ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -.... จุดเริ่มต้นของหายนะเริ่มแล้ว....
สถาปนิกชื่อดัง “ยศพล บุญสม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา จำกัด โพสต์ภาพและข้อความผ่านแฟนเพจ Yossapon Boonsom พร้อมกับลงรูปต้นไม้รอบวังสวนจิตรลดา ที่ทยอยล้มลงอย่างน่าเสียดาย
เป็นรูปจาก เพจ Bigtree ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และนำภาพมาแสดงให้เห็นเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ให้เห็นหายนะที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าการโค่นล้มของต้นไม้ใหญ่รอบวังจะยังไม่สิ้นสุดจนกว่ากทม.จะยอมรับความผิดพลาดและยอมลงมือแก้ไข ไม่ใช่ทำเป็นหูทวนลมอยู่อย่างนี้
สถาปนิกดังส่งเสียงเตือนตั้งแต่แรกแล้ว ทว่า กทม.ยังมุทะลุใช้อวัยวะส่วนอื่นที่ไม่ใช่สมองคิดตัดถนนปั่นจักรยานรอบวังสวนจิตร โดยการตัดรากต้นไม้ใหญ่ เทปูนทับ จนเกิดปัญหาตามมา และวันนี้เสียงเตือนและคำทำนายนั้นก็เป็นจริง
“เราจะค่อยๆ เห็นต้นไม้รอบวังสวนจิตรลดาที่บางต้นมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ทยอยล้มลงจากการตัดรากแขนงที่เป็นผลมาจากการทำทางวิ่ง ที่ขาดหลักวิชา
“คำแนะนำที่เราเคยบอกไปคือ ทุบออกทั้งหมดแต่เมื่อฝ่ายราชการบอกว่าทำไม่ได้ เราก็ได้ทำเพียงให้คำแนะนำ แบบเยียวยาเป็นจุดๆ ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขต้นตอของปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งเราได้พยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่เราต้องช่วยกันกดดันให้ กทม ต่อไปเพื่อให้ทุบทางออกทั้งหมด!เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าการทำทางวิ่งทางจักรยานครั้งนี้มันกำลังทำลายต้นไม้และภูมิทัศน์รอบวังสวนจิตรลดาอย่างที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของแฟนเพจ Bigtreeได้เรียกร้องให้ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อหายนะที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของกทม.ที่คุณชายหมู นั่งบริหารอยู่ในเวลานี้
“หั่นราก เทปูน จนต้นไม้ล้มซะทั่วกทม. ถึงเวลาก็โทษต้นไม้ แต่พอจับได้ก็อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์บ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง ลืมบ้าง วางแผนผิดบ้าง ล่าสุดต้นไม้รอบวังสวนจิตรล้มวันละต้น 2-3 วันต้น ซักพักก็จะโค่นทับคนทับรถที่สัญจรไปมาแน่ๆ ถ้ารู้ว่าทำไม่เป็น ทำไมไม่เอาเศษเงินจากงบแต่งห้อง 16 ล้านไปพัฒนาบุคลากรในสังกัดกทม.ว่ะ?”
และ “เป็นเรื่องจนได้ ต้นไม้อยู่มาตั้งนานไม่เป็นไร เจอทางวิ่งรอบวังสวนจิตรฯ ที่ทำมาผิดตั้งแต่วิธีคิด ทำถนนทั้งทับราก ทั้งตัดรากต้นไม้ เตือนแล้วค้านแล้ว วันนี้ต้นไม้เริ่มโค่นแล้ว กรณีนี้คล้ายๆ ต้นไม้ทั่วกทม.ที่เริ่มโค่นเพราะการดูแลที่ผิดพลาดจากกทม. แต่จำเลยเป็นต้นไม้เสมอเลยหว่ะ ใครรับผิดชอบดีครับท่านผู้ว่าสุขุมพันธุ์”
แต่อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เคยเข้าหูคุณชายสุขุมพันธุ์ พอๆ กับเสียงก่นว่าจากชาวกทม.ที่ไม่พอใจคุณชายสุขุมพันธุ์ ทั้งเรื่อง “ทะเลกรุงเทพฯ” จากฝนฟ้าที่ตกลงมาเพียงไม่กี่ครั้ง ส่อแสดงให้เห็นว่ากทม.ไม่ได้ขุดลอกคูคลองระบายน้ำเตรียมรับหน้าฝน และหลักฐานโทนโท่ที่ชัดเจนก็คือ ขยะมหาศาลที่อุดตันอุโมงค์ยักษ์ พระราม 9 ที่ทำให้ระบายน้ำไม่ได้ กลายเป็นท่วมขังชั่วพริบตานั่นแหละ
กลับมาเรื่องต้นไม้รอบวังหลวง ก่อนหน้านี้ นายยศพล บุญสม สถาปนิกดังวิพากษ์ทางจักรยานรอบวังสวนจิตรฯ “หายนะทางนโยบายของ กทม.” ซึ่งก่อสร้างทางจักรยานบริเวณรอบวังสวนจิตรลดา โดยมีการขุดดินลงไปและตัดรากต้นไม้บางส่วนออกเพื่อวางอิฐตัวหนอนว่าแม้ผิวเผินจะมองสวยดี ทว่าสิ่งก่อสร้างที่ว่านี้กลับแสดงให้เห็นถึงหายนะทางการดำเนินงานของกทม.ผู้ก่อสร้างอย่างชัดเจน
“มองเผินๆก็ดูสวยดีนะครับ แต่นี่คือหายนะทางการดำเนินนโยบายของ กทม.ภายใต้คำกล่าวอ้างของการปรับปรุงภูมิทัศน์และการทำทางจักรยานซึ่งตอนนี้นโยบายนี้ถูกใช้เต็มไปหมดโดยไม่แยกแยะดูความเหมาะสมแม้กระทั่งที่แม่น้ำเจ้าพระยา และล่าสุดที่ อบวังสวนจิตลดา”
“ตอนผมเรียนภูมิสถาปัตยกรรม บทเรียนแรกที่ถูกสอนคือ อย่าสร้างสิ่งปลูกสร้างใกล้ต้นไม้ใหญ่ เพราะ 1.มันจะทำให้ต้นไม้โค่นล้มจากการถูกตัดรากแขนงที่ยึดค้ำต้นไม้ไว้ ก่อให้เกิดอัตนรายกับคนสัญจร 2.คอนกรีตจะปิดทับดินที่ให้อากาศซึมลงไปเพื่อให้รากได้หายใจ 3.ลดพื้นที่ซึมน้ำที่จะให้ความชุ่มชื้น กับ ต้นไม้และระบบนิเวศน์โดยรอบ เมื่อพิจารณาจากบริบทโดยรอบแล้วพบว่าทางจักรยานที่ทำขึ้นนี้มันก็ไม่รู้จะเชื่อมไปไหน และถ้าจะทำจริงๆ ก็ยังสามารถใช้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามด้านติดทางรถไฟหรือราชตฤณมัยสมาคมทำก็ได้ แต่ไม่ทำ!
“มันสะท้อนการดำเนินนโยบายสาธารณะแบบไทยๆ ที่ วันดีคืนดีผู้มีอำนาจอยากจะมีทางจักรยานขึ้นมาก็สั่งให้หน่วยงานไปทำโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ดูภาพรวม ไม่มีแผน ไม่ดูว่าในพื้นที่นั้นอะไรสำคัญควรไม่ควรอย่างไร คิดสั้นๆ แค่ว่าฉันอยากได้และมันต้องได้! ถ้าเกิดเหตุผิดพลาดต้นไม้ล้มทับคนหรือต้นไม้ตายเกลี้ยงขึ้นมา ก็จะหาคนรับผิดชอบไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว (ถ้าเป็นที่สิงคโปร์หน่วยงานรัฐนี้โดนประชาชนฟ้องแน่ๆ) สุดท้ายก็จะมีงบประมาณอีกก้อนนึงมาปลูกต้นไม้ หรือปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่กันอีกรอบ และรอบหน้าอาจได้ ต้นปาล์มสวยๆ ราคาแพงๆ มาเปลี่ยนให้โดยผู้รับเหมาใจดีก็เป็นได้
“ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำให้ความร่วมมือมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ทั้งนักพฤกษศาสตร์ ภูมิสถาปนิก หมอต้นไม้ ....เอาเขามาใช้สิครับ แล้วบ้านเมืองเราจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ พอได้แล้วกับการใช้อำนาจที่ขาดความเข้าใจและวิสัยทัศน์ เพราะมันทำให้บ้านเมืองเสียหายสังคมเสียโอกาสและเรื่องบางเรื่องมันเอากลับคืนมาไม่ได้อีกเลย อย่างความร่มรื่นรอบวังสวนจิตลดาที่มาพร้อมกับเรื่องราวที่ผูกพันกับสังคมไทยมากมาย”
หลังกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเผยแพร่ภาพต้นไม้รอบวังสวนจิตรลดาล้ม ทางกทม.นางสาววีนา วงศ์สินธุ์เชาว์ ผู้อำนวยการสำนักสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็อ้อมแอ้มว่า ต้นไม้ที่ล้มเป็นต้นมะขามกับต้นมะฮอกกานี เหตุที่ล้มเพราะฝนตกและลมแรงมาก เป็นลมหวนทำให้ต้นไม้ล้มลงมา ได้แก้ไขโดยนำต้นไม้ตั้งขึ้นพร้อมกับทำที่ค้ำยันไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปฏิเสธว่า บางต้นที่ล้มนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการ ตกแต่งรากรวมทั้งการก่อสร้างทาง เพราะมีลักษณะรากไม่ดีอยู่แล้ว
พูดง่ายๆ ตามสไตล์ปัดสวะของกทม.ก็คือ เมื่อพายุฝนฟ้ามาโอกาสที่ต้นไม้ใหญ่จะโค่นล้มนั้นเกิดขึ้นได้อยู่แล้วเพราะรากไม่ดีเอง พอๆ กับที่ว่า น้ำ ท่วมกทม.มีโอกาสสูงอยู่แล้วเพราะเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมขังได้ง่าย และประชาชนชาวกทม.เองนั่นแหละที่ทิ้งขยะลงในคูคลองทำให้เกิดการอุดตัน จนเกิดภาวะ “น้ำ รอ ระบาย” กลายเป็นทะเลกรุงเทพฯ อย่างที่เห็น จะมาโทษ กทม. ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ “คุณชายหมู” อยู่แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ซึ่งยังดีที่ไม่ถึงกับโทษว่าใครให้มาตั้งเมืองหลวงในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาที่มีน้ำท่วมถึง
ว่าแล้วก็ขอนั่งอัพเดทสถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม ต้นไม้โค่น ในห้องทำงาน หรูหราราคาตกแต่งตั้ง 16 ล้าน ไปพลางก่อนนะพี่น้องชาวกทม.ทั้งหลาย เพราะเดี๋ยวก็หมดเวลาต้องลุกจากเก้าอี้ในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว