ผู้จัดการรายวัน360-"ศรีสุวรรณ"ประเดิมรายแรก ปรับทัศนคตินอกค่ายทหาร ถูกเชิญไปพบที่ร้านอาหารแทน เจ้าตัวเผยช่วยลดความตึงเครียดได้ ยันปัญหาโครงการบ้านมั่นคง ยังคงเดินหน้าช่วยชาวบ้านต่อ คสช. ระบุเป็นไอเดีย "บิ๊กตู่" สั่งเปลี่ยนสถานที่พูดคุย หวังป้องกันข้อครหาอะไรๆ ก็เข้าค่ายทหาร พร้อมปรับเป็นพูดคุยทำความเข้าใจแทนปรับทัศนคติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.50 น. วานนี้ (1 มิ.ย.) ที่สำนักงานเขตหลักสี่ ได้มีกลุ่มคนมารอให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ถูกเรียกปรับทัศนคติที่สำนักงานเขต แต่เมื่อถึงเวลากลับพบว่ามีการเปลี่ยนสถานที่ จากนั้นในเวลาประมาณ 12.50 น. นายศรีสุวรรณ ได้เดินทางมาสำนักงานเขต และชี้แจงว่าได้ไปกับตัวแทน คสช. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ได้รับหนังสือเชิญให้มางานรายงานตัวที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในวันที่ 1 มิ.ย. แต่หลังจาก คสช. ประกาศให้มีการปรับทัศนคติรูปแบบใหม่ โดยให้รายงานตัวที่สถานที่ราชการและสถานีตำรวจ ตนจึงได้รับแจ้งเปลี่ยนสถานที่เป็นสำนักงานเขตหลักสี่ แต่ว่าระหว่างเดินทางมานั้น ทางตัวแทน คสช. ได้ขอเปลี่ยนไปคุยที่ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงแทน เพราะทราบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งมารอพบให้กำลังใจ
โดยปัญหาที่ได้หารือกันนั้น เป็นเรื่องการแก้ปัญหาโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐ ที่ปัจจุบันไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากไม่สามารถโน้มน้าวให้ประชาชนผู้อาศัยริมคลองต่างๆ ย้ายมาอยู่บ้านมั่นคงได้ จนเกิดเป็นความขัดแย้ง และประชาชนถูกกล่าวหาว่า รุกล้ำพื้นที่คลอง ตนในฐานะที่ปรึกษาของชาวบ้าน มีความเห็นว่าภาครัฐ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์การชุมชน ไม่ควรบังคับประชาชนให้เข้าร่วม แต่ควรให้ข้อมูลแก่ประชาชนให้มากที่สุด เพื่อการตัดสินใจ หากทำได้เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งต่างๆ จะทุเลาลง
"จะต้องประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน โดยคาดว่าจะนัดประชุมอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ ภายนอกเขตทหาร แต่ก็ไม่ยืนยันว่าวิธีดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ เพราะต้องให้ความสำคัญต่อชาวบ้านเป็นหลัก จะดีที่สุด"นายศรีสุวรรณกล่าว
สำหรับการเรียกปรับทัศนคติรูปแบบใหม่ นายศรีสุวรรณ มองว่า เป็นวิธีที่ลดความตึงเครียดได้ ถือเป็นนโยบายที่ดีสามารถนำไปสู่ความสมานฉันท์กลมเกลียวได้ในอนาคต และยังทำให้ภาพลักษณ์ของ คสช. ดีขึ้นด้วย พร้อมระบุว่า ไม่ได้ต่อต้านบ้านเมือง เพียงแต่พยายามรักษาสิทธิ์ของชาวบ้าน จากอำนาจอิทธิพลของราชการที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน จึงต้องออกมาให้ความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้เปลี่ยนสถานที่ปรับทัศนคติจากค่ายทหารเป็นศาลากลางจังหวัดและสถานีตำรวจ เนื่องจากเกิดกรณีความขัดแย้ง 2 กรณี โดยที่ภูเก็ตมีบริษัทหนึ่งซื้อที่ดินมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีประชาชนอยู่ในที่ดินบริเวณนั้นมานาน ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทหารก็เข้าไปแก้ปัญหาโดยเชิญมาพูดคุยในค่ายทหาร และที่พิษณุโลก ที่มีการตรวจสอบการขุดลอกคลองขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) และมีประชาชนเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจในค่ายทหาร จึงทำให้กระแสสังคมที่เห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเชิญประชาชนมาปรับทัศนคติ และเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นห่วง และขอให้มีการปรับเปลี่ยนสถานที่ เพื่อป้องกันการเกิดการเข้าใจผิดอีก ทำให้ต่อไป หากจะมีการเชิญตัวมาปรับทัศนคติ ก็จะไม่ใช้ค่ายทหารอีกต่อไป และยังจะไม่ใช้คำว่าปรับทัศนคติอีกด้วย จะใช้คำว่า พูดคุยทำความเข้าใจแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.50 น. วานนี้ (1 มิ.ย.) ที่สำนักงานเขตหลักสี่ ได้มีกลุ่มคนมารอให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ถูกเรียกปรับทัศนคติที่สำนักงานเขต แต่เมื่อถึงเวลากลับพบว่ามีการเปลี่ยนสถานที่ จากนั้นในเวลาประมาณ 12.50 น. นายศรีสุวรรณ ได้เดินทางมาสำนักงานเขต และชี้แจงว่าได้ไปกับตัวแทน คสช. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ได้รับหนังสือเชิญให้มางานรายงานตัวที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในวันที่ 1 มิ.ย. แต่หลังจาก คสช. ประกาศให้มีการปรับทัศนคติรูปแบบใหม่ โดยให้รายงานตัวที่สถานที่ราชการและสถานีตำรวจ ตนจึงได้รับแจ้งเปลี่ยนสถานที่เป็นสำนักงานเขตหลักสี่ แต่ว่าระหว่างเดินทางมานั้น ทางตัวแทน คสช. ได้ขอเปลี่ยนไปคุยที่ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงแทน เพราะทราบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งมารอพบให้กำลังใจ
โดยปัญหาที่ได้หารือกันนั้น เป็นเรื่องการแก้ปัญหาโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐ ที่ปัจจุบันไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากไม่สามารถโน้มน้าวให้ประชาชนผู้อาศัยริมคลองต่างๆ ย้ายมาอยู่บ้านมั่นคงได้ จนเกิดเป็นความขัดแย้ง และประชาชนถูกกล่าวหาว่า รุกล้ำพื้นที่คลอง ตนในฐานะที่ปรึกษาของชาวบ้าน มีความเห็นว่าภาครัฐ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์การชุมชน ไม่ควรบังคับประชาชนให้เข้าร่วม แต่ควรให้ข้อมูลแก่ประชาชนให้มากที่สุด เพื่อการตัดสินใจ หากทำได้เชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งต่างๆ จะทุเลาลง
"จะต้องประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน โดยคาดว่าจะนัดประชุมอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ ภายนอกเขตทหาร แต่ก็ไม่ยืนยันว่าวิธีดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ เพราะต้องให้ความสำคัญต่อชาวบ้านเป็นหลัก จะดีที่สุด"นายศรีสุวรรณกล่าว
สำหรับการเรียกปรับทัศนคติรูปแบบใหม่ นายศรีสุวรรณ มองว่า เป็นวิธีที่ลดความตึงเครียดได้ ถือเป็นนโยบายที่ดีสามารถนำไปสู่ความสมานฉันท์กลมเกลียวได้ในอนาคต และยังทำให้ภาพลักษณ์ของ คสช. ดีขึ้นด้วย พร้อมระบุว่า ไม่ได้ต่อต้านบ้านเมือง เพียงแต่พยายามรักษาสิทธิ์ของชาวบ้าน จากอำนาจอิทธิพลของราชการที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน จึงต้องออกมาให้ความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้เปลี่ยนสถานที่ปรับทัศนคติจากค่ายทหารเป็นศาลากลางจังหวัดและสถานีตำรวจ เนื่องจากเกิดกรณีความขัดแย้ง 2 กรณี โดยที่ภูเก็ตมีบริษัทหนึ่งซื้อที่ดินมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีประชาชนอยู่ในที่ดินบริเวณนั้นมานาน ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทหารก็เข้าไปแก้ปัญหาโดยเชิญมาพูดคุยในค่ายทหาร และที่พิษณุโลก ที่มีการตรวจสอบการขุดลอกคลองขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) และมีประชาชนเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจในค่ายทหาร จึงทำให้กระแสสังคมที่เห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเชิญประชาชนมาปรับทัศนคติ และเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นห่วง และขอให้มีการปรับเปลี่ยนสถานที่ เพื่อป้องกันการเกิดการเข้าใจผิดอีก ทำให้ต่อไป หากจะมีการเชิญตัวมาปรับทัศนคติ ก็จะไม่ใช้ค่ายทหารอีกต่อไป และยังจะไม่ใช้คำว่าปรับทัศนคติอีกด้วย จะใช้คำว่า พูดคุยทำความเข้าใจแทน
