ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
เหนือความคาดหมายเล็กน้อยสำหรับการตัดสินใจของ “ขวัญชัย ไพรพนา” ที่ยอมเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับโทษติดคุก 2 ปี ก่อนบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยตามคำอ้างที่ฝากเมียมาป่าวร้องให้ชาวบ้านฟังช่วงการปลีกวิเวก เหตุผลแท้จริงไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวและเมีย
คราวนี้มาอ้างว่าที่ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาเพราะกลัวตายหลังจากคนดังหลายคนมีปัญหาติดเชื้อในกระแสโลหิตทำให้อายุสั้น คราวนี้มีคำรับประกันจากนายทหารว่าจะปลอดภัยแม้อยู่ในคุก ถ้าจะหนีคุกต้องหลบให้รอดยาวนาน 15 ปี จนสิ้นอายุความนั่นเลย
เทียบกับยอมติดคุก 2 ปี สั้นกว่ากันเยอะ พรรคพวกสหายร่วมแนวได้ผ่านคุกมาแล้ว และยังติดอยู่อีกก็หลายคน นานกว่าด้วย ตัวขวัญชัยเองจะหวังไปอยู่ยุโรปหรือสหรัฐฯ คงไม่ง่าย ทั้งการสื่อสาร เงินทองสำหรับกินอยู่ จะหวังให้มีคนเลี้ยงดูยาวนานก็ไม่มีหลักประกัน
โคถึกที่สิ้นสภาพใช้งาน ไร้ประโยชน์ย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนาของเจ้าของ ต้นไม้ที่ไม่สามารถออกดอกออกผลได้ก็รอวันถูกโค่นเช่นกัน ขวัญชัยใช่ว่าจะคุ้นเคยกับชีวิตสังคมในต่างประเทศ อย่างมากก็อาจหลบไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน
จะหวังให้นายใหญ่เหลี่ยมเป็นผู้อุปถัมภ์หรือก็ต้องหวังว่านายเหลี่ยมจะอายุยืนยาว ตัวเองยังต้องพยายามไม่ให้รัฐบาลคุณท่านโกรธถึงขนาดไล่ล่าเอาตัวมาติดคุก 2 ปีเช่นกัน
ถ้าจะมีประเด็นน่าฉงนหรือพิสดารก็รอดูว่าการหลบหนี ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษานั้น ต้องมีปัญหาเรื่องการเพิ่มโทษหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรเลย ต่อไปจำเลยหรือผู้ต้องหาคนอื่นๆ ก็จะหลบไปก่อน รู้ชัดว่ามีโทษมากน้อยเพียงใดค่อยมามอบตัวรับโทษภายหลังก็ได้
กำนันเซียะ เป็นขาใหญ่รายล่าสุดซึ่งไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาให้จำคุก ก็ต้องหนีหลายปี อายุก็มาก จะไปไหนได้นาน นอกจากหลบอยู่ตามป่าเขาแนวชายแดนไต้อิทธิพลของกองโจรชนกลุ่มน้อย ที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง ต่างจาก “ปอ ประตูน้ำ” ยอมรับโทษจำคุก
ช่วงนี้ชาวบ้านกำลังเฝ้ารอคดีดัง เกิดขึ้นกับคนดังว่าจะลงเอยอย่างไร อำนาจรัฐกับความสามารถในการใช้เส้นสายดิ้นรนให้พ้นคุกจะสำเร็จหรือไม่กับกรณี อภิมหาโยเยชิตังเมนะจ๊ะแห่งสำนักธรรมกาย เสี่ยบรรยินและคณะ และนางไก่หรือหญิงไก่คนดังในสังคม
เป็นการพิสูจน์อำนาจของกระบวนการยุติธรรมและอิทธิพลนอกระบบซึ่งเคยทำให้คนรวย มีเส้นสายการเมืองรอดคุกมาได้หลายคน และพิสูจน์น้ำยาของรัฐบาลคุณท่านด้วย ถ้ามีกฎหมายพิเศษมาตรา 44 แล้วยังเอาไม่อยู่ อนาคตบ้านเมืองคงมืดมนรากฐานผุกร่อน
คดีแบบนี้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งไม่ยอมแตะอยู่แล้ว เพราะความเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ แถมยังเป็นพวกเดียวกัน มีความสัมพันธ์แนบแน่นทั้งเชิงธุรกิจ ฐานอำนาจ ทุนการเมือง ทำให้เป็นกลุ่มอิทธิพล ผู้รักษากฎหมายไม่กล้าแตะต้อง ถ้าการเมืองไม่สั่ง
รัฐบาลคุณท่านกำลังเร่งทำคะแนน แสดงให้เห็นว่าการใช้อำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ แม้จะเป็นอำนาจพิเศษ ก็ยังยอมรับได้ ตราบใดที่ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง ที่ผ่านมาจะด้วยเหตุผลอะไรก็สุดตาม ยังถูกมองว่า “เยี่ยวไม่สุด”
เอาเถอะ ยังไม่ถึงขั้นเสียของ ตราบใดที่ยังเดินหน้าทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวบ้าน อย่าทำเพื่อผลระยะสั้น ไฟไหม้ฟาง หรือปาหี่ เป็นมวยล้มต้มคนดู เอาเฉพาะเรื่องธรรมกาย ถ้าชำระสะสางได้สำเร็จ จะถือว่าเป็นผลงานไม่ธรรมดา ความกล้าเหนือกว่านักการเมือง
ถ้ามีอำนาจพิเศษแล้วไม่ใช้ จะตอบคำถามชาวบ้านว่าอยู่ไปเพื่ออะไร!
คดีดังอย่างเสี่ยบรรยิน หญิงไก่ ธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจ ขอให้ทำจริง ยึดกฎหมายอย่างเดียว ใครจะกล้าขวาง ทุกวันนี้เล่นงานได้ทั้งพวกสาวกเป็นโล่ให้โยเยนะจ๊ะ และเครือข่าย ใช้กฎหมาย ปปง. อายัดทรัพย์สิน ห้ามทำธุรกรรม ก็เหมือนลูกเต่าในไห
ยังเหลือเรื่องพลังงาน เหมืองทอง สินแร่ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งชาวบ้านยังไม่เข้าใจว่าทำไมความมั่งคั่งของประเทศไทยไม่ได้เป็นผลประโยชน์โดยตรงของคนไทย แต่เอาไปให้ต่างชาติกอบโกยโดยตลอด ด้วยข้ออ้าง “เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ”
การทวงคืนที่ดิน ทรัพยากรจากผู้บุกรุกซึ่งกำลังทำอยู่ คุณท่านต้องพิสูจน์ให้เห็นความตั้งใจ และต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีทำแล้วหยุด ชาวบ้านก็เข้าใจในคำอ้างว่าเป็นปัญหาหมักหมมมานาน แต่เมื่อคุณท่านเป็นผู้อาสา มีอำนาจพิเศษ ถ้าท่านไม่ทำ แล้วใครจะทำ
ทุกวันนี้มีการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติ การบุกรุกยึดป่า ที่ดินสาธารณะมากมาย การถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโดยคนต่างชาติเกือบทั่วประเทศ ปัญหานี้จะไม่มี ไม่เรื้อรัง ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายปฏิบัติงานอย่างจริงจังให้สมกับตำแหน่งงาน
สิ่งที่น่าทึ่งคือการจัดการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรโดยชาวจีนรายใหญ่ในภูเก็ต มีรถทัวร์เป็นร้อยๆ คัน เรือเร็วกว่า 50 ลำ ร้านอาหาร สปา สารพัด แถมยังมีบัตรประชาชนไทยอีกด้วย การลงทุนหลายร้อยล้านบาทจะต่อเนื่องไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือเต็มที่
ไล่มาตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยราชการต่างๆ ถ้าบอกว่าไม่รับรู้การขยายกิจการ การออกอนุญาตต่างๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้ คุณท่านต้องสั่งให้รื้อคดี สอบสวนเส้นทางตั้งแต่การทำธุรกิจ การได้มาซึ่งบัตรประชาชน และคงไม่มีรายเดียวที่เป็นเช่นนี้
นักธุรกิจชาวจีนได้เข้ามาสร้างเครือข่ายอิทธิพลทางการเงินในทุกเมืองใหญ่ การค้าขายผลิตภัณฑ์การเกษตร ผลไม้เช่นลำไย มังคุด ทุเรียน มะม่วง ลงทุนปลูกกล้วยหอมในพื้นที่หลายพันไร่ ดูเหมือนจะดี แต่เป็นการทำลายโครงสร้างธุรกิจปกติ เข้าข่ายครอบงำ
ถ้าไม่ชำระสะสางตั้งแต่เดี๋ยวนี้ จะมีนักธุรกิจจีนและชาติอื่นๆ เข้ามาอีกแน่นอน ถ้าเห็นว่ากฎหมายไทยไร้ความหมาย เงินซื้อเจ้าหน้าที่เพื่ออวยผลประโยชน์ให้เต็มที่
การเข้ามาของกลุ่มธุรกิจชาวต่างชาติ การเข้ามาอาศัยโดยสถานภาพอะไรก็ไม่รู้ มีชาวอัฟริกัน และจากทวีปอื่นๆ เดินเพ่นพ่านเกลื่อนเมือง ลงหลักปักฐาน มีธุรกิจ บ้านช่องประกอบกิจศาสนา โรงเรียน น่าสงสัยว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยอมให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
คุณท่านยังมีภารกิจอีกเยอะ ถ้าทำเพื่อบ้านเมือง ไม่มีโกงกิน ถึงปากร้ายอย่างไร ชาวบ้านจะทำเป็นเอาหูทวนลม ขอเพียงจัดการเครือข่ายโจรปล้นชาติ ปฏิรูปโครงสร้างประเทศ ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ตายไปแล้วชาวบ้านยังคงร่ำไห้อาลัยหาแน่นอน
โดย โสภณ องค์การณ์
เหนือความคาดหมายเล็กน้อยสำหรับการตัดสินใจของ “ขวัญชัย ไพรพนา” ที่ยอมเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับโทษติดคุก 2 ปี ก่อนบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยตามคำอ้างที่ฝากเมียมาป่าวร้องให้ชาวบ้านฟังช่วงการปลีกวิเวก เหตุผลแท้จริงไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวและเมีย
คราวนี้มาอ้างว่าที่ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาเพราะกลัวตายหลังจากคนดังหลายคนมีปัญหาติดเชื้อในกระแสโลหิตทำให้อายุสั้น คราวนี้มีคำรับประกันจากนายทหารว่าจะปลอดภัยแม้อยู่ในคุก ถ้าจะหนีคุกต้องหลบให้รอดยาวนาน 15 ปี จนสิ้นอายุความนั่นเลย
เทียบกับยอมติดคุก 2 ปี สั้นกว่ากันเยอะ พรรคพวกสหายร่วมแนวได้ผ่านคุกมาแล้ว และยังติดอยู่อีกก็หลายคน นานกว่าด้วย ตัวขวัญชัยเองจะหวังไปอยู่ยุโรปหรือสหรัฐฯ คงไม่ง่าย ทั้งการสื่อสาร เงินทองสำหรับกินอยู่ จะหวังให้มีคนเลี้ยงดูยาวนานก็ไม่มีหลักประกัน
โคถึกที่สิ้นสภาพใช้งาน ไร้ประโยชน์ย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนาของเจ้าของ ต้นไม้ที่ไม่สามารถออกดอกออกผลได้ก็รอวันถูกโค่นเช่นกัน ขวัญชัยใช่ว่าจะคุ้นเคยกับชีวิตสังคมในต่างประเทศ อย่างมากก็อาจหลบไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน
จะหวังให้นายใหญ่เหลี่ยมเป็นผู้อุปถัมภ์หรือก็ต้องหวังว่านายเหลี่ยมจะอายุยืนยาว ตัวเองยังต้องพยายามไม่ให้รัฐบาลคุณท่านโกรธถึงขนาดไล่ล่าเอาตัวมาติดคุก 2 ปีเช่นกัน
ถ้าจะมีประเด็นน่าฉงนหรือพิสดารก็รอดูว่าการหลบหนี ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษานั้น ต้องมีปัญหาเรื่องการเพิ่มโทษหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรเลย ต่อไปจำเลยหรือผู้ต้องหาคนอื่นๆ ก็จะหลบไปก่อน รู้ชัดว่ามีโทษมากน้อยเพียงใดค่อยมามอบตัวรับโทษภายหลังก็ได้
กำนันเซียะ เป็นขาใหญ่รายล่าสุดซึ่งไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาให้จำคุก ก็ต้องหนีหลายปี อายุก็มาก จะไปไหนได้นาน นอกจากหลบอยู่ตามป่าเขาแนวชายแดนไต้อิทธิพลของกองโจรชนกลุ่มน้อย ที่อำนาจรัฐเข้าไม่ถึง ต่างจาก “ปอ ประตูน้ำ” ยอมรับโทษจำคุก
ช่วงนี้ชาวบ้านกำลังเฝ้ารอคดีดัง เกิดขึ้นกับคนดังว่าจะลงเอยอย่างไร อำนาจรัฐกับความสามารถในการใช้เส้นสายดิ้นรนให้พ้นคุกจะสำเร็จหรือไม่กับกรณี อภิมหาโยเยชิตังเมนะจ๊ะแห่งสำนักธรรมกาย เสี่ยบรรยินและคณะ และนางไก่หรือหญิงไก่คนดังในสังคม
เป็นการพิสูจน์อำนาจของกระบวนการยุติธรรมและอิทธิพลนอกระบบซึ่งเคยทำให้คนรวย มีเส้นสายการเมืองรอดคุกมาได้หลายคน และพิสูจน์น้ำยาของรัฐบาลคุณท่านด้วย ถ้ามีกฎหมายพิเศษมาตรา 44 แล้วยังเอาไม่อยู่ อนาคตบ้านเมืองคงมืดมนรากฐานผุกร่อน
คดีแบบนี้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งไม่ยอมแตะอยู่แล้ว เพราะความเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ แถมยังเป็นพวกเดียวกัน มีความสัมพันธ์แนบแน่นทั้งเชิงธุรกิจ ฐานอำนาจ ทุนการเมือง ทำให้เป็นกลุ่มอิทธิพล ผู้รักษากฎหมายไม่กล้าแตะต้อง ถ้าการเมืองไม่สั่ง
รัฐบาลคุณท่านกำลังเร่งทำคะแนน แสดงให้เห็นว่าการใช้อำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ แม้จะเป็นอำนาจพิเศษ ก็ยังยอมรับได้ ตราบใดที่ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง ที่ผ่านมาจะด้วยเหตุผลอะไรก็สุดตาม ยังถูกมองว่า “เยี่ยวไม่สุด”
เอาเถอะ ยังไม่ถึงขั้นเสียของ ตราบใดที่ยังเดินหน้าทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวบ้าน อย่าทำเพื่อผลระยะสั้น ไฟไหม้ฟาง หรือปาหี่ เป็นมวยล้มต้มคนดู เอาเฉพาะเรื่องธรรมกาย ถ้าชำระสะสางได้สำเร็จ จะถือว่าเป็นผลงานไม่ธรรมดา ความกล้าเหนือกว่านักการเมือง
ถ้ามีอำนาจพิเศษแล้วไม่ใช้ จะตอบคำถามชาวบ้านว่าอยู่ไปเพื่ออะไร!
คดีดังอย่างเสี่ยบรรยิน หญิงไก่ ธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจ ขอให้ทำจริง ยึดกฎหมายอย่างเดียว ใครจะกล้าขวาง ทุกวันนี้เล่นงานได้ทั้งพวกสาวกเป็นโล่ให้โยเยนะจ๊ะ และเครือข่าย ใช้กฎหมาย ปปง. อายัดทรัพย์สิน ห้ามทำธุรกรรม ก็เหมือนลูกเต่าในไห
ยังเหลือเรื่องพลังงาน เหมืองทอง สินแร่ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งชาวบ้านยังไม่เข้าใจว่าทำไมความมั่งคั่งของประเทศไทยไม่ได้เป็นผลประโยชน์โดยตรงของคนไทย แต่เอาไปให้ต่างชาติกอบโกยโดยตลอด ด้วยข้ออ้าง “เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ”
การทวงคืนที่ดิน ทรัพยากรจากผู้บุกรุกซึ่งกำลังทำอยู่ คุณท่านต้องพิสูจน์ให้เห็นความตั้งใจ และต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีทำแล้วหยุด ชาวบ้านก็เข้าใจในคำอ้างว่าเป็นปัญหาหมักหมมมานาน แต่เมื่อคุณท่านเป็นผู้อาสา มีอำนาจพิเศษ ถ้าท่านไม่ทำ แล้วใครจะทำ
ทุกวันนี้มีการล้างผลาญทรัพยากรธรรมชาติ การบุกรุกยึดป่า ที่ดินสาธารณะมากมาย การถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโดยคนต่างชาติเกือบทั่วประเทศ ปัญหานี้จะไม่มี ไม่เรื้อรัง ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายปฏิบัติงานอย่างจริงจังให้สมกับตำแหน่งงาน
สิ่งที่น่าทึ่งคือการจัดการกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรโดยชาวจีนรายใหญ่ในภูเก็ต มีรถทัวร์เป็นร้อยๆ คัน เรือเร็วกว่า 50 ลำ ร้านอาหาร สปา สารพัด แถมยังมีบัตรประชาชนไทยอีกด้วย การลงทุนหลายร้อยล้านบาทจะต่อเนื่องไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือเต็มที่
ไล่มาตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยราชการต่างๆ ถ้าบอกว่าไม่รับรู้การขยายกิจการ การออกอนุญาตต่างๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้ คุณท่านต้องสั่งให้รื้อคดี สอบสวนเส้นทางตั้งแต่การทำธุรกิจ การได้มาซึ่งบัตรประชาชน และคงไม่มีรายเดียวที่เป็นเช่นนี้
นักธุรกิจชาวจีนได้เข้ามาสร้างเครือข่ายอิทธิพลทางการเงินในทุกเมืองใหญ่ การค้าขายผลิตภัณฑ์การเกษตร ผลไม้เช่นลำไย มังคุด ทุเรียน มะม่วง ลงทุนปลูกกล้วยหอมในพื้นที่หลายพันไร่ ดูเหมือนจะดี แต่เป็นการทำลายโครงสร้างธุรกิจปกติ เข้าข่ายครอบงำ
ถ้าไม่ชำระสะสางตั้งแต่เดี๋ยวนี้ จะมีนักธุรกิจจีนและชาติอื่นๆ เข้ามาอีกแน่นอน ถ้าเห็นว่ากฎหมายไทยไร้ความหมาย เงินซื้อเจ้าหน้าที่เพื่ออวยผลประโยชน์ให้เต็มที่
การเข้ามาของกลุ่มธุรกิจชาวต่างชาติ การเข้ามาอาศัยโดยสถานภาพอะไรก็ไม่รู้ มีชาวอัฟริกัน และจากทวีปอื่นๆ เดินเพ่นพ่านเกลื่อนเมือง ลงหลักปักฐาน มีธุรกิจ บ้านช่องประกอบกิจศาสนา โรงเรียน น่าสงสัยว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยอมให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
คุณท่านยังมีภารกิจอีกเยอะ ถ้าทำเพื่อบ้านเมือง ไม่มีโกงกิน ถึงปากร้ายอย่างไร ชาวบ้านจะทำเป็นเอาหูทวนลม ขอเพียงจัดการเครือข่ายโจรปล้นชาติ ปฏิรูปโครงสร้างประเทศ ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ตายไปแล้วชาวบ้านยังคงร่ำไห้อาลัยหาแน่นอน
