xs
xsm
sm
md
lg

“วิลาส”แฉโกงในกปภ. ท้าผู้ว่าฯเคลียร์อีสต์วอเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

"วิลาศ" แฉสารพัดทุจริตในการประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. ซื้อคลอรีนเหลวแพงเกินจริง ส่อเอื้อประโยชน์เอกชน วางท่อประปาประจวบฯ ไร้มาตรฐาน ทำเสียหาย 162.5 ล้าน สร้างอาคารเขต 1 ซื้อที่เวนคืนสุราษฎร์ ปล่อยอีสวอเตอร์สูบเลือด บี้ "เสรี ศุภราทิตย์" ที่เพิ่งนั่งผู้ว่าฯ สอบด่วน ขีดเส้นตาย 1 เดือน ไม่คืบส่ง ป.ป.ช.

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. และอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้ นายเสรี ศุภราทิตย์ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของการประปาส่วนภูมิภาค รวม 5 เรื่อง อาทิ การจัดซื้อคลอรีนเหลว ซึ่งมีการประกวดราคากันไปแล้วเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นซอง 2 บริษัท แต่มีบริษัทไทยอาซาฮี ซึ่งเป็นเจ้าพ่อคลอรีนประจำประเทศไทย ทำการยื่นซอง วันที่ 25 ม.ค. โดยการประปาส่วนภูมิภาคได้ต่อรองราคา แสดงให้เห็นว่า มีความผิดปกติ เพราะการเคาะราคากำหนดไว้วันที่ 26 ม.ค. เป็นวันที่กำหนดให้เคาะราคา อย่างไรก็ตาม ในทีโออาร์ระบุว่า หลังจากเคาะราคาให้มีการต่อรองราคา จึงมีการนำประเด็นนี้มาอ้าง แต่ก็ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากยังไม่มีการเคาะราคา เพราะยังไม่ถึงกำหนด แต่กลับมีการต่อรองราคาแล้ว ถือว่าข้ามขั้นตอน

นอกจากนี้ การเสนอราคาก็มีพิรุธในเรื่องการต่อรองราคา ด้วยโดยจะเป็นราคาค่าขนส่งกับค่าแก๊สบวกคลอรีนเหลว ซึ่งราคาค่าขนส่งสุงเกินความจริง เช่น บริเวณภาคตะวันออก ในเขตที่ 1 ค่าขนส่งอยู่ที่ 1,260 บาทต่อท่อ ค่าแก๊ส 1,250 บาท ที่น่าประหลาดใจคือ มีการมั่วตัวเลขในการบวก 2 ส่วนนี้ อีก 50 บาท คือจากราคา 2,510 บาท เป็น 2,560 บาท จึงขอให้ตรวจสอบว่า เหตุใดค่าขนส่งจึงแพงขนาดนี้

2 .การวางท่อประปา 44.5 กม. ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 715 ล้าน โดยในช่วงปีแรก หลังมีการวางท่อประปา มีท่อแตก 132 ครั้ง ทำให้การประปาเสียหายจากน้ำรั่วไหลกว่า 162.5 ล้านบาท มีการตั้งกก.สอบ แต่คนที่รับผิดชอบกลับได้เลื่อนเป็น รองผู้ว่าฯ มีแค่นายช่างเล็กๆ ที่ถูกไล่ออก 2 คน ส่วนตัวใหญ่มีแค่คำว่ากล่าวตักเตือน ไม่มีการดำเนินคดี ขณะที่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งที่มีการนำท่อที่ไม่ได้มาตรฐานไปก่อสร้าง

3. การก่อสร้างอาคารที่การประปาภูมิภาค เขต 1 โดยมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว วงเงิน 25 ล้านบาท ลงนามโดยผู้อำนวยการเขต 1 ซึ่งในสัญญาระบุว่า จะต้องมีการจ่ายเงินงวดแรก 15 เปอร์เซ็นต์ หลังเซ็นต์สัญญาโดยมีการนำหนังสือค้ำประกันจากบริษัทลิสซิ่ง ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ ทำให้ต้องบอกเลิกสัญญา และนำบริษัทรายใหม่เข้ามา อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเรียกค่าชดเชยจากบริษัทแรก ซึ่งปัจจุบันคนที่รับผิดชอบเป็นถึงรองผู้ว่าการประปาฯ แล้ว

4. การซื้อที่ดินที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในราคาสูงเกินจริง และยังเป็นการซื้อที่ดินในแนวเวนคืนด้วย จึงเกิดคำถามว่าไปจัดซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวได้อย่างไร อีกทั้งหลังจากซื้อแล้ว ยังหาแหล่งน้ำดิบไปทำน้ำประปาไม่ได้ โดยที่ดังกล่าวเป็นที่ติดจำนอง เมื่อจะถูกเวนคืนก็เลยไม่มีการไถ่ถอน จากนั้นการประปาส่วนภูมิภาคได้ไปซื้อที่ดินดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันทิ้งไว้เฉยๆ ไม่มีการใช้ประโยชน์ มีแต่การก่อสร้างอาคารมาตั้งแต่ปี 53 ที่สำคัญคือ กรณีนี้ทำผิดระเบียบ เพราะเป็นการซื้อที่ดินในแนวเวนคืน

5. กรณีบริษัทอีสวอเตอร์ เป็นบริษัทที่สูบเลือดจากการประปาส่วนภูมิภาค ได้กำไร และแบ่งโบนัสกัน แต่การประปาฯ อาการร่อแร่ หลังมีการตั้งบริษัทดังกล่าว เพราะต้องซื้อน้ำดิบมาทำประปาผ่านบริษัทีสวอเตอร์ ทำให้ต้องซื้อน้ำดิบในราคาแพงถึงคิวละ 10.50 บาท โดยอ้างว่าบริษัทอีสวอเตอร์ ลงทุนวางท่อ ทั้งที่เดิมเคยซื้อจากชลประทานได้ในราคาคิวละ 50 ส.ต. บริษัทดังกล่าวจึงเป็นเหมือนเสือนอนกิน และยังมีการตั้งบริษัทลูกมารับงานจากการประปาด้วย จึงขอเรียกร้องให้การประปาฯ ถอนหุ้นออกมา ที่สำคัญคือ กฤษฎีกาได้ตีความว่า การที่การประปาส่วนภูมิภาค ถือหุ้นในอีสวอเตอร์ เป็นการกระทำที่ขัดกับ พ.ร.บ.การประปาส่วนภูมิภาค มาตรา 5 โดยตีความไว้ตั้งแต่ปี 42 แต่กลับไม่มีการถอนหุ้นออกมา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่ นายเสรี ในฐานะผู้ว่าการประปาฯ คนใหม่ ที่ประกาศว่าจะเอาจริงเอาจังกับการทุจริต ควรจะดำเนินการอย่างจริงจัง โดยตนจะนำเรื่องความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้นกับการประปาส่วนภูมิภาครวม 5 เรื่อง ไปมอบให้นายเสรี เพราะแสดงเจตนาว่าจะปราบปรามการทุจริตมาตลอด จึงหวังว่าจะเร่งดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส โดยจะให้เวลา 1 เดือน หากไม่มีความคืบหน้า จะส่งเรื่องให้ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น