เตือนแล้วไม่ฟัง! เมื่อต้นไม้บริเวณรอบวังสวนจิตรลดาฯ เกิดโค่นล้มหลังจากกรุงเทพมหานคร (กทม.)ปรับภูมิทัศน์ใหม่ก่อสร้างทางวิ่ง ทางจักรยาน เทคอนกรีตเทปูนทับดินโค้งไปมา ท่วมกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม กระทั่งเกิดเรื่องงามไส้จนได้ เมื่อฝนตกหนักถล่มกรุงติด 2 วัน จนน้ำขังรอการระบาย หายนะจึงมาเยือน!
รากพังรอการตาย!
"มันโค่น เพราะรากไม่สามารถเติบโต แล้วจะเอาอะไรไปยึดลำต้น ก็เหมือนคนเรายืนขาเดียวในวงกลมแคบๆ คงไม่มีใครยืนได้นานๆโดยไม่ล้ม ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งล้มไว” เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า หากต้นไม้มีรากก็เหมือนกับการถูกตัดเท้านั่นเอง
แชร์กันอย่างต่อเนื่องกับภาพต้นไม้ใหญ่โค่นล้มรอบพระตำหนักสวนจิตรลดารโหฐานเมื่อแฟนเพจ BIG Trees โพสต์ภาพต้นไม้บริเวณรอบสวนจิตรลดาฯโค่นล้มลง หลังจากฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน จนรากเอาไม่อยู่
"หั่นราก เทปูน จนต้นไม้ล้มซะทั่ว กทม.ถึงเวลาก็โทษต้นไม้ แต่พอจับได้ก็อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ตั้งใจบ้าง ลืมบ้าง ล่าสุดต้นไม้รอบวังสวนจิตรฯ ล้มวันละ 2-3 ต้น สักพักก็จะโค่นล้มทับรถที่สัญจรไปมาแน่ๆ ถ้ารู้ว่าทำไม่เป็น ทำไมไม่เอาเศษเงินจากงบแต่งห้อง 16 ล้านไปพัฒนาบุคลากรในสังกัด กทม."
เช่นเดียวกับ ยศพล บุญสม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา จำกัด สถาปนิกชื่อดังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Yossaporn Boonsom ต่อเหตุการณ์ต้นไม้ล้ม ดังที่เขาเคยเตือนมาแล้ว แนะ กทม.ทุบออกทั้งหมด
“จุดเริ่มต้นหายนะเริ่มแล้ว เราจะค่อยๆ เห็นต้นไม้รอบวังสวนจิตรลดาฯ ที่บางต้นมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ทยอยล้มลงจากการตัดรากแขนงที่เป็นผลมาจากการทำทางวิ่ง ที่ขาดหลักวิชา
คำแนะนำที่เราบอกคือ "ทุบออกทั้งหมด" แต่เมื่อฝ่ายราชการบอกว่าทำไม่ได้ เราก็ทำได้เพียงให้คำแนะนำ "แบบเยียวยาเป็นจุดๆ" ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขต้นตอของปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่เราต้องช่วยกันกดดัน กทม.ต่อไปเพื่อให้ทุบออกทั้งหมด เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าการทำทางวิ่งจักรยานครั้งนี้มันกำลังทำลายต้นไม้ และภูมิทัศน์รอบวังสวนจิตรฯ อย่างที่เราไม่สามารถเอากลับมาคืนได้"
ละเลงงบ!ปรับภูมิทัศน์ผิดรูปแบบภูมิสถาปัตย์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ยศพล ได้เคยให้ความเห็นและเตือนการปรับภูมิทัศน์และการทำจักรยานของ กทม. ว่าไม่เหมาะสมกับพื้นที่ เพราะผิดรูปแบบภูมิสถาปัตยกรรม ที่ไม่ให้สร้างสิ่งปลูกสร้างใกล้ต้นไม้ใหญ่
"มองเผินๆ ก็ดูสวยดีนะครับ แต่นี่คือ "หายนะ" ทางการดำเนินนโยบายของ กทม. ภายใต้คำกล่าวอ้างของการปรับปรุง "ภูมิทัศน์" และการทำ "ทางจักรยาน" ซึ่งตอนนี้นโยบายนี้ถูกใช้เต็มไปหมดโดยไม่แยกแยะดูความเหมาะสมแม้กระทั่งที่ "แม่น้ำเจ้าพระยา" และล่าสุด "รอบวังสวนจิตรลดา"
นอกจากนี้ ยังได้ให้ความคิดเห็นอีกว่า สมัยที่เขาเรียนภูมิสถาปัตยกรม บทเรียนแรกที่ถูกสอนคือ "อย่าสร้างสิ่งปลูกสร้างใกล้ต้นไม้ใหญ่" พร้อม 3 เหตุผล
1.มันจะทำให้ต้นไม้โค่นล้มจากการถูกตัดรากแขนงที่ยึดค้ำต้นไม้ ก่อให้เกิดอันตรายกับคนสัญจร
2.คอนกรีตจะปิดทับดินที่ให้อากาศซึมลงไปเพื่อให้รากได้หายใจ
3.ลดพื้นที่ซึมน้ำที่จะให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้และระบบนิเวศโดยรอบ
ทว่า เขายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทางจักรยานที่ทำขึ้นนี้ ไม่รู้จะเชื่อมไปไหน พร้อมแนะนำหากจะทำควรใช้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามด้านติดทางรถไฟ หรือราชตฤณมัยสมาคมทำก็ได้ แต่ไม่ทำ ที่สำคัญทางที่ทำใหม่นี้ติดชิดถนนมากอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
อย่างไรก็ดี หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ทาง กทม.ไม่มีบุคลากรเป็นภูมิสถาปนิกทำงานเลยหรือ? จึงได้มีความคิดปรับภูมิทัศน์ที่ผิดหลักภูมิสถาปัตยกรรมขนาดนี้
“กทม.ไม่รู้จักสาขาวิชาชีพ "รุกขกร" สินะคะ เจียดงบมาว่าจ้างตำแหน่งนี้ไว้ประจำ กทม. บ้างก็ดีค่ะ ถ้าปัจจุบันมีอยู่แล้ว แนะนำว่าให้ส่งไปศึกษาเพิ่มเติมความรู้ค่ะ”
"บ่งบอกเลยว่า หน่วยงานบ้านเรามีความรู้เรื่องต้นไม้น้อยถึงไม่มี ดีแต่เบิกงบสร้าง แต่ไม่รู้จักศึกษาก่อนสร้าง หรือเบิกงบมาก็ทำๆไปเถอะ ผลเลยออกมาเป็นแบบที่เห็นแหละ”
ต้นไม้งามตายหมด! ออกแบบไร้สติ - สามัญสำนึก!
เช่นเดียวกับ ดวงฤทธิ์ บุญนาค สถาปนิกชื่อดัง ที่เคยให้ทัศนะเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการปรับทางเท้ารอบพระตำหนักสวนจิตรฯ ของ กทม.ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Duangrit Bunnag ว่าผลกระทบของการปรับภูมิทัศน์ครั้งนี้ทำให้ต้นไม้งามตายหมดแน่นอน
"คนทำที่มันช่างไร้สติโดยสิ้นเชิง เป็นการออกแบบที่ไร้สามัญสำนึก จริงๆ แล้วยิ่งมาทำรอบพระตำหนักฯ ด้วย ต้นไม้งามๆตายหมดแน่ สมควรทบทวนให้รื้อแล้วจ้างภูมิสถาปนิกดีๆมาออกแบบให้เหมาะสมนะครับ คนอนุมัติแบบนี้ก็ควรตายตกไปพร้อมกัน”
นอกจากนี้ ช่อผกา วิริยานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายต้นไม้ในเมือง ยังเปิดเผยว่า เครือข่ายต้นไม้ในเมือง เคยร่วมกับสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทยเข้าพูดคุยกับรองผู้ว่าฯ กทม.แล้ว
“สุดท้ายผลออกมาอย่างนี้ เครือข่ายอยากให้ประชาชนรู้ว่าเราทำหน้าที่แล้ว แต่ผู้บริหารไม่รักษาสัญญา ต้นไม้ทุกต้นที่
อยู่เมืองต้องได้รับการดูแล เราปฏิบัติต่อเขาอย่างไร เราจะได้รับผลอย่างนั้น
การที่ต้นไม้โค่นล้มลงจนเดือดร้อนคนในเมือง ไม่ใช่ความผิดของคนดูแล ทั้งการปฏิบัติต่อราก ลำต้น กิ่ง และใบ”
กทม.ยันไม่เกี่ยวก่อสร้าง โบ้ยฝน-ลมแรง
หลังจากโดนวิจารณ์เละ ล่าสุด กทม.ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อจากกรณีดังกล่าวนี้แล้ว โดย น.ส.วีนา วงศ์สินธุ์เชาว์ ผู้อำนวยการสำนักสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ต้นไม้ที่ปรากฏในภาพที่เห็นคือ ต้นมะขาม กับต้นมะฮอกกานี ส่วนสาเหตุที่ต้นไม้ล้มดังที่เห็นในภาพจากการแชร์ว่อนนี้เกิดจากการที่ฝนตก และลมที่พัดแรง เมื่อปะทะเข้ากับต้นไม้บางต้นที่ลักษณะรากไม่ดีอยู่แล้ว จึงทำให้โค่นล้มนั่นเอง
ผอ.สำนักสวนสาธารณะฯ มั่นใจว่า การโค่นล้มของต้นไม้ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการตกแต่งรากและการก่อสร้างทางไปทั้งหมด ขณะนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแก้ไขสถานการณ์แล้ว โดยนำต้นไม้ตั้งขึ้น และทำคั้ำยันไว้ให้เสริมความแข็งแรง การเกิดพายุฝนในครั้งนี้นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ที่สวนจิตรฯ แต่กระทบต้นไม้ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ หักโค่นลงมาเช่นกัน เช่น สวนสาธารณะ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บางขุนนนท์ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำที่ค้ำยันเรียบร้อยแล้ว
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
