เชียงราย - พ่อ แม่ พร้อมญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านนำร่างเด็กหญิงเหยื่อไฟไหม้หอพักนอนโรงเรียนฯเวียงป่าเป้า 17 ศพทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี-ศาสนาหลังตรวจลักษณะตรงกับพ่อได้แล้ว 5 ราย ล่าสุดสองสามี-ภรรยาชาวอาข่าวาวีนำร่างลูกสาวคนโต หนึ่งในเด็กที่เสียชีวิตฝังที่บ้านเกิดแล้ว ด้านผู้จัดการโรงเรียนฯระบุเตรียมทุบอาคารหอพักนอนที่เกิดเหตุไฟไหม้ทิ้ง สลัดความเศร้า สร้างสวนพฤกษศาสตร์รำลึกถึง 17 นักเรียนหญิงผู้เสียชีวิตแทน ยันยังเปิดการเรียนการสอนต่อเริ่ม 30 พ.ค.นี้ ขณะที่ สกอ.บอกมีผู้ปกครองต้องการย้ายลูกไปเรียนที่อื่นแล้วกว่าสิบราย
วานนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ปกครองและญาติของเด็กหญิงที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้หอพักนอน โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ได้นำศพของเด็กหญิงจำนวน 5 รายที่ทำการตรวจลักษณะตรงกับพ่อแม่ได้แล้วไปจัดการตามประเพณีที่ภูมิลำเนาของตนแล้ว
นายวินัย พิสัยเลิศ นางนิตยา เบแย อยู่บ้านเลขที่ 458 บ้านดอยช้าง ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพ่อ และแม่ของ ด.ญ.พรนภา พิสัยเลิศ อายุ 11 ขวบ ชั้น ป.5 หนึ่งในผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆ ได้รับร่างของลูกสาวจากโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
จากนั้นได้มีการจัดพิธีศพตามประเพณีของชาวอาข่า โดยนำร่างของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตห่อด้วยผ้าวางไว้ตรงมุมของตัวบ้านใกล้ประตูเข้าออกบ้าน ข้างศพมีการจัดวางอาหาร-เครื่องดื่มต่างๆ รายรอบตามหลักศาสนา ขณะที่หมอผีประจำหมู่บ้าน พร้อมคนติดตามอีก 3 คน นั่งในซุ้มที่สร้างเป็นเพิงชั่วคราวอยู่บนพื้นข้างตัวบ้าน ทำพิธีด้วยเครื่องเซ่นไหว้ในภาชนะ 2 ชุด พร้อมทำการสวดส่งวิญญาณให้กับผู้ตายตั้งแต่เช้า ก่อนที่ญาติจะนำศพของ ด.ญ.พรนภาบรรจุในโลงศพและนำไปประกอบพิธีฝังที่ฌานปสถานของหมู่บ้านตามประเพณี
นางนิตยากล่าวว่า ตนมีลูก 4 คน คนโตคือ ด.ญ.พรนภา ที่ได้ส่งลูกสาวไปเรียน และนอนพักอยู่ที่หอพักนอนของโรงเรียนฯ ที่เกิดเหตุนานประมาณ 4 ปี เพราะได้รับการชักชวนว่าจะได้รับการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ส่วนคนอื่นๆ เรียนแบบไปกลับในพื้นที่ แต่ก็มาเกิดเหตุน่าเศร้าดังกล่าว
ด้านนายวินัยกล่าวว่า ตนเพิ่งไปส่งลูกที่โรงเรียนเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ขึ้น รู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะลูกสาวคนนี้เป็นคนดี และเป็นลูกคนโต จากนี้ตนจะดูแลลูกๆ อีก 3 คนให้ดีที่สุด
ขณะที่ศพของเด็กหญิงอีก 4 รายถูกนำส่งไปประกอบพิธีตามภูมิลำเนา ประกอบด้วย ด.ญ.ดาวลดา แซ่ยะ อายุ 9 ขวบ บ้านเลขที่ 62 ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่, ด.ญ.เกวลิน อาจู อายุ 1 ขวบ บ้านเลขที่ 298 ม.13 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย, ด.ญ.สาวิตรี มาเยอะ อายุ 8 ขวบ บ้านเลขที่ 933 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย และ ด.ญ.คณิตยา ผกายศรีสกุล อายุ 10 ขวบ บ้านเลขที่ 162 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย แต่ละรายมีการจัดพิธีแตกต่างกันไป ทั้งประเพณีของชนเผ่า และบางรายประกอบพิธีตามหลักศาสนาคริสต์
ส่วนศพของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตที่เหลือยังคงเก็บไว้ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทำให้ญาติโดยเฉพาะพ่อแม่ยังคงนอนพักรออยู่ในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า และบางส่วนนอนพักในเรือนพักโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาเพื่อรอผลการตรวจดีเอ็นเอตามเดิม
นายเรวัตร วาสนา ผู้จัดการโรงเรียนฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน และจะครบกำหนดเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.นี้ ซึ่งทางโรงเรียนก็ยืนยันว่าจะยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ โดยไม่มีนโยบายปิดโรงเรียน หรือส่งเด็กไปเรียนที่อื่นแต่อย่างใด แต่หากมีผู้ปกครองประสงค์จะให้บุตรหลานไปเรียนที่อื่นเราก็ยินดี ส่วนผู้ปกครองที่ยังมีความมั่นใจต่อทางโรงเรียนฯ อยู่ก็ขอขอบคุณอย่างมาก
"โดยหลักการบริหารจะแยกส่วนกันระหว่างโรงเรียนกับหอพักนักเรียน เพียงแต่สองหน่วยงานอยู่ภายใต้มูลนิธิฯ เดียวกันเท่านั้น เด็กที่พักอยู่ในหอพักก็ไม่ได้เรียนในโรงเรียนฯ ทั้งหมด บางส่วนออกไปเรียนที่อื่นด้วย สำหรับอาคารหอพักนอนที่เกิดเหตุเศร้าสลดนั้น ได้มีการประชุมหารือกันแล้วว่าจะมีการรื้ออาคารแห่งนี้ออก และสร้างเป็นสวนพฤกษศาสตร์ขึ้นมาแทน เพื่อระลึกถึงเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตทั้ง 17 ราย และลบภาพความเจ็บปวดในอดีตออกไปให้หมด" นายเรวัตร กล่าว
พร้อมกับกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าประตูของอาคารหอพักนอนปิดจากด้านนอกด้วยว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตามปกติประตูจะปิดจากด้านใน และแม่บ้านก็ยืนยันว่าช่วงที่ออกไปก็ปิดประตูจากด้านในก่อนจะเดินอ้อมไปประตูด้านหลัง และออกไปทำธุระก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเหตุนี้ก็ถือว่าเกิดขึ้นด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ
ด้านนางพิมพ์ วาสนา ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนเคยมีนักเรียนอยู่จำนวน 142 คนและได้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปจำนวน 17 ราย แต่ก็ยังเหลือที่รอดชีวิต และไม่ประสบเหตุให้ต้องดูแลอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะยังคงทำหน้าที่ดูแลเด็กเหล่านี้ให้ดีที่สุดต่อไป แต่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สกอ.) หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวมีผู้ปกครองประสงค์จะให้บุตรหลานออกไปเรียนที่อื่นแล้วจำนวน 16 คน
วานนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ปกครองและญาติของเด็กหญิงที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้หอพักนอน โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ได้นำศพของเด็กหญิงจำนวน 5 รายที่ทำการตรวจลักษณะตรงกับพ่อแม่ได้แล้วไปจัดการตามประเพณีที่ภูมิลำเนาของตนแล้ว
นายวินัย พิสัยเลิศ นางนิตยา เบแย อยู่บ้านเลขที่ 458 บ้านดอยช้าง ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพ่อ และแม่ของ ด.ญ.พรนภา พิสัยเลิศ อายุ 11 ขวบ ชั้น ป.5 หนึ่งในผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆ ได้รับร่างของลูกสาวจากโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
จากนั้นได้มีการจัดพิธีศพตามประเพณีของชาวอาข่า โดยนำร่างของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตห่อด้วยผ้าวางไว้ตรงมุมของตัวบ้านใกล้ประตูเข้าออกบ้าน ข้างศพมีการจัดวางอาหาร-เครื่องดื่มต่างๆ รายรอบตามหลักศาสนา ขณะที่หมอผีประจำหมู่บ้าน พร้อมคนติดตามอีก 3 คน นั่งในซุ้มที่สร้างเป็นเพิงชั่วคราวอยู่บนพื้นข้างตัวบ้าน ทำพิธีด้วยเครื่องเซ่นไหว้ในภาชนะ 2 ชุด พร้อมทำการสวดส่งวิญญาณให้กับผู้ตายตั้งแต่เช้า ก่อนที่ญาติจะนำศพของ ด.ญ.พรนภาบรรจุในโลงศพและนำไปประกอบพิธีฝังที่ฌานปสถานของหมู่บ้านตามประเพณี
นางนิตยากล่าวว่า ตนมีลูก 4 คน คนโตคือ ด.ญ.พรนภา ที่ได้ส่งลูกสาวไปเรียน และนอนพักอยู่ที่หอพักนอนของโรงเรียนฯ ที่เกิดเหตุนานประมาณ 4 ปี เพราะได้รับการชักชวนว่าจะได้รับการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ส่วนคนอื่นๆ เรียนแบบไปกลับในพื้นที่ แต่ก็มาเกิดเหตุน่าเศร้าดังกล่าว
ด้านนายวินัยกล่าวว่า ตนเพิ่งไปส่งลูกที่โรงเรียนเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ขึ้น รู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะลูกสาวคนนี้เป็นคนดี และเป็นลูกคนโต จากนี้ตนจะดูแลลูกๆ อีก 3 คนให้ดีที่สุด
ขณะที่ศพของเด็กหญิงอีก 4 รายถูกนำส่งไปประกอบพิธีตามภูมิลำเนา ประกอบด้วย ด.ญ.ดาวลดา แซ่ยะ อายุ 9 ขวบ บ้านเลขที่ 62 ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่, ด.ญ.เกวลิน อาจู อายุ 1 ขวบ บ้านเลขที่ 298 ม.13 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย, ด.ญ.สาวิตรี มาเยอะ อายุ 8 ขวบ บ้านเลขที่ 933 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย และ ด.ญ.คณิตยา ผกายศรีสกุล อายุ 10 ขวบ บ้านเลขที่ 162 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย แต่ละรายมีการจัดพิธีแตกต่างกันไป ทั้งประเพณีของชนเผ่า และบางรายประกอบพิธีตามหลักศาสนาคริสต์
ส่วนศพของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตที่เหลือยังคงเก็บไว้ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทำให้ญาติโดยเฉพาะพ่อแม่ยังคงนอนพักรออยู่ในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า และบางส่วนนอนพักในเรือนพักโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาเพื่อรอผลการตรวจดีเอ็นเอตามเดิม
นายเรวัตร วาสนา ผู้จัดการโรงเรียนฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน และจะครบกำหนดเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.นี้ ซึ่งทางโรงเรียนก็ยืนยันว่าจะยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ โดยไม่มีนโยบายปิดโรงเรียน หรือส่งเด็กไปเรียนที่อื่นแต่อย่างใด แต่หากมีผู้ปกครองประสงค์จะให้บุตรหลานไปเรียนที่อื่นเราก็ยินดี ส่วนผู้ปกครองที่ยังมีความมั่นใจต่อทางโรงเรียนฯ อยู่ก็ขอขอบคุณอย่างมาก
"โดยหลักการบริหารจะแยกส่วนกันระหว่างโรงเรียนกับหอพักนักเรียน เพียงแต่สองหน่วยงานอยู่ภายใต้มูลนิธิฯ เดียวกันเท่านั้น เด็กที่พักอยู่ในหอพักก็ไม่ได้เรียนในโรงเรียนฯ ทั้งหมด บางส่วนออกไปเรียนที่อื่นด้วย สำหรับอาคารหอพักนอนที่เกิดเหตุเศร้าสลดนั้น ได้มีการประชุมหารือกันแล้วว่าจะมีการรื้ออาคารแห่งนี้ออก และสร้างเป็นสวนพฤกษศาสตร์ขึ้นมาแทน เพื่อระลึกถึงเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตทั้ง 17 ราย และลบภาพความเจ็บปวดในอดีตออกไปให้หมด" นายเรวัตร กล่าว
พร้อมกับกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าประตูของอาคารหอพักนอนปิดจากด้านนอกด้วยว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตามปกติประตูจะปิดจากด้านใน และแม่บ้านก็ยืนยันว่าช่วงที่ออกไปก็ปิดประตูจากด้านในก่อนจะเดินอ้อมไปประตูด้านหลัง และออกไปทำธุระก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งเหตุนี้ก็ถือว่าเกิดขึ้นด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ
ด้านนางพิมพ์ วาสนา ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนเคยมีนักเรียนอยู่จำนวน 142 คนและได้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปจำนวน 17 ราย แต่ก็ยังเหลือที่รอดชีวิต และไม่ประสบเหตุให้ต้องดูแลอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะยังคงทำหน้าที่ดูแลเด็กเหล่านี้ให้ดีที่สุดต่อไป แต่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สกอ.) หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวมีผู้ปกครองประสงค์จะให้บุตรหลานออกไปเรียนที่อื่นแล้วจำนวน 16 คน