ผู้จัดการรายวัน360-คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเสนอ ครม. แก้กฎหมายภายใน 1-2 เดือน เปิดช่องออกหวยออนไลน์และผลิตภัณฑ์ใหม่ “พล.ท.อภิรัชต์” ชี้สุดท้ายต้องให้บอร์ดของรัฐบาลใหม่เข้ามารับลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยในการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาและหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการปรับปรุง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 เดือน เพื่อเปิดช่องให้สามารถออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ๆ อาทิ การจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) สลากลอตโต้ และการจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อได้
"การแก้ไขพ.ร.บ.สลากฯ คงจะเสร็จเรียบร้อยในเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งจะเปิดให้สลากสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ โดยการดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้เราก้าวทันประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ไม่ให้มีความล้าหลัง แต่การตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คงต้องเป็นเรื่องของกรรมการสลากฯ ชุดใหม่ มาตัดสินใจ หลังจากที่มีการเลือกตั้งแล้ว เพราะหากทำในขณะนี้ในช่วงที่การเมืองไม่ปกติ อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายได้"พล.ท.อภิรัชต์กล่าว
นอกจากนี้ ในการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ได้กำหนดให้ผู้ที่ขายสลากฯ จะต้องมีใบอนุญาตในการขายสลาก ซึ่งหากไม่มีใบอนุญาต จะมีความผิดปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน รวมทั้งแก้ไขเกี่ยวกับสัดส่วนเงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก โดย 60% เป็นเงินรางวัล 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และ 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน โดยยกเลิกกองทุนเพื่อพัฒนาสังคมที่รับส่วนแบ่ง 3% เพราะไม่มีความจำเป็น ซึ่งจะทำให้สำนักงานสลากจะมีเงินนำส่งคลังเพิ่มขึ้น จากปี 2559 ที่สำนักงานสลากมีรายได้นำส่งคลัง 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
พล.ท.อภิรัชต์กล่าวว่า ที่ผ่านมา 1 ปี การแก้ไขปัญหาราคาสลากได้ดำเนินการรวม 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 ได้มีการประกาศกำหนดราคาสลาก 80 บาท ทั่วประเทศ การยกเลิกรางวัลแจ๊คพอต เพื่อเป็นการกระจายการถูกรางวัลที่ 1 ให้ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการรวมชุด ที่ลดการจำหน่ายสลากเกินราคา และยังเพิ่มการออกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว เพื่อลดปัญหาเลขท้ายที่ไม่นิยม
ส่วนระยะที่ 2 เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสลากของผู้ค้ารายย่อย ด้วยการเปิดให้จองผ่านธนาคารกรุงไทย ทำให้ลดปัญหายี่ปั้วรวมสลากได้เป็นอย่างดี และการเพิ่มสลากจาก 37 ล้านฉบับคู่ เป็น 60 ล้านฉบับคู่ ที่สะท้อนปริมาณความต้องการสลากที่แท้จริงในตลาด และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการในช่วงต้นของระยะที่ 3 เพื่อสร้างความเป็นธรรมและยั่งยืนในการจำหน่ายสลากในอนาคตแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดนี้แล้วก็ตาม
"ผมพอใจกับการแก้ไขปัญหาสลากสลากกินแบ่งรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้แผงสลากทุกแผงมีการขายที่ราคา 80 บาท และมีการรวมชุดน้อยลงมาก ส่วนการรวมชุดที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แม้ว่าจะมีการออกเลขหน้า 3 ตัว การยกเลิกรางวัลแจ๊คพอต ก็เป็นความสมยอมระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อเอง ซึ่งสลากก็พยายามแก้ไขในทางปฏิบัติ แต่ในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จแล้วตามแนวทางที่รัฐบาลมอบหมายไว้" พล.ท.อภิรัชต์กล่าว
พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยในการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาและหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการปรับปรุง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 เดือน เพื่อเปิดช่องให้สามารถออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ๆ อาทิ การจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) สลากลอตโต้ และการจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อได้
"การแก้ไขพ.ร.บ.สลากฯ คงจะเสร็จเรียบร้อยในเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งจะเปิดให้สลากสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ โดยการดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้เราก้าวทันประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ไม่ให้มีความล้าหลัง แต่การตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คงต้องเป็นเรื่องของกรรมการสลากฯ ชุดใหม่ มาตัดสินใจ หลังจากที่มีการเลือกตั้งแล้ว เพราะหากทำในขณะนี้ในช่วงที่การเมืองไม่ปกติ อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายได้"พล.ท.อภิรัชต์กล่าว
นอกจากนี้ ในการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ได้กำหนดให้ผู้ที่ขายสลากฯ จะต้องมีใบอนุญาตในการขายสลาก ซึ่งหากไม่มีใบอนุญาต จะมีความผิดปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน รวมทั้งแก้ไขเกี่ยวกับสัดส่วนเงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก โดย 60% เป็นเงินรางวัล 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และ 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน โดยยกเลิกกองทุนเพื่อพัฒนาสังคมที่รับส่วนแบ่ง 3% เพราะไม่มีความจำเป็น ซึ่งจะทำให้สำนักงานสลากจะมีเงินนำส่งคลังเพิ่มขึ้น จากปี 2559 ที่สำนักงานสลากมีรายได้นำส่งคลัง 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
พล.ท.อภิรัชต์กล่าวว่า ที่ผ่านมา 1 ปี การแก้ไขปัญหาราคาสลากได้ดำเนินการรวม 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 ได้มีการประกาศกำหนดราคาสลาก 80 บาท ทั่วประเทศ การยกเลิกรางวัลแจ๊คพอต เพื่อเป็นการกระจายการถูกรางวัลที่ 1 ให้ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการรวมชุด ที่ลดการจำหน่ายสลากเกินราคา และยังเพิ่มการออกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว เพื่อลดปัญหาเลขท้ายที่ไม่นิยม
ส่วนระยะที่ 2 เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสลากของผู้ค้ารายย่อย ด้วยการเปิดให้จองผ่านธนาคารกรุงไทย ทำให้ลดปัญหายี่ปั้วรวมสลากได้เป็นอย่างดี และการเพิ่มสลากจาก 37 ล้านฉบับคู่ เป็น 60 ล้านฉบับคู่ ที่สะท้อนปริมาณความต้องการสลากที่แท้จริงในตลาด และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการในช่วงต้นของระยะที่ 3 เพื่อสร้างความเป็นธรรมและยั่งยืนในการจำหน่ายสลากในอนาคตแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดนี้แล้วก็ตาม
"ผมพอใจกับการแก้ไขปัญหาสลากสลากกินแบ่งรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้แผงสลากทุกแผงมีการขายที่ราคา 80 บาท และมีการรวมชุดน้อยลงมาก ส่วนการรวมชุดที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แม้ว่าจะมีการออกเลขหน้า 3 ตัว การยกเลิกรางวัลแจ๊คพอต ก็เป็นความสมยอมระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อเอง ซึ่งสลากก็พยายามแก้ไขในทางปฏิบัติ แต่ในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จแล้วตามแนวทางที่รัฐบาลมอบหมายไว้" พล.ท.อภิรัชต์กล่าว