วานนี้ (12 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มที่จัดทำ ร่างรธน.ปลอม ว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวน ว่ามาจากไหน แล้ว สื่อรู้หรือไม่ว่ามาจากไหนช่วยสืบหน่อย แต่อย่าไปสนใจ ถ้ามันไม่ใช่ของจริง ตำรวจเขาก็ดำเนินคดีตามกฎหมายที่ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ควรจะสนใจรธน.ตัวจริงว่าดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากคำพูดของนายกฯ ที่ระบุว่าจะร่างรธน.เอง ถ้าฉบับนี้ไม่ผ่านประชามติ นายกฯ ตอบทันทีว่า "ผมก็พูดของผมไป สื่อก็มาจับประเด็น กระจ็อกกระแจ๊ก อย่างนี้มา แล้วผมเขียนเองได้หรือไม่ หน้าที่ใครคนเขียน ที่ผ่านมามีคณะกรรมการร่างรธน. ใช่ไหม สื่อจะไปขยายความทำไม"
เมื่อถามว่าจากคำพูดดังกล่าว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบมาเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความชัดเจนหลังประชามติว่า หากไม่ผ่านจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวย้ำว่า ตนเพียงแต่พูดให้ฟังว่า มันต้องมีรธน.ใหม่ และรธน.ใหม่นั้น ต้องเขียนด้วยใคร ตนพูดถึงว่าถ้ามันยุ่งยากกันนัก ก็โอเค ซึ่งมันไม่ไปถึงตรงนั้นอยู่แล้ว ตนก็รู้อยู่ มันต้อง
มีคนร่างใหม่ แต่ที่พูดมานั้นเป็นการพูดประชด ไม่เข้าใจหรือ จะหาเรื่อง คุ้ยเรื่องให้ได้ ต่อไปนี้จะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ที่มันจะเป็นปัญหาไม่พูด จะตอบเท่าที่ถาม ก็เน่าๆ กันไป
อยู่กันไปแบบนี้
**วิชามารชอบ"บิ๊กตู่" ต้องคว่ำรธน.
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรารภในที่ประชุมครม. ถึงกระแสสังคมที่มีการระบุกันว่า จะรับหรือไม่รับร่างรธน. ด้วยเหตุผลต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้คสช.อยู่นานๆ แล้วเลือกที่จะลงประชามติ ไม่รับร่างรธน.นั้น ซึ่งนายกฯ ระบุว่า จะรับ หรือไม่รับ ไม่อยากให้คำนึงถึงปัจจัยอื่น แต่อยากให้คำนึงคุณค่าของรธน.มากกว่า ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้จริงหรือไม่ หรือสามารถจะตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ได้หรือไม่ จึงอยากให้ตรงนี้เป็นตัวตั้งในการพิจารณาออกสิทธิ์ออกเสียง ว่าจะรับ หรือไม่รับ อย่าไปคิดเรื่องอื่น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งต้องมีโรดแมป ถ้าไม่ผ่านประชามติ ก็ต้องหาทางร่างกันขึ้นมาใหม่ วนเวียนกันอยู่แบบนี้ จึงอยากให้พิจารณาสาระสำคัญของร่างรธน. เป็นหลัก
**กรธ.-กกต.เกี่ยงกันฟ้องแก๊งบิดเบือน
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวถึงการพิจารณาเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรธน. ของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่มีเนื้อหาบิดเบือน ว่า คงต้องให้ กกต.เป็นผู้เอาผิด เพราะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กรธ.คงไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนนี้ ส่วนปัญหาการบิดเบือนเนื้อหาร่าง รธน. ขอยืนยันจากการลงพื้นที่ของ กรธ. ยังไม่พบปัญหาหรือความวุ่นวาย นอกจากที่จ.เชียงใหม่ แห่งเดียวเท่านั้น
สำหรับเนื้อหา ที่คณะอนุกก.จัดทำเนื้อหาในการเผยแพร่ร่าง รธน. มองว่ามีการบิดเบือนใน เอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรธน. เป็นข้อความในการใช้หัวข้อให้ประชาชนเข้าใจผิด อาทิ ส.ว.ทหารตั้งโดยทหาร เลือกคนที่ชอบแต่ได้พรรคที่เกลียด องค์กรแต่งตั้งอยู่เหนือประชาชน คสช. ยังเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นต้น ทำให้อนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึง กรณีกรธ. ระบุจะมีการหารือกับกกต.เกี่ยวกับเรื่องมีการบิดเบือนเนื้อหาร่างรธน. ในวันที่ 14 ก.ค.ว่า คงไม่ไปเพราะไม่มีหนังสือเชิญมาเป็นทางการ ตนเป็นประธานองค์กรอิสระต้องมีเกียรติ และยังไม่ทราบเชิญไปที่ไหน อยู่ๆ จะเดินเข้าไปได้อย่างไร หน้าที่เรา คือ รณรงค์การทำประชามติ
สำหรับปัญหาเอกสารความเห็นแย้งร่าง รธน.ถ้าเขียนผิดจากร่าง รธน. ถือเป็นการบิดเบือน แต่ถ้าคำว่า ความเห็นแย้งนั้น ส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เป็นผู้พิพากษามา ความเห็นแย้ง คือ มีศาลมีคำพิพากษาแล้วผู้พิพากษาในองค์คณะไม่เห็นด้วย ก็จะมีความเห็นแย้ง กรณีความเห็นแย้งร่างรธนง ก็คือเขาไม่เห็นด้วยกับร่างรธน. ถือเป็นการแสดงความเห็น แต่ต้องไม่มีการบิดเบือน โน้มน้าวจิตใจใคร
"ถ้ากรธ.บอกว่าบิดเบือน ก็ส่งมาให้ กกต.ก็จะดำเนินการให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เราต้องมาดูข้อเท็จจริงว่าขัด ม.61 วรรคสอง หรือไม่ จากนั้นก็จะส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนที่ กรธ.อยากให้ กกต. เป็นโจทก์ร่วมคงไม่ได้ เพราะกกต.จะฟ้องเองก็ไม่ได้ ซึ่งกรณีเป็นอาญาแผ่นดิน ถ้าใครเห็นว่ามีความผิดเกิดขึ้น ก็ไปดำเนินการได้เลย กกต.เองก็ต้องให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตาม ม.11 ของ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ เรากับกรธ. ยังไม่มีความเห็นอะไรที่ไม่ตรงกัน" ประธาน กกต.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากคำพูดของนายกฯ ที่ระบุว่าจะร่างรธน.เอง ถ้าฉบับนี้ไม่ผ่านประชามติ นายกฯ ตอบทันทีว่า "ผมก็พูดของผมไป สื่อก็มาจับประเด็น กระจ็อกกระแจ๊ก อย่างนี้มา แล้วผมเขียนเองได้หรือไม่ หน้าที่ใครคนเขียน ที่ผ่านมามีคณะกรรมการร่างรธน. ใช่ไหม สื่อจะไปขยายความทำไม"
เมื่อถามว่าจากคำพูดดังกล่าว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบมาเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความชัดเจนหลังประชามติว่า หากไม่ผ่านจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวย้ำว่า ตนเพียงแต่พูดให้ฟังว่า มันต้องมีรธน.ใหม่ และรธน.ใหม่นั้น ต้องเขียนด้วยใคร ตนพูดถึงว่าถ้ามันยุ่งยากกันนัก ก็โอเค ซึ่งมันไม่ไปถึงตรงนั้นอยู่แล้ว ตนก็รู้อยู่ มันต้อง
มีคนร่างใหม่ แต่ที่พูดมานั้นเป็นการพูดประชด ไม่เข้าใจหรือ จะหาเรื่อง คุ้ยเรื่องให้ได้ ต่อไปนี้จะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ที่มันจะเป็นปัญหาไม่พูด จะตอบเท่าที่ถาม ก็เน่าๆ กันไป
อยู่กันไปแบบนี้
**วิชามารชอบ"บิ๊กตู่" ต้องคว่ำรธน.
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรารภในที่ประชุมครม. ถึงกระแสสังคมที่มีการระบุกันว่า จะรับหรือไม่รับร่างรธน. ด้วยเหตุผลต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้คสช.อยู่นานๆ แล้วเลือกที่จะลงประชามติ ไม่รับร่างรธน.นั้น ซึ่งนายกฯ ระบุว่า จะรับ หรือไม่รับ ไม่อยากให้คำนึงถึงปัจจัยอื่น แต่อยากให้คำนึงคุณค่าของรธน.มากกว่า ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้จริงหรือไม่ หรือสามารถจะตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ได้หรือไม่ จึงอยากให้ตรงนี้เป็นตัวตั้งในการพิจารณาออกสิทธิ์ออกเสียง ว่าจะรับ หรือไม่รับ อย่าไปคิดเรื่องอื่น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งต้องมีโรดแมป ถ้าไม่ผ่านประชามติ ก็ต้องหาทางร่างกันขึ้นมาใหม่ วนเวียนกันอยู่แบบนี้ จึงอยากให้พิจารณาสาระสำคัญของร่างรธน. เป็นหลัก
**กรธ.-กกต.เกี่ยงกันฟ้องแก๊งบิดเบือน
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. กล่าวถึงการพิจารณาเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรธน. ของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่มีเนื้อหาบิดเบือน ว่า คงต้องให้ กกต.เป็นผู้เอาผิด เพราะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กรธ.คงไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนนี้ ส่วนปัญหาการบิดเบือนเนื้อหาร่าง รธน. ขอยืนยันจากการลงพื้นที่ของ กรธ. ยังไม่พบปัญหาหรือความวุ่นวาย นอกจากที่จ.เชียงใหม่ แห่งเดียวเท่านั้น
สำหรับเนื้อหา ที่คณะอนุกก.จัดทำเนื้อหาในการเผยแพร่ร่าง รธน. มองว่ามีการบิดเบือนใน เอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรธน. เป็นข้อความในการใช้หัวข้อให้ประชาชนเข้าใจผิด อาทิ ส.ว.ทหารตั้งโดยทหาร เลือกคนที่ชอบแต่ได้พรรคที่เกลียด องค์กรแต่งตั้งอยู่เหนือประชาชน คสช. ยังเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นต้น ทำให้อนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึง กรณีกรธ. ระบุจะมีการหารือกับกกต.เกี่ยวกับเรื่องมีการบิดเบือนเนื้อหาร่างรธน. ในวันที่ 14 ก.ค.ว่า คงไม่ไปเพราะไม่มีหนังสือเชิญมาเป็นทางการ ตนเป็นประธานองค์กรอิสระต้องมีเกียรติ และยังไม่ทราบเชิญไปที่ไหน อยู่ๆ จะเดินเข้าไปได้อย่างไร หน้าที่เรา คือ รณรงค์การทำประชามติ
สำหรับปัญหาเอกสารความเห็นแย้งร่าง รธน.ถ้าเขียนผิดจากร่าง รธน. ถือเป็นการบิดเบือน แต่ถ้าคำว่า ความเห็นแย้งนั้น ส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เป็นผู้พิพากษามา ความเห็นแย้ง คือ มีศาลมีคำพิพากษาแล้วผู้พิพากษาในองค์คณะไม่เห็นด้วย ก็จะมีความเห็นแย้ง กรณีความเห็นแย้งร่างรธนง ก็คือเขาไม่เห็นด้วยกับร่างรธน. ถือเป็นการแสดงความเห็น แต่ต้องไม่มีการบิดเบือน โน้มน้าวจิตใจใคร
"ถ้ากรธ.บอกว่าบิดเบือน ก็ส่งมาให้ กกต.ก็จะดำเนินการให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เราต้องมาดูข้อเท็จจริงว่าขัด ม.61 วรรคสอง หรือไม่ จากนั้นก็จะส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนที่ กรธ.อยากให้ กกต. เป็นโจทก์ร่วมคงไม่ได้ เพราะกกต.จะฟ้องเองก็ไม่ได้ ซึ่งกรณีเป็นอาญาแผ่นดิน ถ้าใครเห็นว่ามีความผิดเกิดขึ้น ก็ไปดำเนินการได้เลย กกต.เองก็ต้องให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตาม ม.11 ของ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ เรากับกรธ. ยังไม่มีความเห็นอะไรที่ไม่ตรงกัน" ประธาน กกต.กล่าว