สน.ประชาช้ำชอก – แสบ “ออกลาย” ช่วยหญิงไก่ ผงะ!!?? ชั่วครบเครื่องโกงพ่อ –โกงแม่ -โกงพระ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -“แสบ-นรกสั่ง” น่าจะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมสำหรับ หญิงไก่-วันทนีย์ เพราะใครก็ตามหากทำตัวลึกลับไม่มีความชัดเจน แม้กระทั่งสาแหรกเป็นใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใครตำรวจยังเกาหัวแกร๊กๆ เพราะไม่พบในทะเบียนราษฎร์ เมื่อรวมถึงพฤติการณ์ที่เปลี่ยนชื่อหลายครั้งหลายหนตั้งแต่ น.ส.ซิ้ม แซ่เตีย บุตรนายเชียง หรืองี้ แซ่เตีย อดีตนักโทษคดีอันธพาลครองเมืองตามนโยบายปราบปรามพวกภัยสังคมเมื่อสมัย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ เป็นอธิบดีกรมตำรวจ หรือราว พ.ศ.2499 ส่วนมารดาชื่อนางวิไล ไม่ทราบนามสกุล

หลังจากพ่อติดคุกจนบ้านแตกสาแหรกขาดนางวิไล ไปได้สามีใหม่เป็นตำรวจทางหลวงส่วน น.ส.ซิ้ม เปลี่ยนชื่อเล่นเป็นน้องไก่ ชื่อ-สกุลเป็นน.ส.วันทนีย์ หยกวิริยะกุล และสุชาดา ก่อนมาเป็นมัณตา หยกรัตนกาญ ในยุคปัจจุบัน แต่ที่ถูกนายเชียง ออกมาแฉเมื่อ 30 ปีก่อนช่วงเกิดคดีทุจริตเครื่องราชฯก็เพราะทนไม่ได้ที่เห็นน้องเล่นงานพี่ (กิมเอ็ง) และเคยทำบาปกรรมกับตนไว้ด้วยการแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์กับพ่อแท้ๆ ทั้งที่จริงแค่ไปทวงเงิน 4 หมื่นบาทที่หญิงไก่ -วันทนีย์ เคยยืมไป

ดังนั้นปัญหาประวัติไม่ชัด-สืบค้นไม่เจอ ตีความได้สถานเดียว...นั่นก็คือลีลาโจร เป็นวิชา 18 มงกุฎที่นิยมใช้กันมาทุกยุค และยิ่งไปเจอโค้ชดีมีทั้งนักการเมือง ตำรวจ เจ้าพ่อการพนันไปจนถึงนักข่าวพิษสงของนางจึง “รอบตัว” กลมกลิ้งยิ่งกว่ามะกอก 3 ตะกร้า

อีกปมหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้ผัวเปลืองที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยปรากฏเป็นข่าวขึ้นมากล่าวคือมีประวัติการจดทะเบียนและหย่าร้างมากมายนับ 10 ครั้ง เฉพาะ พ.ต.ท.ชิดชัย แสงอรุณ สามีอย่างเป็นทางการเจ้าของตำนาน “พบรักที่พิษณุโลก” เดี๋ยวจดเดี๋ยวหย่าจากอดีตถึงปัจจุบันรวม 7 ครั้ง

พฤติการณ์อย่างนี้ถ้าไม่เพี้ยนก็ต้องมีอะไรที่ผิดปกติบ้างล่ะ !!??

ภาพรวมจึงเชื่อได้ว่าหญิงไก่-วันทนีย์ คือนางเสือร้ายอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่จำเป็นต้องพิสูจน์ต่อไปก็คือข้อกล่าวหาต่างๆที่เคยกระทำต่อเหยื่อมากมายรวม 9 คดีนั้นจะสะสางกันอย่างไร ทั้งการดำเนินคดีกับหญิงไก่-วันทนีย์ ในข้อหาแจ้งความเท็จอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา คดีพยายามค้ามนุษย์ และคดีความผิดตามมาตรา 112 เป็นต้นซึ่งในส่วนของการพิสูจน์ตอนนี้อย่าว่าแต่คดียังไม่ทันส่งขึ้นศาลเลย แค่การออกมาแฉโพยรายวันทั้งทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ หรือบรรดานักสืบโซเชียลก็น่าจะเพียงพอกับการแก้ต่างให้เห็นว่าหญิงไก่-วันทนีย์ มิได้มีฐานะร่ำรวยอะไรเลย

เป็นเพียงคำโกหกของแก๊งต้มตุ๋นที่อาศัยมุกเก่าๆ ที่ใช้ได้ผลทุกยุคทุกสมัย แต่สำหรับหญิงไก่-วันทนีย์ต่างจาก 18 มงกุฎกระจอกๆตรงที่กล้าเล่น - กล้าใช้ความเป็นหญิง ยอมเสียทั้งเงินทั้งตัวเพื่อเดินไปสู่ความสำเร็จ ความไม่ธรรมดาของเธอพิสูจน์ได้จากบรรดา “เหยื่อ”หรือทางผ่านไปสู่จุดสุดยอดล้วนเป็นคนมีอำนาจ มีหน้ามีตาในสังคมแต่ที่สุดกิเลสตัณหา และความละโมบทำให้หูตามืดบอด จนบางครั้งอดถามไม่ได้ว่าคนเป็นนายพล -นายพัน ทำไมมันถึงโง่กันขนาดนั้น

คำตอบก็ขอให้ย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าข้างบน....คือกิเลส-ตัณหาหวังได้เงินทอง และได้ตัวเป็นของแถม...แค่นั้นจริงๆ....กระทั่งหญิงไก่ - วันทนีย์ สังขารร่วงโรย เมื่อใช่เสน่ห์ยั่วไม่ได้ก็ต้องใช้ความเก๋า...”แสบ -นรกสั่ง”ขนาดไหนลองมาอ่านผลงานที่นักสืบโซเชียลค้นมาให้เห็นกันจะๆ…..

1.ตั้งเว็บให้หวย หลอกคนมาทำสำนักงานเพื่อทำเกี่ยวกับให้หวยแต่บังหน้าคือเพื่อการท่องเที่ยวทำบุญ ไฟแนนซ์ อะไรว่าไปที่ถูกกฎหมาย

2.หลังจากเปิดสำนักงาน ริชชัวร์ รวยแน่นอน 111 ไม่นาน ได้ไม่เกินเจ็ดวันเริ่มมีคนรู้ทัน และสำนักงานแตกภายในสองอาทิตย์เพราะคนรู้ทันจะเอาเรื่อง

3.หลังสำนักงานแตกนางก็รวบรวมคนที่ยังเชื่อไปเปิดร้านอาหารครัวคุณชาย โดยคนที่ยังไม่รู้เร่องราวเป็นพ่อครัว หลอกใช้เขา เงินเดือนค่าจ้างไม่ให้ ค่าเช่าร้านไม่ให้

4.หลังจากนั้นไม่นาน นางก็เลิกร้านอาหารที่เคหะชั้นสองนั่นแหละ เช่าใต้ถุนเคหะทำคาร์แคร์ โดยใช้คนที่ยังไม่รู้ตัวหลอกใช้เขาอีกยาว โดยแลกกับการสอนหวย ให้หวย

5. ต่อมาคนที่โดนหลอกใช้เหล่านั้นหนีออกมาแบบไม่ได้เงินสักบาทแถมจ่ายแทนตลอดเวลาคนมาทวงต่างๆนางจะอ้างว่าบัญชียังเบิกไม่ได้ เงินรอเบิกหลายสิบหลายร้อยล้าน คนที่ใกล้ชิดที่ยังหลงเชื่ออยู่ก็จะมีการจ่ายไปก่อน

6. ต่อมาหลังจากกลุ่มนี้หนีหมดแล้วนางก็จะหาคนต่างด้าวมาทำงานคนพวกนี้มาจากทางเหนือ มีบัตรจริงหรือปลอมไม่รู้แต่เคยได้ยินนางพูดว่ามีวิธีซิกแซ็กพามาได้ ตม.ซี้กัน

7.นางจะเช่าห้องในเคหะไว้ให้คนงานต่างด้าวอยู่

8.พอใกล้สิ้นเดือนก็จะทำเนียนไม่จ่ายเงินเดือน ใครมีปัญหาก็ไล่ออก ใครหือก็ยัดข้อหาให้

9.เคยถามนางว่าทำไมต้องเปิดสำนักงานหวยใกล้สน.ประชาชื่น นางว่าปลอดภัยดีพวกเราทั้งนั้นแถวนี้รู้จักคุ้นเคยดีปลอดภัย

10.เวลาหลอกใครนางจะจะบอกว่าตัวเองอยู่บ้านหลังใหญ่ๆแถวสน.ประชาชื่น หลังสีเขียวๆ

11.ในระหว่างที่ทำสำนักงานหวยก็จะมีเด็กรับใช้ 7-8 คนล้อมหน้าหลังเหมือนตนคนสำคัญ เด็กเหล่านั้นคือเด็กที่มาจากต่างจังหวัดทางเหนือทางอีสาน ลาว หรือแถวกันดารหน่อย

12. พอสำนักงานแตกนางไม่หยุดนางยังเที่ยวหลอกไปทั่วอีกเหมือนเดิม เวลาหลอกจะ อ้างว่าตน จะอ้างว่าตน รวย มีเงินมากมาย สำคัญมาก เอาอัลบั้มรูปตัดแปะข่าวหนังสือพิมพ์มาเรียงลำดับแล้วให้ดูพร้อมเล่าว่าอะไรยังงัย

เอาข่าวต่างๆ เก่าๆ ตัดแปะเฉพาะที่ตัวเองเด่นและไม่เป็นผลเสียมาอ้างมารวมอัลบั้มไว้

คนที่มาหามีทั้งตำรวจที่นางบอกจะให้ยศ ให้เลื่อนขั้น มีทนายมาทำคดีโน่นนั่นนี่นางก็จะให้เงินหุ้นเยอะแล้วแต่จะจินตนาการ มีทหารที่นางหลอกจะให้เลื่อนขั้น โยกย้าย มีนายพันเดินตามถือกระเป๋าเป็นว่าเล่น

มีคนที่เข้ามาหาโชคเสี่ยงโชค เขาเชื่อว่าให้หวยแม่นก็จะยิ่งศรัทธาแล้วก็หลอกใช้เขานั่นนี่

พอคนมาหาเยอะบางคนมีคดีความมาปรึกษานางทำตัวเป็นหมอดูด้วยก็จะดูดวงให้แล้วบอกคดีช่วยได้รู้จักผู้พิพากษา เรียกเงินดำเนินการเสียไปหลายแสนในบางคนแต่ก็ติดคุกอยู่ดี

บางคนทำธุรกิจรถนำเข้ารถถูกกักที่ด่าน นางก็จะช่วงวิ่งเต้นได้เรียกค่าดำเนินการทีละสองแสนสามแสนจนเป็นล้านรถยังอยู่ที่ด่าน พี่คนนี้หนีหัวซุกหัวซุนเพราะเจ้าหนี้นอกระบบมาตามทวงด้วย รถก็ไม่ได้มาขาย เรื่องความเดือดร้อนมันต่อๆกัน

บางคนอยากให้ลูกสอบทหารได้มาขอให้นางช่วยก็จะมีค่าดำเนินการสองสามแสน สุดท้ายก็หายจ้อย

พระบางวัดโดนนางหลอกว่าจะเอากฐินผ้าป่าคุณหญิงไปลงช่วงนั้นวัดสวนหลวงอัมพวาถึงวันไม่มีเงินไปเซ็นเช็ค 20 ล้าน ทำเนียนไปนับเงินกับคนอื่นแล้วหอบเงินหนีคนที่ไปด้วยงงเลย

หลวงพ่อป่านนี้เป็นไงไม่รู้ !!??

สรุป ตอนนี้คนที่สำนักงานไม่มีใครอยู่แล้ว รู้ทันหนีออกมาหมด เมย์จุฑามาศก็หนีออกมาแล้ว เด็ก7-8คนก็หนีออกมาแล้ว ไม่รู้ใครโดนอะไรบ้าง

เหลือเด็กอีกคนชื่อกะปุกอายุตอนนั้นน่าจะห้าขวบเขาเลี้ยงไว้บอกใจบุญเก็บมาเลี้ยง ตอนที่เจอตอนนั่นเด็กเรียนที่วัดเสมียนนารี โดนสอนแบบผิดๆแถมเปิดเสื้อดูโดนตีเต็มไปหมด ทั้งแผลเก่าแผลใหม่ เขาจะด่าหยาบคายและพฤติกรรมตลาดมากถ้าโกรธ

ถ้าโกรธจัดจะลงไม่ลงมือเคยตบจะแทงคนในสำนักงานด่าเสียๆ หายๆ ต่ำขนาดไม่รู้ว่า คำพวกนี้มาจากไหน

บอกคนอื่นจ้างเด็กหมื่นห้าส่งเรียนสารพัดจะพูดแต่ในความจริงเด็กไม่ได้เงินเดือนมาหลายเดือนแถมไปขอสามพันยังจะโดนตบ

ล่าสุดนักธุรกิจเดือดร้อนมีนักเลงมากวน นางบอกช่วยได้อย่างทันทีเอาพวกผู้พันตึ๋งมานั่นนี่แล้วหลอกปล่อยกู้สองร้อยล้าน นักธุระกินเชื่อเซ็นสัญญาเรียบร้อย...เงินไม่ได้ !!??

วันต่อมาขอดอกเบี้ยก่อนเก้าแสนกว่า นักธุรกิจกำลังเดือดร้อนไปหาเงินมาให้เพราะว่าเดี๋ยวคุณหญิงให้กู้สองร้อยล้านถือมีน้ำใจโอนให้ล้านนึงเลย

สุดท้ายสองร้อยล้านหายจ้อยพอดีกับข่าวดังช่วงนี้ นักธุรกิจได้แต่กุมขมับ !!??...กลัวนางเอาสัญญาสองร้อยล้านมาฟ้องอีกทั้งที่ไม่เคยได้เงิน

แถมวันทำสัญญานางนัดประกันของไทยซัมซุงมา ประกันก็หว่านล้อมให้นางทำอะไรว่าไปนางไม่ทำสุดท้ายโยนลูกมาที่นักธุรกิจที่นั่งตรงนั้นว่าช่วยหน่อย เขาก็เกรงใจทำๆไปจ่ายไปห้าหมื่น ภายหลังมารู้ว่าประกันฉบับนั้นนางใส่ชื่อลูกชายแทนนักธุรกิจ

คนธรรมดาทำไม่ได้นะต้องคนที่ไม่มีความละอาย คนขับรถบอกเงินผู้สูงอายุแม่ยังโกงแม่เลยไปทำเรื่องผู้สูงอายุแม่เสร็จเงินก็จะจ่ายให้ตัวเองแทนแม่ แม่ไม่เคยได้

นางโรคประจำตัวเยอะมะเร็งเต้านมเอย ไทรอยด์ เยอะแยะแต่ตายยากจริง นี่เล่าทั้งวันยังไม่ถึงครึ่งในวีรกรรมเลวๆนางเลย แต่ละคนจะมีเรื่องคนละเรื่องมากน้อยว่าไป

ไม่รวมเด็กตกเขียวในบ้าน ที่หนีแล้วโดนยัดคดี !!??

นี่คือข้อมูลละเอียดยิบจากนักสืบโซเชียลฯ

แต่.....“โหด-เลว-ไม่มีดี”ขนาดนี้แต่ทำไมยังมีตำรวจบางคนพยายามช่วยเหลือ...

ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีของกองปราบปราม กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ถึงกับพบร่องรอยการตายอย่างผิดปกติของเศรษฐีนีคนหนึ่งที่หญิงไก่-วันทนีย์ เข้าไปมีส่วนพัวพัน แต่การทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพียงพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏว่ามีพนักงานสอบสวนคนใดส่อทุจริต หรือบกพร่องใน 9 คดีแจ้งความเท็จหรือไม่

ทนายสงกานต์ จุดชนวน “ตุกติก” ของตำรวจบางคนในเฟสบุกส่วนตัวทำนองว่ามีนายตำรวจใหญ่บางคนเริ่มออกตัวทำนองว่าหญิงไก่-วันทนีย์ เขารวยจริง ขนาดเคยไปร่วมสังสรรค์ที่ร้าน “ครัวคุณชาย” แถวๆ ทาวน์อินทาวน์ ซึ่งเป็นร้านอาหารของเธอ...บวกกับพฤติการณ์สอบปากคำเหยื่อคดีแจ้งความเท็จแบบวกไปวนมาตั้งแต่เที่ยงวันถึงหกโมงเย็น แต่ไม่มีประเด็นที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ได้มอบไว้นั่นคือให้สอบเน้นเรื่องที่เห็นว่าผิดปกติ กลับเป็นนั่งแท็กซี่ยี่ห้ออะไร สีอะไร ทะเบียนอะไร ค่ารถเท่าไหร่ เพื่อนชื่ออะไร พักชั้นไหน เลขห้องอะไร ค่าเช่าเท่าไหร่...วนไปวนมาไม่เข้าประเด็นจนเจ้าทุกข์ หรือเหยื่อหญิงไก่ เกิดความกดดัน

นี่คืออีกประเด็นหนึ่งที่สังคมต้องการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเร่ง “ไขปม”ความไม่ชอบมาพากลที่หมักหมม อยู่ใน สน.ประชาชื่น....อย่าให้เกิดความรู้สึกอีกว่าตำรวจกำลังจะ “เล่นกล”ช่วยเหลือกันเอง หรือหนักหนาก็คือยังแอบช่วยคุณหญิงกำมะลอ ทั้งๆที่เห็นกันอยู่โทนโท่ ไส้กี่ขด ตับไต-ม้าม-ปอดเป็นอย่างไรสังคมช่วยสืบค้นมาตีแผ่นกันอย่างละเอียดยิบ แต่ก็ยังมีบางคนเชื่อว่าภาพลวงตา กับอาหารกากๆไม่กี่มื้อทำให้เชื่อว่าหญิง 18 มงกุฎมีฐานะร่ำรวยจริง

เช่นนั้นจะมีผลต่อคดีนี้หรือไม่..หรือต้องยกเลิกระบบตำรวจสอบตำรวจ...ยกคดีนี้ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ