ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไพบูลย์” เตือน “ลูกศิษย์ธัมมชโย” ระวังซวย เหตุปกป้องอาจารย์จนออฟไซต์หลายเรื่อง ชี้ “หมอ” อาจโดนออกจากงาน ฐานเซ็นเอกสารทางการแพทย์ไม่สุจริต “อธิบดีไพสิฐ ” ปัดข่าวใช้รถหุ้มเกราะฝ่ามวลชนเข้าไปรวบเจ้าอาวาสธรรมกาย ระบุรอพ้นช่วงวันวิสาขบูชาไปก่อน ”ดีเอสไอ” พบพิรุธใบรับรองออกโดย ร.พ.รัฐใน จ.ราชบุรี ทั้งที่อ้างเดินทางออกจากวัดไม่ได้ ด้าน ร.พ.ค่ายภาณุรังษี ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปทำข่าว “พระลูกวัด” โพสต์แถหมอมาตรวจที่วัดเอง แถมชวนสาวกระดมแสนชื่อร้องเรียนผ่านเวบทำเนียบขาว
วานนี้ (19 พ.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา กล่าวกรณีที่กลุ่มลูกศิษย์ พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พยายามออกมาช่วยเหลือพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนยุติธรรมในคดีความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร มีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัดว่า การที่กลุ่มลูกศิษย์พระธัมมชโย แสดงออกไม่ว่าจะเป็นการออกแถลงข่าว การใช้มวลชนเคลื่อนไหวกดดันร้องเรียนตามสถานที่ต่างๆ ขบวนการระดมคนโพสต์ข้อความต่างๆในโซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมไปถึงวิธีการต่างๆทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย ยิ่งเมื่อศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับพระธัมมชโยแลเว ก็ยังมีกลุ่มลูกศิษย์บางส่วนประกาศขึงขังว่าจะปกป้องไม่ให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวพระธัมมชโย
“สถานการณ์ของคณะลูกศิษย์มีความเสี่ยงต่อการที่จะถูกดำเนินคดีฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานซึ่งเป็นความผิดในคดีอาญาเพิ่มมากขึ้น” นายไพบูลย์ ระบุ
** เตือน “ธัมมชโย” อย่าให้ศิษย์รับทุกข์แทน
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้านี้ก็มีลูกศิษย์ที่เป็นแพทย์ได้ช่วยออกหนังสือรับรองอาการป่วยของพระธัมมชโยว่า ป่วยหนัก จนกระทั่งไม่สามารถพบเจ้าพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ทราบข่าวว่า จะมีผลร้ายต่อลูกศิษย์ที่เป็นแพทย์บางคนอาจจะถึงกับต้องถูกให้ออกจากงาน เพราะถูกสอบสวนในกรณีที่ออกหนังสือรับรองทางการแพทย์โดยไม่สุจริต ซึ่งถือว่าเป็นลูกศิษย์ชุดแรกที่อาจจะต้องคดีจากการที่ไปช่วยเหลือปกป้องพระธัมมชโย แต่นับจากนี้ไปหากพระธัมมชโยไม่ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตามหมายจับแล้ว แต่เลือกวิธีให้ลูกศิษย์ตนเองมาเป็นกำแพงมนุษย์ ก็อาจจะเห็นลูกศิษย์ทั้งแกนนำสำคัญๆและมวลชน โดนคดีอาญากันอีกหลายสิบคน ตรงนี้น่าเป็นห่วง และสถานการณ์อาจบานปลาย
“ในฐานะชาวพุทธด้วยกัน ขอฝากไปถึงพระธัมมชโย ต้องคิดให้หนัก และเมตตาต่อลูกศิษย์ตนเอง อย่าให้เขาต้องรับทุกข์ มีคดีอาญาเลย เพราะอย่างไรก็ฝ่าฝืนกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ จึงไม่ควรเลือกเส้นทางที่ก่อให้เกิดการเสียหายหนักแก่ตนเองและลูกศิษย์ โอกาสใช้สิทธิต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมยังมีหลายขั้นตอน” นายไพบูลย์ กล่าว
** “ ดีเอสไอ” ปัดใช้รถหุ้มเกราะบุกจับตัว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ดีเอสไอเตรียมนำกำลังพร้อมรถหุ้มเกราะเข้าปฏิบัติการจับกุมตัวพระธัมมชโย หากเลยกำหนดที่ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับในวันที่ 26 พ.ค.นี้ว่า ยืนยันว่าดีเอสไอจะไม่ดำเนินการที่มีลักษณะเป็นที่น่าเกลียด และยังไม่ได้วางแผนเข้าจับกุม โดยไม่มีการเตรียมนำรถหุ้มเกราะฝ่ามวลชนเข้าไปจับกุมพระธัมมชโยอย่างแน่นอน หากจะดำเนินการอย่างใดนั้นก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการปะทะเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20 พ.ค.นี้ ตรงกับวันสำคัญของชาวพุทธ วันวิสาขบูชา เจ้าหน้าที่จะไม่มีการปฏิบัติการใดๆเด็ดขาด คณะพนักงานสอบสวนมองว่า การให้ระยะเวลาดังกล่าว เป็นระยะเวลาที่พอสมควรแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงหลังวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของชาวพุทธศาสนา ยังรอการติดต่อจากทางวัดพระธรรมกาย ว่าพระธัมมชโยจะมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับวันที่ 26 พ.ค.นี้หรือไม่
“หากพระธัมมชโยไม่เดินทางมาพบคณะพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยพนักงานอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ จึงจะมีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ดีเอสไอจะใช้มาตรการดำเนินการกับพระธัมมชโยจากเบาไปหาหนัก และจะไม่ใช้วิธีการที่รุนแรงในการดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยแต่อย่างใด” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
** ออกจากวัดไม่ได้ แต่มีผลตรวจจาก “ราชบุรี”
รายงานข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีเวชระเบียนแพทย์ของพระธัมมชโยที่มีความสับสนว่า เวชระเบียนแพทย์ของพระธัมมชโย ประกอบด้วย ใบรับรองแพทย์จากสหเวชคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกภายในวัดพระธรรมกาย ส่วนใบรับรองแพทย์อีก 1 ใบที่กลุ่มลูกศิษย์นำออกมาแถลงโจมตีพนักงานสอบสวนว่า ไม่ยอมรับฟังหลักฐานทั้งที่เป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐนั้น เมื่อได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า เป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐก็จริง แต่เป็นโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี ออกโดยรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล การที่อ้างใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลแสดงว่าผู้ป่วยต้องเดินทางไปตรวจรักษาอาการ และเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลตั้งอยู่ใน จ.ราชบุรี ขณะที่พระธัมมชโยอ้างเหตุอาพาธหนักถึง 2 ครั้งว่าไม่สามารถเดินทางออกจากวัดพระธรรมกายได้เลย จึงเป็นสาเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่รับฟังหลักฐานเวชระเบียนที่สับสน และอาจเป็นเหตุผลนำไปสู่การอนุมัติหมายจับของศาลอาญา ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวแสดงความเห็นของศิษย์วัดพระธรรมกาย หากพบว่ายังมีการแสดงความเห็นพาดพิงการทำงานของดีเอสไอจะมีการรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อฟ้องฐานหมิ่นประมาท รวมถึงนำเสนอหลักฐานต่อศาลเพื่อเอาผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วย
** เผยฝีมือ รอง ผ.อ.ร.พ.ค่ายภาณุรังษี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ใบรับรองแพทย์ที่กลุ่มลูกศิษย์พระธัมมชโยนำมาอ้างนั้น ออกโดยโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี โดยมี พ.ท.ศิริพงษ์ พัฒนพิสุทธิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายฯเป็นผู้ลงชื่อในใบรับรองแพทย์ แต่เมื่อเดินทางไปที่ ร.พ.ค่ายภาณุรังสีเพื่อสอบถาม พ.ท.ศิริพงษ์ ปรากฎว่า ทางหน่วยทหารไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ อ้างว่าผู้บังคับบัญชาไม่อนุญาต และห้ามบันทึกภาพข่าว อีกทั้งเมื่อพยายามโทรศัพท์เข้าไปยังโรงพยาบาล ก็ปรากฎว่า ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้มีรายงานว่า พ.อ.ณรงค์ ภักดีศุภผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี และ พ.ท.ศิริพงษ์ ได้ไปพบกับผู้บังคับบัญชาเพื่อชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
** ต้นสังกัดเร่งสอบวินัย “พ.ท.ศิริพงษ์”
รายงานข่าวจาก ร.พ.ค่ายภาณุรังษี ระบุว่า ใบรับรองแพทย์และเวชระเบียนที่ออกจาก ร.พ.ต้องผ่านการรับรองจาก ผอ.ร.พ.ด้วย เบื้องต้นมณฑลทหารบกที่ 16 จ.ราชบุรี (มทบ.16) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอรายงานทั้งหมดต่อผู้บังคับบัญชา โดยได้มีการประสานขอความร่วมมือกับดีเอสไอ เพื่อขอหลักฐานไปประกอบการตรวจสอบด้วย ส่วนจะมีแพทย์รายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบรับรองแพทย์หรือไม่นั้น กำลังอยู่ระหว่างต้นสังกัดสอบสวนทางวินัย หากพบกระทำผิดจริงจะเสนอแพทยสภาเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์และลงโทษทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ ล่าสุดดีเอสไอได้รับการตอบกลับกรณีการออกใบรับรองแพทย์ของ พ.ท.ศิริพงษ์ว่าไม่ถือเป็นเอกสารทางราชการ เพราะเป็นการกระทำส่วนตัวที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ร.พ. เนื่องจากข้อเท็จจริงพระธัมมชโยไม่เคยเข้ารับการตรวจรักษากับ ร.พ. พร้อมพบว่า พ.ท.ศิริพงษ์มีการนำต้นขั้วใบรับรองไปดำเนินการเองด้วย
** สาวกระดมส่งคำร้องถึง “โอบามา”
วันเดียวกัน พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “Psanitwong Wuttiwangso” ระบุว่า “ใบรับรองจาก ร.พ.รัฐในราชบุรี เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โลหิตวิทยา ที่เดินทางมาตรวจหลวงพ่อธัมมชโยที่วัดด้วยตัวเอง หลวงพ่อท่านไม่ได้เดินทางออกนอกวัด”
โดยก่อนหน้านั้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ก็ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษไทยและอังกฤษระบุว่า “Please share widely!!! ช่วยกันลงชื่อและส่งต่อให้มากที่สุดค่ะ Please sign this White House Petition to help Ven. Dhammajayo asap! If we get 100,000 signatures by June 17, President Obama and his administration will personally respond! Please verify your signature via email as well. ขอเชิญลงชื่อในคำร้องของทำเนียบขาวเพื่อช่วยหลวงพ่อธัมมชโยค่ะ ถ้ามีคนลงชื่อถึง 100,000 คน ภายในวันอาทิตย์ที่ 17 เดือนมิถุนายน ท่านประธานาธิปดีโอบามาและคณะจะมาพิจารณาโดยตัวท่านเองค่ะ ตอนนี้ต้องการรายเซ็น 100,000 ชื่อ โดยเร็วที่สุด (กรุณายืนยันรายเซ็นทางอีเมลด้วยค่ะ) มาร่วมปกป้องหลวงพ่อกันนะคะ ขออนุโมทนาบุญกับลูกหลวงพ่อทุกๆท่านค่ะ” อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเวบไซต์ https://petitions.whitehouse.gov จนถึงเวลา 19.00 น.ของวันที่ 19 พ.ค.59 พบว่ามีผู้เข้าร่วมลงชื่อแล้ว 11,035 ราย ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ต้องให้ได้ 100,000 รายชื่อภายใน 1 เดือน หรือวันที่ 17 มิ.ย.59 ทางทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา จึงจะนำเรื่องขึ้นมาพิจารณา.
.