ผู้จัดการรายวัน 360 - “สุวพันธุ์” โว 2 ปี คสช.ผลงานเพียบ ปฏิรูปประเทศฉลุย “ไพบูลย์” พ้อ กม.ติดขัดเพียบ เหตุหน่วยงานรัฐมีทิฐิ "เพื่อไทย" ออกแถลงการณ์ซัด คสช.ล้มเหลวทุกด้าน จี้คืนประชาธิปไตยโดยเร็ว “วรชัย” รับ “นปช - กปปส.” คุยกันเรื่องปกติ ชี้ฝ่ายการเมืองไม่เอาร่าง รธน. จี้ “บิ๊กตู่” รับผิดชอบหากโดนคว่ำ ด้าน "วัฒนา" จวก รธน.เอื้อเผด็จการทำเศรษฐกิจพัง “โฆษก คสช.” ย้ำเลือกตั้งปี 60 ชัวร์
วานนี้ (26 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่ายว่า ได้หารือภาพรวมของการปฏิรูปประเทศนับตั้งแต่ คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จนครบ 2 ปี ถือว่ามีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งมิติของการบูรณาการบริหารราชการและมิติของการปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้วิป 3 ฝ่ายเห็นว่าการปฏิรูปไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่มีความคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แผนปฏิรูปต่างๆที่วิป 3 ฝ่ายได้ศึกษาและให้ข้อเสนอแนะไว้ถูกนำมาขับเคลื่อนและมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ กำลังอยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อมีผลบังคับใช้ การทุจริตจะทำไม่ได้โดยง่ายอีกต่อไป
** “ไพบูลย์” รับงาน กม.ติดขัด
ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 14 ในหัวข้อ "การปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า 2 ปีที่ดำรงตำแหน่ง แม้ไม่ใช่นักกฎหมาย ก็พยายามเรียนรู้งานอย่างเต็มที่ โดยตลอดเวลาที่เข้าทำหน้าที่พยายามแก้ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม อาทิ กฎหมายเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม กฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และเดินหน้าการปฏิรูป โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามผลักดันกฎหมายมากถึง 465 ฉบับ และมีผลบังคับใช้แล้ว 151 ฉบับ แต่เกิดปัญหาเมื่อในจำนวนนี้เกินครึ่งไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง เพราะกฎหมายลูก หรือประกาศกระทรวง ไม่สามารถออกมาบังคับใช้ได้ ในข้อเท็จจริงมีรัฐมนตรีบางคนยังไม่ทราบว่าเมื่อมีกฎหมายแล้วต้องปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง และรัฐมนตรีบางคนยังไม่ทราบว่ากฎหมายลูกของกระทรวงตนเองไม่ออก ทั้งยังพบว่ามีกฎหมายขยะ ล้าสมัย ซ้ำซ้อน กว่า 1,000 ฉบับ เช่น กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดมีอยู่ถึง 7 ฉบับกระจายอยู่ในกระทรวงต่างๆ แต่ 2 ปีที่ผ่านมา ได้แค่คิด แต่ยังทำไม่ได้ เพราะหน่วยงานไม่ยอมลดลาวาศอก มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้องจึงทำให้การขับเคลื่อนดังกล่าวยังไม่สำเร็จ
** “เพื่อไทย” ทวงประชาธิปไตย
ด้าน พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 2 ปี คสช.โดยระบุตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ คสช.เคยสัญญา กลับไม่ได้รับการปฏิบัติ สถานการณ์ด้านต่างๆตกต่ำลง ทั้งด้านประชาธิปไตยที่ล้มเหลว ร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ และการทำประชามติที่มัดมือประชาชน การละเมิดสิทธิมนุษยชนทวีความรุนแรง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศ สังคมขาดความปรองดอง มีความแตกแยกอย่างรุนแรง และการปฏิรูปที่เป็นเพียงข้ออ้าง สิ่งต่างๆ ที่ได้เคยสัญญาและใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นโยบายเศรษฐกิจขาดวิสัยทัศน์ผิดพลาดในทุกมิติ ประชาชนยากจน สภานการณ์ด้านต่างๆของประเทศกำลังเสื่อมถอย จนอาจเข้าขั้นวิกฤติได้ เหตุผลหลักของความล้มเหลวดังกล่าวคือ ความไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดศักยภาพในการแก้ไขปัญหาของประเทศ การขาดความจริงใจและการมุ่งแต่รักษาอำนาจของตน ความอคติและการความต้องการทำลายฝ่ายตรงข้าม การขาดวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจตระหนักถึงวิกฤติของประเทศครั้งนี้ โดยต้องเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน แทนการเป็นคู่ขัดแย้ง และต้องเร่งคืนประชาธิปไตยที่เป็นสากลให้แก่สังคมไทยโดยเร็ว
** “นปช. - กปปส.” คุยกันเรื่องปกติ
ทางด้าน นายวรชัย เหมะ แกนนำ นปช.กล่าวถึงกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ระบุว่า ได้พูดคุยกับตนว่า ตนได้พูดคุยกับนายถาวรตลอดเวลาตั้งแต่มีการชุมนุม กปปส. โดยล่าสุด นายถาวรได้โทรมาคุยเรื่องเศรษฐกิจว่า ยางแย่ ปาล์มแย่ นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียก็น้อย คนใต้จนมากในตอนนี้ นอกจากนี้ได้คุยกันเรื่องประชามติ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าที่รัฐบาลอ้างว่ามีความขัดแย้งนั้น ความจริงมวลชนระดับล่างมีการคุยกันอยู่และพร้อมร่วมมือกัน ความขัดแย้งหลักไม่ใช่มวลชนต่อมวลชน แต่เป็นมวลชนกับเผด็จการ อยากบอกว่าวันนี้คนไทยก็หันหน้ามาพูดคุยกันแล้ว ความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองก็คล้ายกัน พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเหมือนกัน
"เรื่องร่างรัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่อยากบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวจะเอาผมไปขังอีก ท่านเป็นชายชาติทหารต้องยอมรับ การที่มาบอกว่าประชาชนต้องรับผิดชอบ คิดดูให้ดี ลองทำโพลจริงๆ โดยหน่วยงานที่เป็นกลางดูว่า ประชาชนที่ลำบากอยู่ตอนนี้ รู้สึกอย่างไรกับ คสช. นายกฯอย่าเชื่อแต่คนใกล้ชิด ความรู้สึกของคนตอนนี้จะแสดงออกในการลงประชามติ ถ้ารับเท่ากับรักท่าน แต่ถ้าไม่รับเท่ากับคิดตรงข้ามกับท่าน" นายวรชัย กล่าว
** ซัดมีเงินซื้ออาวุธ แต่ทิ้งเกษตรกร
ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยได้โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่กำลังจะนำไปออกเสียงประชามติถูกเขียนด้วยกลุ่มคนที่เผด็จการตั้งขึ้นโดยประชาชนไม่มีส่วนร่วม จึงมีบทบัญญัติที่ขัดขวางพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะด้วยการลิดรอนสิทธิของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังทำให้เกษตรกรประมาณ 23.73 ล้านคนทั้งประเทศที่เป็นคนส่วนใหญ่และมีฐานะยากจนถูกตัดความช่วยเหลือ ตัดเบี้ยคนชรา โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ แต่กลับมีเงินไปซื้ออาวุธหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติเศรษฐกิจจะเสียหาย เพราะเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจะขาดกำลังซื้อ ส่วนตัวจึงไม่เอาด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างแน่นอน "ผมไม่รับครับ"
** คสช.ย้ำเลือกตั้งปี 60 แน่นอน
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. พร้อมด้วย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ร่วมกันแถลงถึงผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปีของ คสช. โดยระบุว่า ในห้วงเวลา 730 วันที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้เน้นการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ทั้งนี้ปัญหาต่างๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คสช.ได้มอบหมายให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ลงไปดูแลพี่น้องประชาชน รับเรื่องราวร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมตามพื้นที่ต่างๆ จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจเชื่อมั่น และความศรัทธาต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ คสช.และรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่
“ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามกรอบโรดแมปเลย เพราะเวลาต่อไปต้องมีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 ส.ค. 59 ซึ่งเราสร้างความรับรู้ และเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ จากนั้นอนาคตต้องจัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ขอย้ำว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยืนยันว่า คสช.รักษาคำสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งปี 2560 ตามโรดแมป และอยากให้เชื่อใจว่าคสช.รักษาความมั่นสัญญาที่จะดูแลประชาชน” พ.อ.ปิยพงศ์ ระบุ
** “วินธัย” ปัดแนวคิดล้มประชามติเอง
ด้าน พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า คสช.จะล้มการทำประชามติเองว่า เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น ซึ่งตนอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร การแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆยังสามารถกระทำได้ตามกรอบที่เหมาะสม แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดความแตกแยก และก่อให้เกิดความเกลียดชังในสังคม อีกทั้งต้องไม่นำเสนอข้อมูล ข่าวสารที่ขาดข้อพิสูจน์ชัดเจน และไปพาดพิงบุคล หรือองค์กรอื่นๆ เพราะจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ ส่วนกรณี นายวัฒนา ที่มักแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวนั้น ทางทีมโฆษก คสช.จะลดระดับลงไปบ้าง เพราะนายวัฒนาเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของ คสช. จึงเป็นเหตุให้การแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ
ทั้งนี้เมื่อเวลา 18.05 น. คสช.ได้นำสกู๊ปพิเศษผลงานครบรอบ 2 ปี มาออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยในรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยมีความยาวประมาณ 20 นาทีด้วย.
วานนี้ (26 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่ายว่า ได้หารือภาพรวมของการปฏิรูปประเทศนับตั้งแต่ คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จนครบ 2 ปี ถือว่ามีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งมิติของการบูรณาการบริหารราชการและมิติของการปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้วิป 3 ฝ่ายเห็นว่าการปฏิรูปไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่มีความคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แผนปฏิรูปต่างๆที่วิป 3 ฝ่ายได้ศึกษาและให้ข้อเสนอแนะไว้ถูกนำมาขับเคลื่อนและมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ กำลังอยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อมีผลบังคับใช้ การทุจริตจะทำไม่ได้โดยง่ายอีกต่อไป
** “ไพบูลย์” รับงาน กม.ติดขัด
ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ว่าด้วยงานยุติธรรม ครั้งที่ 14 ในหัวข้อ "การปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า 2 ปีที่ดำรงตำแหน่ง แม้ไม่ใช่นักกฎหมาย ก็พยายามเรียนรู้งานอย่างเต็มที่ โดยตลอดเวลาที่เข้าทำหน้าที่พยายามแก้ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม อาทิ กฎหมายเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม กฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และเดินหน้าการปฏิรูป โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามผลักดันกฎหมายมากถึง 465 ฉบับ และมีผลบังคับใช้แล้ว 151 ฉบับ แต่เกิดปัญหาเมื่อในจำนวนนี้เกินครึ่งไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง เพราะกฎหมายลูก หรือประกาศกระทรวง ไม่สามารถออกมาบังคับใช้ได้ ในข้อเท็จจริงมีรัฐมนตรีบางคนยังไม่ทราบว่าเมื่อมีกฎหมายแล้วต้องปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง และรัฐมนตรีบางคนยังไม่ทราบว่ากฎหมายลูกของกระทรวงตนเองไม่ออก ทั้งยังพบว่ามีกฎหมายขยะ ล้าสมัย ซ้ำซ้อน กว่า 1,000 ฉบับ เช่น กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดมีอยู่ถึง 7 ฉบับกระจายอยู่ในกระทรวงต่างๆ แต่ 2 ปีที่ผ่านมา ได้แค่คิด แต่ยังทำไม่ได้ เพราะหน่วยงานไม่ยอมลดลาวาศอก มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้องจึงทำให้การขับเคลื่อนดังกล่าวยังไม่สำเร็จ
** “เพื่อไทย” ทวงประชาธิปไตย
ด้าน พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 2 ปี คสช.โดยระบุตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ คสช.เคยสัญญา กลับไม่ได้รับการปฏิบัติ สถานการณ์ด้านต่างๆตกต่ำลง ทั้งด้านประชาธิปไตยที่ล้มเหลว ร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ และการทำประชามติที่มัดมือประชาชน การละเมิดสิทธิมนุษยชนทวีความรุนแรง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศ สังคมขาดความปรองดอง มีความแตกแยกอย่างรุนแรง และการปฏิรูปที่เป็นเพียงข้ออ้าง สิ่งต่างๆ ที่ได้เคยสัญญาและใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นโยบายเศรษฐกิจขาดวิสัยทัศน์ผิดพลาดในทุกมิติ ประชาชนยากจน สภานการณ์ด้านต่างๆของประเทศกำลังเสื่อมถอย จนอาจเข้าขั้นวิกฤติได้ เหตุผลหลักของความล้มเหลวดังกล่าวคือ ความไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดศักยภาพในการแก้ไขปัญหาของประเทศ การขาดความจริงใจและการมุ่งแต่รักษาอำนาจของตน ความอคติและการความต้องการทำลายฝ่ายตรงข้าม การขาดวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจตระหนักถึงวิกฤติของประเทศครั้งนี้ โดยต้องเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน แทนการเป็นคู่ขัดแย้ง และต้องเร่งคืนประชาธิปไตยที่เป็นสากลให้แก่สังคมไทยโดยเร็ว
** “นปช. - กปปส.” คุยกันเรื่องปกติ
ทางด้าน นายวรชัย เหมะ แกนนำ นปช.กล่าวถึงกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ระบุว่า ได้พูดคุยกับตนว่า ตนได้พูดคุยกับนายถาวรตลอดเวลาตั้งแต่มีการชุมนุม กปปส. โดยล่าสุด นายถาวรได้โทรมาคุยเรื่องเศรษฐกิจว่า ยางแย่ ปาล์มแย่ นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียก็น้อย คนใต้จนมากในตอนนี้ นอกจากนี้ได้คุยกันเรื่องประชามติ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าที่รัฐบาลอ้างว่ามีความขัดแย้งนั้น ความจริงมวลชนระดับล่างมีการคุยกันอยู่และพร้อมร่วมมือกัน ความขัดแย้งหลักไม่ใช่มวลชนต่อมวลชน แต่เป็นมวลชนกับเผด็จการ อยากบอกว่าวันนี้คนไทยก็หันหน้ามาพูดคุยกันแล้ว ความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองก็คล้ายกัน พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเหมือนกัน
"เรื่องร่างรัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่อยากบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวจะเอาผมไปขังอีก ท่านเป็นชายชาติทหารต้องยอมรับ การที่มาบอกว่าประชาชนต้องรับผิดชอบ คิดดูให้ดี ลองทำโพลจริงๆ โดยหน่วยงานที่เป็นกลางดูว่า ประชาชนที่ลำบากอยู่ตอนนี้ รู้สึกอย่างไรกับ คสช. นายกฯอย่าเชื่อแต่คนใกล้ชิด ความรู้สึกของคนตอนนี้จะแสดงออกในการลงประชามติ ถ้ารับเท่ากับรักท่าน แต่ถ้าไม่รับเท่ากับคิดตรงข้ามกับท่าน" นายวรชัย กล่าว
** ซัดมีเงินซื้ออาวุธ แต่ทิ้งเกษตรกร
ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยได้โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่กำลังจะนำไปออกเสียงประชามติถูกเขียนด้วยกลุ่มคนที่เผด็จการตั้งขึ้นโดยประชาชนไม่มีส่วนร่วม จึงมีบทบัญญัติที่ขัดขวางพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะด้วยการลิดรอนสิทธิของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังทำให้เกษตรกรประมาณ 23.73 ล้านคนทั้งประเทศที่เป็นคนส่วนใหญ่และมีฐานะยากจนถูกตัดความช่วยเหลือ ตัดเบี้ยคนชรา โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ แต่กลับมีเงินไปซื้ออาวุธหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติเศรษฐกิจจะเสียหาย เพราะเกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจะขาดกำลังซื้อ ส่วนตัวจึงไม่เอาด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างแน่นอน "ผมไม่รับครับ"
** คสช.ย้ำเลือกตั้งปี 60 แน่นอน
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. พร้อมด้วย พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ร่วมกันแถลงถึงผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปีของ คสช. โดยระบุว่า ในห้วงเวลา 730 วันที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้เน้นการรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ทั้งนี้ปัญหาต่างๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คสช.ได้มอบหมายให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ลงไปดูแลพี่น้องประชาชน รับเรื่องราวร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมตามพื้นที่ต่างๆ จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจเชื่อมั่น และความศรัทธาต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ คสช.และรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่
“ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามกรอบโรดแมปเลย เพราะเวลาต่อไปต้องมีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 ส.ค. 59 ซึ่งเราสร้างความรับรู้ และเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติ จากนั้นอนาคตต้องจัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ขอย้ำว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยืนยันว่า คสช.รักษาคำสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งปี 2560 ตามโรดแมป และอยากให้เชื่อใจว่าคสช.รักษาความมั่นสัญญาที่จะดูแลประชาชน” พ.อ.ปิยพงศ์ ระบุ
** “วินธัย” ปัดแนวคิดล้มประชามติเอง
ด้าน พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า คสช.จะล้มการทำประชามติเองว่า เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น ซึ่งตนอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร การแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆยังสามารถกระทำได้ตามกรอบที่เหมาะสม แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดความแตกแยก และก่อให้เกิดความเกลียดชังในสังคม อีกทั้งต้องไม่นำเสนอข้อมูล ข่าวสารที่ขาดข้อพิสูจน์ชัดเจน และไปพาดพิงบุคล หรือองค์กรอื่นๆ เพราะจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ ส่วนกรณี นายวัฒนา ที่มักแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวนั้น ทางทีมโฆษก คสช.จะลดระดับลงไปบ้าง เพราะนายวัฒนาเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของ คสช. จึงเป็นเหตุให้การแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ
ทั้งนี้เมื่อเวลา 18.05 น. คสช.ได้นำสกู๊ปพิเศษผลงานครบรอบ 2 ปี มาออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยในรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยมีความยาวประมาณ 20 นาทีด้วย.