รัฐซ้อนรัฐที่วัดจานบิน

นายไชยบูลย์ ผมขอเรียกเช่นนี้ เพราะคนๆ พ้นภิกขุภาวะตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ยิ่งมีปัญหาเรื่องการฉ้อโกงทรัพย์และการฟอกเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ร่วมกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งเข้าไปนอนพักผ่อนในคุกเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

ที่น่าห่วงมากคือ เมื่อออกหมายเรียกนายไชยบูลย์ก็ไม่มามอบตัวมารายงานตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งๆ ที่ขึ้นสวรรค์ไปคุยกับ Steve Jobs ได้เป็นการอวดอุตริมนุสธรรม แต่แค่มา DSI ง่ายๆ ใกล้ๆ จากวัดจานบิน กลับมาไม่ได้ โยกโย้จะไปมอบตัวที่สภอ แถวๆ ปทุมธานี ลงท้ายก็ไม่มา เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ DSI ก็จำเป็นต้องออกหมายจับ พอเป็นเช่นนี้ นายไชยบูลย์และสานุศิษย์ก็แสดงอำนาจบารมีในการอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ยอมรับการจับกุม ออกมาหลายประการ เช่น

หนึ่ง ติดลวดหนามล้อมรั้ววัดพระธรรมกายให้การจับกุมทำได้ยาก

สอง ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบวัด เพื่อสอดส่องการจับกุมต่างๆ

สาม มีการนำรถแบ็คโฮมากั้นประตูวัด มีการนำท่อซีเมนต์ขนาดยักษ์ มากรอก Big Bag ใส่ทราย เพื่อป้องกันรถถังหรือรถอื่นๆ เข้ามาในวัด

สี่ มีการปล่อยบอลลูนและโดรนเพื่อสอดส่องและรบกวนสัญญาณทางอากาศ

ห้า มีการซ่องสุมกำลังผู้คนเข้าไปในวัดจานบินมากมาย ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นพวกใด แต่ใช้การสร้างโล่มนุษย์เพื่อมาปกป้องนายไชยบูลย์ บางกระแสก็กล่าวว่าเป็นกลุ่ม นปช. และชายชุดดำ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทางฝ่ายความมั่นคงน่าจะทราบดีอยู่

ทั้งห้าพฤติกรรมนี้อาจเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมซ่องโจร แสดงสิทธิอำนาจเหนือรัฐบนพื้นที่อาณาจักรของตนที่แม้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้มีอำนาจตามกฎหมายก็ไม่สามารถเข้าไปควบคุมตรวจสอบดูแลได้ ถือว่าขณะนี้รัฐซ้อนรัฐได้เกิดขึ้นแล้ว

หก มีการต่อสู้บนโลกออนไลน์โดยไลน์ เฟซบุ๊ก มีกลุ่มสานุศิษย์คอยทำสงครามไซเบอร์ ป่าวประกาศออกมายังข้างนอก

เจ็ด มีการปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ โดยที่ไม่ได้ไปตรวจจริงที่โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จังหวัดราชบุรี ซึ่งก็น่าแปลก DSI ที่ใกล้ๆ ก็ไม่ไป แต่ไปตรวจที่ราชบุรีได้ นี่ก็ผิดอาญาปลอมแปลงเอกสารทางราชการอีกหนึ่งกระทง

แปด มีการต่อรองขัดขืนการจับกุม โดยอ้างว่าป่วย แต่ว่ามีแพทย์ผู้ชำนาญการจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าพบว่าการป่วยดังกล่าวที่มีสายเครื่องมือแพทย์ระโยงระยางนั้นจับผิดไม่ได้สนิท นายไชยบูลย์นอนกระดิกนิ้วบนเตียง และเมื่อทาง DSI เสนอให้แพทยสภาเข้าไปตรวจอาการ ก็ไม่ยอมอีกเช่นกัน จนแล้วจนรอดการจับกุมตัวก็ทำไม่ได้ และมีการต่อรองว่าต้องให้ประกันตัวทันทีทั้งๆ ที่เงื่อนเวลาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

การที่นายไชยบูลย์ ผู้ปราศจากความละอาย สร้างอำนาจรัฐซ้อนรัฐนั้น ก่อให้เกิดปัญหากับคสช. และเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นอย่างมาก

คสช. ลำบากใจมากยิ่งกว่าการจัดการกับ นปช. หรือกลุ่มผู้ก่อการร้ายด้วยซ้ำ เพราะจะปล่อยให้รัฐซ้อนรัฐอยู่เหนือกฎหมายต่อไปเช่นนี้ ก็ทำไม่ได้ คสช. เองก็จะเสื่อม เป็นเผด็จการทหาร ถืออำนาจอยู่เต็มมือ ถ้าวัดจานบินอยู่ ความน่าเชื่อถือและเครดิตของคสช. ก็จะหมดไป แต่ในทางกลับกันหาก คสช. ใช้ความเด็ดขาดโดยใช้กองกำลังทหารหรือตำรวจก็ตามเข้าไปจับกุมแล้วเกิดการนองเลือด เช่น เกิดจีวรเปื้อนเลือด โล่มนุษย์ เหล่านั้นพลีชีพเพื่อปกป้องนายไชยบูลย์ เรื่องนี้ก็จะเป็นข่าวไปทั่วโลก เกิดปัญหาพวก NGO และองค์การสิทธิมนุษยชนเข้ามาเรียกร้องอีกมาก และต่างประเทศเองก็คงจะเข้ามายุ่งด้วยเช่นกัน จึงน่าเห็นใจ คสช. ที่สุด ที่ต้องมารับเผือกร้อนปัญหาที่มีรากลึกมายาวนานและใหญ่โตเกินกว่าจะจัดการได้โดยง่าย ทั้งยังอิงแอบกับความศรัทธางมงายของผู้คน ทำให้เป็นประเด็นละเอียดอ่อนและจัดการได้ยาก ในขณะเดียวกันองค์กรปกครองตนเองของสงฆ์ เช่น มหาเถรสมาคม ต่างก็แก่ชราภาพ และน่าจะมีส่วนเคยได้รับการเกื้อกูลอุดหนุน อุปถัมภ์ทางการเงินจากนายไชยบูลย์ ทำให้เหลวไหล ไม่ทำหน้าที่อะไรทั้งสิ้นจนน่าจะยุบไปเสีย

เรื่องนี้ คสช. โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายาในฐานะผู้รับผิดชอบคดีนี้คงหนักใจมากเป็นที่สุด น่าเห็นใจมาก

ผมมีความเห็นว่ากลยุทธ์ในตอนนี้คือการยื้อ ไชยบูลย์เลือกที่จะตั้งมั่นอยู่ในที่ตั้ง ประดุจดังเมื่อพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาถึงสองครั้ง อยุธยาก็อาศัยชัยภูมิที่มีน้ำล้อมทุกด้านเป็นปราการธรรมชาติ สะสมเสบียงอาหารและอาวุธไว้พร้อมสรรพ รอเวลาฤดูน้ำหลากมาท่วมให้ทัพพม่าต้องยกถอยออกไปเอง

ดังนั้นการล้อมวัดจานบิน จึงไม่ควรล้อมเฉยๆ แต่ควรจะบีบบังคับแยกปลาออกจากน้ำ และทำให้สานุศิษย์พ้นความงมงาย และกลับใจออกมา เพื่อให้การจับกุมเป็นไปได้โดยสะดวก

หนึ่ง ควรตัดการสื่อสารทุกช่องทางทั้งหมด ตัดสายโทรศัพท์ ตัดสายอินเทอร์เน็ต และนำรถตัดสัญญาณโทรศัพท์และดาวเทียมมาล้อมรอบวัดเอาไว้ เพื่อไม่ให้สามารถสื่อสารออกมาข้างนอกได้ ไม่ให้สามารถทำสงครามไซเบอร์แย่งชิงมวลชนได้

สอง ควรใช้การประชาสัมพันธ์ เช่น ตั้งรถกระจายเสียง เอาเครื่องบินขึ้นโปรยใบปลิว ชักชวนสานุศิษย์ให้ออกมาจากวัดจานบิน เพื่อแยกปลาออกจากน้ำ ให้คนเหล่านี้ไม่มีความผิดอะไรเมื่อออกมาจากวัด

สาม การล้อมวัดนั้นต้องแน่นหนา ให้ออกมาจากวัดได้อย่างเดียว แต่ห้ามกลับเข้าไป ห้ามส่งของใดๆ เข้าไปในวัด ห้ามคนเข้าไปภายในวัด หากจะนำอะไรออกมาจากวัดต้องตรวจอย่างละเอียดเช่นกัน

สี่ การตัดน้ำและไฟฟ้า หรือสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อบีบให้คนในวัดอยู่อย่างยากลำบาก จนต้องออกมา

สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือการที่ไม่ทราบว่าใครอยู่ในวัดบ้าง อาจจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์แทรกแซง

ห้า การดำเนินการบีบคั้นและปิดล้อมดังกล่าว ต้องดำเนินไปเป็นขั้นๆ และใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นไปตามลำดับ พยายามแยกปลาออกจากน้ำให้ได้มากที่สุด ฝ่ายความมั่นคงอาจจะต้องส่งคนปลอมตัวเข้าไปในวัดให้มากขึ้นเรื่อยๆ

หก คสช. เองต้องออกแถลงข่าวโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจชี้แจงมาตรการต่างๆ ที่จะจับกุมนายไชยบูลย์ให้ประชาชนทราบตลอดเวลา ให้อยู่ในการรับรู้ของประชาชนและสื่อมวลชนเพื่อป้องกันข่าวลือและการสื่อสารที่บิดเบือนที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เจ็ด เมื่อถึงคราวจำเป็นอาจจะต้องให้หน่วยพิเศษเข้าดำเนินการจัดการจับกุมอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ผมเชื่อว่า คสช ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามจับกุมนายไชยบูลย์ให้ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย และหากทำโดยไม่ระวังรัฐบาลเองก็อาจจะอยู่ไม่ได้ ในขณะเดียวกันหากปล่อยให้รัฐซ้อนรัฐต่อไป เผด็จการทหารอย่าง คสช. ก็จะหมดความชอบธรรมเช่นกัน จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจและต้องให้กำลังใจ

ทั้งนี้หากนายไชยบูลย์จะหนีคดีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศอย่างสุขสบายด้วยเงินที่มีมหาศาล ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร และแม้ว่า คสช. หรือทหารจะพยายามเท่าไหร่ ก็อาจจะหลุดรอดสายตาไปได้อยู่ดี แม้ในขณะนี้หลายคนก็ยังสงสัยกันอยู่ว่า นายไชยบูลย์ ยังอยู่ในวัดหรือนายไชยบูลย์หลบหนีออกไปนอกราชอาณาจักรแล้วหรือยัง มองในมุมกลับกันหากนายไชยบูลย์หนีออกไปได้สำเร็จ สาวกวัดธรรมกายในประเทศไทยก็จะค่อยๆ เหี่ยวและสลายลงไปในที่สุด