เด็ก ปชป.เอือมผู้ว่าการ กปภ.ไม่กล้าใช้กระบองขจัดสารพัดปัญหาโกง แถมยังตั้งคนถูกร้องฟอกตัวเองคงได้แค่ตักเตือน แนะเลิกใช้วัฒนธรรมเก่า ตั้งคนฉาวเป็นที่ปรึกษา ขู่ถ้ายังนิ่ง เล่นงาน ม.257 ปูดสร้างสถานีสูบน้ำกลับได้หอดูดาว สูญงบฯ ร้อยล้าน และยังจะของบฯ ทุบทิ้ง แนะยกให้พิพิธภัณณ์วิทยาศาสตร์แทน
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากที่ตนได้แถลงการทุจริตในโครงการต่างๆ ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง และล็อกสเปก 10 กว่าโครงการมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่านายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเบื้องต้น แทนที่จะใช้อำนาจที่มีออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทุกโครงการมีความผิดจริงชัดเจน และที่สำคัญคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายกฤษฎา ศังขมณี รองผู้ว่าการฯ ฝ่ายบริหาร เป็นประธาน ทั้งที่เป็นบุคคลที่ถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส และยังเป็นคนที่ออกมาคัดค้านการแต่งตั้งนายเสรีเป็นผู้ว่าการฯ อีกด้วย แสดงให้เห็นว่านายเสรีไม่กล้าเอาผิดใคร ทำตัวเหมือนนักวิชาการทั่วๆ ไป อีกทั้งยังแต่งตั้งนายถาวร นิติภาวะชน อดีตรองผู้ว่าการฯ ฝ่ายปฏิบัติการ 4 ดูแลเขต 2 และเขต 3 ที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมามากที่สุด มาเป็นที่ปรึกษา โดยนายถาวรได้นำเลขาฯ ส่วนตัวและลูกสาวมาเป็นหน้าห้องตัวเองอีกด้วย
“ผมขอส่งสัญญาณไปยังนายเสรีว่าให้เลิกวัฒธรรมเก่าๆ ที่เอาคนถูกกล่าวหาส่อโกงมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ แทนที่จะเอาคนนอกมาทำหน้าที่หรือใช้อำนาจที่มีสั่งการเด็ดขาดไปเลย เพราะสุดท้ายก็คงได้แค่ตักเตือนทางวินัยไม่สามารถเอาผิด หรือเอาเงินคืนได้ แต่ก็เข้าใจว่านายเสรีเพิ่งได้รับตำแหน่งเพียง 1 เดือนเศษ ก็ต้องให้เวลา แต่หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็จำเป็นที่จะต้องกล่าวหาไปยังนายเสรีด้วย ในฐานะที่รับรู้ปัญหาแล้ว แต่ยังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาล”
นายวิลาศกล่าวว่า ตนเริ่มไม่มั่นใจในแนวคิดของนายเสรีว่าจะทำงานในตำแหน่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เช่น กรณีที่ตนเคยประกาศผ่านสื่อว่าจะเปิดโปงอีกหลายโครงการใน กปภ. ปรากฏว่ามีนกรู้ โดยนายเสรีได้เรียกประชุมรองผู้ว่าการฯ เขต 6 ผอ.สำนักต่างๆ รวมถึงผู้รับเหมาที่ร้องเรียนว่ามีการล็อกสเปกในโครงการวางท่อน้ำดิบอ่างโป่งช้างน้อยถึงอ่างท่าขาม จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 35 กม. โดยขอให้ผู้รับเหมายุติการร้องเรียน ขณะที่ ผอ.เขต 6 ได้ทำหนังสือแจ้งต่อนายเสรีว่ายอมรับว่ามีการล็อกสเปกจริง แต่เป็นการทำเพื่อให้ได้ผลงานที่ดี และเคยทำกรณีนี้กับโครงการที่หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กับที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่นมาแล้ว ซึ่งนายเสรีอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ควรใช้อำนาจที่มีเด็ดขาดหรือ เชือดไก่ให้ลิงดู เพราะเรื่องนี้ผิดจริงแต่กลับปล่อยให้ผ่านไป
นายวิลาศยังกล่าวเปิดเผยถึงโครงการวางท่อน้ำดิบระยะทาง 8,000 เมตร พร้อมสถานีสูบน้ำ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของนายถาวรว่า มีปัญหาคือไม่มีการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้รับเหมาดำเนินการจนหมดสัญญา เนื่องจากมีประชาชนคัดค้านการก่อสร้างในพื้นที่ ขณะที่ผู้รับเหมาได้ขนอุปกรณ์ก่อสร้างเช่นท่อประปาไปวางในพื้นที่ตามกำหนดสัญญา แต่ก็ถูกชาวบ้านจุดไฟเผาทำลายจนได้รับความเสียหาย เมื่อทำหนังสือไปยังนายถาวรเพื่อทวงถามเรื่องการส่งมอบพื้นที่ถึง 43 ฉบับ แต่กลับมีการดองเรื่องไว้จนหมดครบสัญญา 3 ปี ต่อมานายถาวรได้ทำหนังสือไปยังผู้รับเหมาให้ส่งมอบรถปิกอัพเพื่อให้นายช่างควบคุมงานไว้ใช้ ทั้งที่สัญญาหมดไปแล้ว โดยเรื่องนี้ทำให้กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนเพราะผู้รับเหมาถูกขูดรีด จึงเสนอให้นายเสรีลงพื้นที่เพื่อไปดูว่าลูกน้องว่าเฮงซวยขนาดไหน
นอกจากนี้ ล่าสุดเกิดความเสียหายกับโครงการโรงสูบน้ำประปาบ้านโป่ง จ.ราชบุรี มูลค่า 100 ล้านบาทเศษ มีการก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ไม่สามารถสูบน้ำได้ น้ำไม่ขึ้น เนื่องจากคำนวนส่วนสูงของอาคารผิด สภาพโรงสูบมีลักษณะเหมือนหอดูดาว และทราบว่ากำลังจะของบประมาณใหม่เพื่อทำการทุบหรือเปลี่ยนแปลงให้ใช้การได้ โครงนี้ถือเป็นการจารึกผลงานฉาวของ กปภ. โดยตนขอเสนอให้ยกอาคารนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อใช้ดูดาว ไม่ต้องไปทุบทิ้งให้เสียงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าตนจะทยอยส่งเร่องการทุจริตต่างๆ ของ กปภ.ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทีละเรื่องเพื่อทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป