ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons (TIP) Report) ประจำปี 2016 ที่กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจถอดประเทศไทยออกจาก บัญชีเทียร์ 3 (Tier3) ที่มีการค้ามนุษย์ขั้นเลวร้ายขึ้นมาอยู่ เทียร์ 2 (Tier2)
นั่นหมายความว่า จากเดิมที่สหรัฐฯ จัดให้ไทยอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 คือประเทศซึ่งรัฐบาลยังไม่เคารพกฎหมายและหลักปฏิบัตินานาชาติที่ว่าด้วยการค้ามนุษย์ และ “ไม่พยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง” มาอยู่ “กลุ่มเทียร์ 2” ซึ่งหมายถึงประเทศหรือรัฐบาลที่ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายด้านการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ไม่ครบถ้วน แต่มีความพยายามอย่าง มีนัยสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเหล่านั้น
ประเทศไทยถูกปรับลดสู่ระดับต่ำสุดในเดือนมิถุนายน 2014 ไม่กี่สัปดาห์หลังจากกองทัพยึดอำนาจ แต่เจ้าหน้าที่ของไทย เดือดดาลเมื่อปีที่แล้ว หลังจากประเทศมาเลเซีย ได้รับการปรับอันดับขึ้นพ้นเทียร์ 3 ผิดกับไทย แม้ว่าองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ เห็นพ้องต้องกันว่า กรุงเทพฯ มีความพยายามควบคุมการค้ามนุษย์มากกว่ากัวลาลัมเปอร์เสียอีก
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ ถือว่าการออกแรงแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สูญเปล่า หลังจากที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำประเทศไทยไว้ในกลุ่มเทียร์ 3 ถึงสองปีซ้อน นับตั้งแต่กองทัพไทยก่อรัฐประหารยึดอำนาจที่เรียกเสียงประณามอย่างรุนแรงจากวอชิงตัน
นับเป็นเวลาสองปีที่ไทยกับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ชนิดที่ว่าขุ่นเคืองมีแต่บทตบไม่มีบทจูบ กระทั่งถึงวันนี้ที่ต่างฝ่ายคงรู้ว่าเราสองต้องมีกันและกัน ไทยจะเมินสหรัฐฯ หันซบจีน หรือสหรัฐฯ จะหวนคืนมีอิทธิพลในอุษาคเนย์โดยมองไม่เห็นหัวไทย ก็ล้วนแต่ไม่ใช่หนทาง การหวนคืนดีกัน มีปัญหาก็ค่อยๆ แก้ไขกันไปนั้นเป็นทางเลือกดีกว่า
จะว่าไป นี่เป็นช่วงจังหวะเวลาที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กำลังพยายามหล่อหลอมแนวร่วมในบรรดาชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต่อต้านความพยายามอ้างกรรมสิทธิ์เหนืออาณาเขตในทะเลจีนใต้ของจีน ขณะที่คณะผู้นำรัฐบาลของไทยเอง ก็รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับท่าทีของมหาอำนาจชาติตะวันออกที่คิดเอาแต่ได้ ตัวอย่างการโขกดอกเบี้ยเลือดซิบจนกู้ไม่ไหวในโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ชวนให้คิดว่าพี่ใหญ่จีนไม่ยอมช่วยรัฐบาลทหารไทยสร้างผลงาน กระทั่งถึงตอนนี้รถไฟสายใหม่ยังค้างเติ่ง และลดระยะทางลงจนแทบจะกลายเป็นรถไฟในสวนสนุกฝากไว้ให้อนุชนรุ่นหลังดูต่างหน้าไปแล้ว
เป็นที่คาดหมายว่า ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ล่าสุดนี้ สหรัฐฯ จะอ้างถึงความพยายามของประเทศไทยในการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ และความเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการค้ามนุษย์โดยไม่ปล่อยปละละเว้น หลังจากการขึ้นบัญชีเทียร์ 3 ส่งผลกระทบต่อไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่มีมูลค่าส่งออกนับแสนล้านของประเทศ
การหลุดพ้นจากบัญชีดำ ทำให้กระทรวงพาณิชย์คึกคักถึงขั้นจะประเมินการส่งออกใหม่เพราะมั่นใจว่าการส่งออกอาหารทะเลช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว เพราะการปรับขึ้นเทียร์ 2 จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งของไทยในทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดสหรัฐฯ หรือยุโรป และตลาดอื่นๆ เพราะผู้ซื้อจะมีความเชื่อมั่นต่อการดูแลในเรื่องแรงงานของไทย และส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ยอดการส่งออกสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งของไทยเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่คู่ค้าต่างชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอดูการประเมินผลการจัดอันดับของสหรัฐฯ เสียก่อน
มาดูการทำงานหนักของทางการไทยที่ทำให้หลุดจากบัญชีดำค้ามนุษย์ว่ามีการลงมือทำอะไรบ้าง จากรายงานของคณะทำงานในเรื่องนี้ ได้สรุปความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในระยะเวลาเดือนมกราคม 2558 ถึง มีนาคม 2559 ว่า ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 พี คือ เรื่องนโยบาย การดำเนินคดี การคุ้มครองเหยื่อ การป้องกันปัญหา และการสร้างพันธมิตรหุ้นส่วน
ทางด้านนโยบายมีสองส่วน หนึ่งคือ งบประมาณ และสอง การปฏิรูปกฎหมาย โดยงบประมาณปี 2558 รัฐบาลได้อนุมัติงบทั้งหมด 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 69% จาก1,700 ล้านบาท ในปีก่อน งบส่วนใหญ่ใช้ไปในการกิจกรรมป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ส่วนการปฏิรูปกฎหมาย มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ โดยให้อำนาจเจ้าหน้าที่ปิดสถานประกอบการ ยึดใบอนุญาตกิจการหรือโรงงาน หรือเรือประมงที่พบว่ามีการใช้แรงงานทาส ปรับเพิ่มการลงโทษให้หนักขึ้น และเพิ่มการคุ้มครองพยานและผู้แจ้งเบาะแสในคดีให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องการประมง เพิ่มโทษนายจ้าง เจ้าของเรือผู้ใช้แรงงานผิดกฎหมาย โรงงานอาหารทะเลที่ใช้แรงงานผิดกฎหมายถูกปิด ถูกยึดใบอนุญาต เพิ่มการลงโทษ และเพิ่มการปรับให้หนักขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญาว่าด้วยภาพลามกอนาจารของเด็ก มีประกาศกระทรวงแรงงานห้ามใช้แรงงานอายุต่ำกว่า 18 ปีในกิจการอาหารทะเล จากก่อนหน้านี้มีการห้ามเด็กอายุ 18 ปี ในเรือประมงมาแล้ว
ยังมีการออกกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพื่อเร่งรัดคดีให้มีความคืบหน้ามากขึ้น พยานซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกบังคับใช้แรงงานให้การก่อนการพิจารณาคดีได้ หรือสามารถส่งคำให้การทางวีดีโอจากบ้านได้ จากเดิมที่อยู่ในที่คุมขัง นี่ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในประเทศอาเซียน
ส่วนการดำเนินคดี ปี 2558 ที่ผ่านมา มีการสืบคดีค้ามนุษย์ รวมทั้งสิ้น 317 คดี เพิ่มขึ้น 13% จาก 280 คดี เมื่อปีก่อน ในจำนวนนี้ มีถึง 215 คดี ที่เกี่ยวกับคดีการล่อลวงทางเพศ ที่เหลือเป็นคดีเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย
ในการดำเนินคดี ได้มีการส่งฟ้องศาล ทั้งหมด 177 คดี เพิ่มขึ้น 53% จาก 115คดี เมื่อปีก่อน ศาลได้พิพากษาคดีไปแล้ว 169 คดี รายงานระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว จำเลยถูกพิพากษาทั้งหมด 241 คน เพิ่มขึ้น 131% จากปีก่อน นอกจากนี้มีการตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์ในสำนักงานอัยการสูงสุด และแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา เป็นกรณีพิเศษเพื่อเร่งรัดคดีให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนสำคัญที่สุดในการดำเนินคดี คือ สามารถจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยปีที่แล้วสามารถจับกุมได้ถึง 34 คน ในจำนวนนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โรฮีนจา 22 คน มีทหารและตำรวจเกี่ยวข้อง โดยมีนายทหารยศสูงถึงพลโท ส่วนตำรวจมียศพ.อ.และพ.ท. มีนายทหาร 5 คน ตำรวจ 4 คน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอีก 4 คน ที่ถูกดำเนินคดี และปัจจุบันยังถูกคุมขังในระหว่างการดำเนินคดี ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญของการดำเนินการต่อผู้กระทำผิด
ด้านการให้ความคุ้มครองเหยื่อ ปีที่ผ่านมามีเหยื่อ 720 คน ที่ได้รับการคุ้มครอง เพิ่มขึ้น21% จาก 595 คน เมื่อปีก่อน และถ้านับถึงเดือนมีนาคม ปี 2559 ตัวเลขจะสูงถึง 828คน
ความสำคัญของการคุ้มครองเหยื่อ ซึ่งมีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่นๆ คือ เหยื่อจะได้รับค่าชดเชยและมีโอกาสได้ทำงานในประเทศไทยได้ระหว่างที่รอคดีสิ้นสุด และถึงแม้คดีสิ้นสุดแล้วถ้ายังต้องการทำงานต่อก็ยื่นขออนุญาตได้โดยจะมีการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ถือเป็นมาตรการสูงกว่าประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลไทยจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อการค้ามนุษย์ 549 คน เป็นเงิน 293764เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 133% จากปีก่อน
ทางด้านยุทธศาสตร์การป้องปราม ประเทศไทยได้มีการทำความตกลงและทำบันทึกความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา ลาว เพื่อจัดระเบียบแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังได้มีการสุ่มตรวจสถานประกอบการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการค้าเด็กและผู้หญิง และจริงจังในการกวดขันรูปลามกอนาจารของเด็ก ปีที่แล้วมีการตรวจสถานประกอบการทุกชนิด 142,745แห่ง สถานประกอบการที่ต้องสงสัยว่าใช้แรงงาผิดกฎหมาย 140 แห่ง ถูกปิด ปัจจุบัน สถานประกอบการ 601 แห่ง กำลังถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
อีกทั้งยังมีการเข้มงวดกวดขันคนเข้ามาขอทาน โดยปีที่แล้ว มีขอทานทุกสัญชาติ จำนวน 3,648 คน ถูกส่งเข้าสถานฟื้นฟูและสร้างอาชีพ
เรื่องมาตรการในการสร้างหุ้นส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ปีที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะการประชุมสมัยพิเศษว่าด้วยการย้ายถิ่นที่ผิดปกติในมหาสมุทรอินเดีย และการประชุมอื่นๆ ทีเกี่ยวเนื่องเพื่อแสวงหาทางในการป้องกันและขจัดการค้ามนุษย์ ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการประมง ได้มีการออกมาตรการต่างๆ เช่น การตรวจสอบเรือประมงเข้าและออกท่าเรือ
นอกจากนี้ ยังมีการพบปะ ให้ข้อมูล และพาลงพื้นที่สำหรับเจ้าหน้าที่จากอเมริกา ทั้งในประเทศและมาจากวอชิงตัน รวมทั้งได้หารือกับเอ็นจีโอบางกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการทำรายงาน TIP Report อย่างสม่ำเสมอ
สรุปผลการดำเนินงานข้างต้น เป็นรายงานของคณะทำงานทางการไทยที่ส่งให้สหรัฐฯ 2 ครั้ง เมื่อเดือนมกราคม 2559 และ มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
ถึงแม้ TIP Report จะไม่มีบทลงโทษ แต่ถือเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ดังกรณีมาเลเซียกับไทยเมื่อปีที่แล้วที่มาเลเซีย ได้รับการยกระดับขึ้นสู่เทียร์ 2 ทั้งที่มาเลเซียดำเนินคดีค้ามนุษย์น้อยกว่าไทยแต่มาเลเซียมีท่าทีที่ปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจาดีกว่าไทย และมาเลเซียแสดงท่าทีพร้อมเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นโต้โผใหญ่ ขณะที่ไทยอิดเอื้อนที่จะเข้าร่วมเจรจา
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันแม้ไทยจะถูกถอดจากเทียร์ 3 แล้ว แต่ก็ต้องมุ่งมั่นทำต่อไป ไม่ว่าจะเป็นค้ามนุษย์ ไอยูยู (การทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing-IUU) ทำตามหน้าที่ ทำให้มันดีขึ้น
TIP Report มีข่าวดีแล้ว รอ IUU และปัญหามาตรฐานการบินพลเรือน ไทยจะหลุดพ้นบัญชีดำมั้ย ลุ้นกันต่อไป