สุรินทร์/บุรีรัมย์- สลากกินแบ่งรัฐบาลล้นตลาดเมืองช้าง ผู้ค้าแห่ลดราคาขายเหลือ 75 บาท ส่วนที่ไม่ลดราคาปล่อยให้ตกค้างในมือหวังถูกรางวัล ถือเป็นการเสี่ยงโชคไปในตัว ขณะที่การซื้อขายล็อตเตอรี่วันสุดท้ายที่บุรีรัมย์คึกคัก แต่ผู้ค้าคาดสลากเหลือมากกว่าทุกงวด วอนรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหา
วันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มี.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจตลาดค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่แหล่งใหญ่ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ พบว่าบรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปค่อนข้างคึกคัก ประชาชนหลายสาขาอาชีพเดินทางมาหาเลือกซื้อเพื่อเสี่ยงโชคกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บรรดาผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยต่างมีสลากฯ อยู่ในมือเป็นจำนวนมาก หลายรายต้องลดราคาขายจาก 80 บาท ลงเหลือเพียง 75 บาท เนื่องจากสั่งจองลอตเตอรี่มาขายเป็นจำนวนมาก เกรงว่าขายไม่หมดและขาดทุนยับเยิน จึงต้องลดราคาเร่งระบายส่งผลให้การซื้อขายคึกคัก
ส่วนผู้ค้าสลากฯ รายอื่นที่ไม่ลดราคาและยอมให้สลากฯ ตกค้างในมือเพื่อหวังถูกรางวัลแทนขายราคาถูกซึ่งแต่ละงวดมักถูกรางวัลได้เงินคืนไม่มากก็น้อยเฉลี่ยกันไป ครั้งละ 2-3 หมื่นบาท และถือว่าเป็นการเสี่ยงโชคไปในตัว
ทั้งนี้ ผู้ค้าสลากฯ ต่างให้เหตุผลเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่ขายสลากฯ ไม่หมดเพราะรัฐบาลสั่งพิมพ์สลากฯ ออกมาขายจำนวนมากเกินไป ทำให้ล้นตลาดมีคนขายมากขึ้นแต่คนซื้อยังเท่าเดิม และราคาขายส่งที่สนามบินน้ำ นนทบุรี ราคาตกอยู่แค่คู่ละ 58 บาทเท่านั้น ผู้ที่รับมาจำนวนมากจึงสามารถหั่นราคาลงมาขายต่ำกว่าคู่ละ 80 บาทได้
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาผู้สั่งจองสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านธนาคารกรุงไทยได้สลากฯ มาเป็นจำนวนมากและนำมาเร่ขายยกเล่มให้ผู้ค้ารายย่อยในราคาถูกโดยไม่ได้ตั้งแผงขายปลีกเอง ทำให้มีผู้ขายรายย่อยเพิ่มมากขึ้นจนเกลื่อนเมือง ขณะผู้ซื้อมีจำนวนเท่าเดิมทำให้ลอตเตอรี่ล้นตลาด
วันเดียวกันนี้ ( 1 มี.ค.) ที่ จ.บุรีรัมย์ บรรยากาศการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลของผู้ค้ารายย่อยในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ วัดสุดท้ายกลับมาคึกคักที่สุดของงวดนี้ ทำให้พ่อค้าแม่จำหน่ายสลากต่างก็ยิ้มได้ ขณะที่ผู้ค้าต่างบอกว่าบรรยากาศการขายคึกคักเพียงวันเดียว ส่วนทุกวันที่ผ่านมาเป็นไปอย่างเงียบเหงาทำให้สลากยังคงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
แต่คาดว่าหลังสิ้นสุดเวลาการจำหน่ายในวันนี้สลากที่นำมาขายจะเหลือทุกราย ไม่น้อยกว่า 50 -300 ใบ จากที่ได้ไปซื้อผ่านธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ทั้งซื้อจากพ่อค้าคนกลางหรือยี่ปั๊วรายละตั้งแต่ 5 – 20 เล่มซึ่งจะส่งผลให้ผู้ค้าไม่มีกำไรและขาดทุน
จากกรณีดังกล่าวกลุ่มผู้ค้าสลากในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์และผู้ที่เดินเร่ขายสลาก ได้ร้องขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาสลากล้นตลาด และเกินความต้องการของผู้ซื้อ โดยการจัดโควตาให้กับผู้ค้าจริงตั้งแต่ 5 เล่มถึง 20 เล่ม ตามความต้องการพร้อมทั้งให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตัดวงจรของพ่อค้าคนกลางหรือยี่ปั๊วอย่างจริงจัง เพราะขณะนี้เชื่อว่าสลากส่วนหนึ่งที่นำมาวางขายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ได้ซื้อมากจากลุ่มยี่ปั๊วหรือพ่อค้าคนกลาง ซึ่งมีราคาสูงกว่าซื้อตรงจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล
พร้อมทั้งให้ทยอยลดจำนวนการพิมพ์สลากจนเหลือปริมาณเท่าเดิมหรือตามความต้องการของผู้ซื้อเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสลากล้นตลาดได้
ด้าน นางเกศรา กาญจนพษ์กิจ อายุ 58 ปี และนายธานัท รุจินันธนา อายุ 47 ปี ผู้ค้าสลากรรายย่อย จ.บุรีรัมย์ บอกว่า วันสุดท้ายของการขายสลากฯ ยังคงมีสลากเหลืออยู่มากถึง 500 ใบ จากที่นำสลากมาวางขาย 1,500 ใบ ถึงแม้ช่วงเช้าจะคึกคักกว่าทุกวัน แต่เชื่อว่าสิ้นสุดเวลาการขายสลากจะเหลือไม่ต่ำกว่า 50 – 300 ใบ
จึงร้องขอให้รัฐบาล เร่งทบทวนหาวิธีแก้ไขในการจัดพิมพ์เพิ่มและการจัดสรรโควตาสลากให้กับผู้ค้ารายย่อย ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสมเพื่อลดปัญหาล้นตลาดจนเหลืออย่างเช่นงวดนี้อีก
