่าพฤติการในการทำงานไม่ถูกต้อง สามารถเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้พ้นจากตำแหน่งได้ ซึ่งก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ก็อย่างว่า อยู่ดีๆ คงไม่มีใครอยากปะทะ เดี๋ยวจะโดนด่า อย่างไรก็ดี หลังที่ตนได้แถลงเรื่องการทุจริตรถดับเพลิงขนาดเล็กของ กทม. ไปแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่า มีการนำรถดังกล่าว ออกมาวิ่งใช้งานบนท้องถนน เพื่อหวังให้ประชาชนได้เห็นว่ามีการใช้งานจริง บางเขต ถึงขนาดเอาไปใช้ไล่จับสุนัข อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังได้ให้ข้อมูลกับตนว่า รถดังกล่าวมีล้อที่เหมาะสำหรับวิ่งทางวิบาก ขึ้นลงภูเขา ไม่เหมาะวิ่งบนพื้นถนนเรียบ เพราะจะทำให้เบรกไม่อยู่ และเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น