xs
xsm
sm
md
lg

พี่ชายน้ำตาร่วง วอนตร.ตามหาน้อง แฉนางไก่ตั้งตนใบ้หวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"ทนายสงกานต์"พาพี่ชายอดีตคนขับรถ "นางไก่" เข้าให้ข้อมูลกองปราบ วอนทั้งน้ำตาช่วยตามหาน้องชายให้ด้วย หลังหายตัวไร้ร่องรอย รับติดต่อกันครั้งสุดท้ายตอนน้ำท่วมใหญ่ ด้านเหยื่ออีกรายแฉถูกปลอมลายเซ็นในสำนวน เปิดสำนวนคดีม.112 พบแอบอ้างเบื้องสูง แถมเปิดบริษัทอ้างตนเป็นผู้วิเศษใบ้หวย "ศานิตย์"ลั่นเป็นตำรวจต้องไม่กลัวโจร เดินหน้าทำคดี ไม่สนเจอตอ ด้านน้องก้อย น้องมีน เข้าพบยุติธรรม ขอบคุณช่วยครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ 11 ก.ค.) ที่กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้พานายสมบัติ ขันหิน พี่ชายของนายสุนทร ขันหิน หรือโก้ อายุ 38 ปี ชาว จ.ลพบุรี อดีตคนขับรถของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ผู้ต้องหาคดีแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา , พยายามค้ามนุษย์ และหมิ่นเบื้องสูง หลังจากถูกกลุ่มผู้เสียหายซึ่งล้วนเคยเป็นอดีตลูกจ้างที่เคยทำงานรับใช้นางมณตาถูกแจ้งความดำเนินคดี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. และ พนักงานสอบสวน บก.ป. ภายหลังนายสุนทร หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนับตั้งแต่ปี 2555 โดยเป็นไปตามที่ได้ประสานกับทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ไว้แล้ว

นายสงกานต์กล่าวว่า มีความห่วงใยในตัวของนายสุนทรว่าอยู่ที่ไหน ที่ผ่านมา มักมีข่าวว่านายสุนทรอยู่ที่นั่นที่นี่ แต่ปรากฏว่าทางญาติ ยังไม่พบตัว ก็รู้สึกเป็นห่วงมาก จึงเป็นโอกาสดีที่พาพี่ชายของนายสุนทรเข้าพบ พล.ต.ต.ชาญ เพื่อจะได้สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่าเรื่องราวก่อนที่นายสุนทรจะหายตัวไป เป็นมาอย่างไร และต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยเผยแพร่ข่าว ทำให้นายสมบัติได้ทราบเรื่องแล้วออกมาประสานงาน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเราห่วงใยในความปลอดภัยของนายสุนทร

ด้านนายสมบัติกล่าวว่า ได้ติดต่อกับน้องชายล่าสุดตั้งแต่เมื่อช่วงเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อประมาณปี 2554 โดยน้องชายมาหาตนแล้วบอกว่าได้ลาออกจากงานที่ได้ทำกับนางมณตาแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ซึ่งทางน้องชายบอกกับตนเพียงว่าหากมีอะไรก็จะเป็นฝ่ายติดต่อกลับมาหาเอง ต่อมาหลังจากเขาเริ่มหายไปนานเข้าก็รู้สึกเป็นห่วง จนมีเพื่อนๆ เขาในเฟซบุ๊กออกมาบอกว่าน้องชายตนอยู่ที่นั่นที่นี่ ก็ได้ตรวจสอบไป แต่พบว่าไม่ใช่น้องชาย เป็นเพียงคนที่ใบหน้าคล้ายคลึงกันเท่านั้น โดยที่ผ่านมา ตนไม่ได้ติดต่อกับนางมณตาเลย เพราะไม่รู้จัก ทราบเพียงว่าน้องชายตนได้มาทำงานขับรถให้เท่านั้น และทราบว่าเมื่อมีเวลาว่างจากงานแล้วน้องชายก็จะทำงานพิเศษ คือ ขับแท็กซี่ โดยที่นางมณตาจะโทรศัพท์มาหาน้องชายตน เวลาต้องการเรียกใช้งานเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายสุนทรกับนางมณตาบ้างหรือไม่ นายสมบัติกล่าวว่า ไม่มีเลย ส่วนมากเขาจะไม่ค่อยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังมากนัก ส่วนสาเหตุที่ลาออก ก็ไม่ทราบเหมือนกัน

"ผมอยากเจอน้องนะ ไม่ได้เจอกันนานหลายปีแล้ว ขอให้ติดต่อกลับมาและดีใจที่สื่อมวลชนช่วยติดตาม หวังว่าจะได้เจอเร็วๆ นี้” นายสมบัติกล่าวทั้งน้ำตา

นายสงกานต์กล่าวเสริมว่า รายละเอียดต่างๆ ในคดีที่นางมณตาถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น เริ่มงวดเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว นางมณตา เวลาไปไหนมาไหนก็อย่างที่ปรากฏตามสื่อมวลชนว่าจะมอบสร้อยคอทองคำให้คนติดตามคนละ 2 บาท ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้คนที่เคยรับสร้อยคอทองคำดังกล่าวไป เมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นทองปลอมทั้งหมด รวมทั้งที่ตนเคยกล่าวไปแล้วว่าร้านทองที่ จ.นครสวรรค์ ก็ได้รับจำนำทองปลอมไปเช่นเดียวกัน แต่บังเอิญว่าภรรยาเจ้าของร้านทองเป็นเพื่อนกับนายจาตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวช่อง 3 จึงได้ข้อมูลไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว

นายสงกานต์กล่าวต่อว่า ขณะนี้พยานหลักฐานต่างๆ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งกรณีของ น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา ผู้เสียหายอีกราย อดีตลูกจ้างของนางมณตา ซึ่งจะมาแจ้งความเพิ่มเติม กรณีในขณะที่ทำงานกับนางมณตา และได้ถูกพาไปทำหนังสือเดินทาง ทั้งที่เวลานั้นยังเป็นเยาวชน แล้วปรากฏว่าเรื่องก็เงียบหายไป แต่ภายหลังก็พบว่ามีหนังสือเดินทางของ น.ส.จันทนา

ส่วนอีกเรื่องที่ผ่านมา คือ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งตนได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาการ ผบช.น. ทางนางสุกัลยา ศิริม่วง อีกหนึ่งผู้เสียหาย ก็ได้เห็นข้อเท็จจริงในสำนวนคดีที่ สน.ประชาชื่น ปรากฏว่าไม่ใช่ลายเซ็นของนางสุกัลยา โดยมีลายมือของนางสุกัลยาเพียงฉบับเดียวเป็นฉบับที่เขียนด้วยลายมือทั้งฉบับ ซึ่งจะมีการพิสูจน์ความจริงต่อไป

มีรายงานว่า สำหรับคดีของนางไก่ ที่ถูกดำเนินคดีใน ม. 112 นั้น มีพยานปากสำคัญ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมมอบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของนางไก่ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน โดยมักแอบอ้างว่า มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้านายในสถาบันเบื้องสูง รวมทั้งได้เปิดบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการทำหวย ชื่อบริษัทริชชัวร์ 111 (RICHSURE 111) ตั้งอยู่เลขที่ 159/4 ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ 34 แขวง ลาดยาว เขตจตุจักร ซึ่งขณะนี้ได้ปิดให้ทำการแล้ว

ทั้งนี้ ในระหว่างที่นางไก่ได้เปิดบริษัทดังกล่าว พยานปากสำคัญเล่าว่านางไก่มักอวดอ้างว่ารู้จักและสนิทสนมกับสถาบัน และมักจะอวดอุตริว่ามีญาณวิเศษสามารถที่จะให้เลขเด็ดได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้ประกาศผ่านเพจในเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “รวยแน่นอน” อวดอ้างสรรคุณการใบ้หวย โดยใช้ชื่อท่านแม่สุชาดา ซึ่งมีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก อีกทั้งหลังเกิดเรื่องก็ได้ปิดตัวลง และยังมีพฤติกรรมการจ่ายเช็คเด้งเป็นค่าเช่าบริษัทให้กับทางเจ้าของอาคารอีกด้วย

มีรายงานอีกว่า ภายหลังจากการนำเสนอข่าวการจับกุมตัวนางไก่แพร่ออกไป มีผู้เสียหาย พยาน ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าทีตำรวจหลายราย

วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. กล่าวว่า ได้สอบถามนายสงกานต์ ถึงข้อมูลเศรษฐินีในจ.อุดรธานีหายตัว และเกี่ยวข้องกับตำรวจท่องเที่ยวแล้ว ปรากฏว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลที่ประชาชนเขียนร้องเรียนมา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง แต่ขอยืนยันในฐานะ ผบก.ทท. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในยุคของตน ไม่มีพฤติกรรมดังกล่าวอย่างแน่นอน และหากทนายสงกานต์มีหลักฐานหรือข้อมูลใดๆ มามอบให้ ก็พร้อมจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ตนเชื่อว่าไม่มี หรืออาจจะมี อาจเป็นพวกกล่าวอ้าง แต่ว่าจะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายไม่ได้ ตนกับพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. ไม่ปล่อยไว้แน่นอน บางข่าวบอกว่ามีนายตำรวจใหญ่ มีผู้มีอิทธิพล ไม่มีแน่นอนที่ใครจะมาอยู่เหนือกฎหมาย ถ้ามีคนที่ไปอ้างจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมดที่ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลังว่ามีอิทธิพล

"ขอให้คณะทำงานได้ตรวจสอบก่อนว่าพนักงานสอบสวนมีความเกรงกลัวจริงหรือไม่ เป็นตำรวจต้องไม่กลัวโจร ถ้าเป็นตำรวจแล้วเกรงกลัวผู้กระทำผิดกฎหมาย ก็ไม่ต้องเป็นตำรวจ เพราะเรามีหน้าที่รักษากฎหมาย ผมให้กำลังใจตำรวจทุกนายไม่ต้องไปเกรงกลัวเราต้องรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์"

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัฒนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบความบกพร่องของพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ที่ทำคดีของนางมณตา ว่า อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ 30 วัน หากไม่แล้วเสร็จสามารถขยายเวลาออกไปได้ครั้งละ15 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการโยกย้ายตำรวจรายใด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งความอดีตลูกจ้างลักทรัพย์และคดีอื่นๆ จากนางไก่รวม 9 คดี ซึ่งมีพนักสอบสวนรับแจ้งความหลายนาย โดยแต่ละคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่บางคดีนางไก่ได้มีการถอนแจ้งความไปแล้ว ขณะเดียวกันนางไก่เองยังถูกแจ้งความกลับ 4 คดี ส่วนที่นายสงกานต์ออกมาแฉว่าพนักงานสอบสวน มีการปลอมลายเซ็นของเหยื่อ ขอให้เอาหลักฐานมายืนยัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย พร้อมด้วย น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือน้องมีน ได้เดินทางมากับครอบครัว เพื่อเข้าพบนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว นางสุกัลยา ศิริม่วง แม่ของน้องมีน ซึ่งถูกนางไก่ แจ้งความจับข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยกระทรวงยุติธรรมได้อนุมัติเงินช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวอดีตลูกจ้างที่ถูกนางมณตาแจ้งความดำเนินคดีรวม 4 คดี ประกอบด้วยน.ส.ประภาวรรณ ยื่นคำขอรับเงินกองทุนยุติธรรมเพื่อปล่อยตัวชั่วคราวให้กับนายชูเกียรติ ใจกล้าบิดา และนางประภาพร ทองเฟื้อง มารดาคนละ 100,000 บาท รวมทั้งขอความช่วยเหลือให้ตนเป็นหลักประกันของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง วงเงินไม่เกิน100,000 บาท ส่วนกรณี น.ส.วณิชยาได้รับเงินช่วยเหลือขอปล่อยตัวชั่วคราวมารดาเป็นเงิน 500,000 บาท แต่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น