ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
ช่วงนี้บ้านเมืองมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์พิลึกพิสดารหลายเรื่อง มีทั้งแบบอึ้งทึ่งเสียว ฝนฟ้าพายุช่วยให้ปัญหาภัยแล้งอ่อนแรงไปเยอะ แต่อากาศยังร้อนจัดเหมือนเดิม รัฐบาลคุณท่านได้มีมติหลายเรื่องถูกใจชาวบ้าน แต่เรื่องซุ่มซื้อรถถังจีนทำเอาชาวบ้านอ้าปากค้าง
เรื่องที่ชาวบ้านลุ้นกันอยู่ด้วยใจระทึกคือศาลอาญาออกหมายจับโยเยนะจ๊ะ กำหนดให้เวลาตัดสินใจเสนอตัวต่ออำนาจกฎหมายในวันที่ 26 เดือนนี้ ถ้าไม่ปรากฏตัว ยังต้องดูว่ามาตรการของหน่วยสอบสวนคดีพิเศษว่าจะทำอย่างไร “จากเบาไปหาหนัก”
นักพนันน่าจะมีได้เสียต่อรองบ้างว่าโยเยนะจ๊ะ ซึ่งถูกมองว่ามีอิทธิพลอยู่เหนืออาณาจักรและศาสนาจักรด้วยพลังเงินและจำนวนสาวกเป็นล้านๆ คนจะยอมเสียสภาพ ยอมให้พิมพ์ลายนิ้วมือเป็นจำเลยในคดีน่าอับอายขายหน้าเช่นฟอกเงิน รับของโจรมั้ย
เรื่องพรรค์นี้คนถือตัว อีโก้เยอะ จะไม่ยอมตกเป็นจำเลย เหมือนบุรุษเหลี่ยมร้ายยอมเร่ร่อนอยู่นอกประเทศไทยดีกว่าเป็นนักโทษอยู่ในคุกด้วยคดีอาญาต่างๆ ซึ่งเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมไม่ซื่อ แต่รัฐบาลชาติตะวันตกยอมมองข้ามไปเพราะเห็นว่าเคยทำเป็นเด็กดี
กรณีของโยเยนะจ๊ะเป็นข่าวใหญ่ของสื่อทุกประเภททุกวัน ได้ส่งดีให้ลูกพี่ใหญ่ทำให้ประเด็นช่วงนี้มีปัญหารถโบราณถูกลืมไปชั่วคราว ถือว่าเป็นอานิสงส์ส่งผลบุญเกื้อหนุนกันระหว่างต้นตำรับนิกายและศิษย์เอกซึ่งได้เป็นทรงบารมี ความมั่งคั่งล้ำหน้าลูกพี่ขาใหญ่
ชาวบ้านทั่วไปรอดูว่าโยเยนะจ๊ะจะดิ้นลอดบ่วงกรรมและห่วงโซ่องกฎหมายได้หรือไม่ เพราะตัวประกอบหลักกรณียักยอกเงินให้มาเป็นของโจรเอาไปบริจาคให้สำนักจานบินก็ได้เข้าไปอยู่ในคุก ข้อมูลต่างๆ ทะลักออกมาทำให้ดีเอสไอมีหลักฐานแน่นหนา
ถ้าเป็นสภาวะปกติ ข้าราชการใหญ่แค่ไหนไม่กล้าไปตอแยกับเจ้าสำนัก นอกจากกุมพลังผ้าเหลืองและพวกเครื่องแบบที่งมงายด้วยใจบริสุทธิ์และพวกแสวงหาผลประโยชน์แล้ว การไปยุ่งกับนักเทศน์เสียงทองเงินเยอะ สาวกมีอยู่ทั่วโลก เป็นการหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
อีกเรื่องซึ่งควรจะน่ายินดี คือมีข่าวจากสภาพัฒน์ฯ ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นแล้ว มีอัตราการขยายตัวอย่างต่ำ 3.5 เปอร์เซ็นต์ แถมยังคุยทับสหรัฐอีกว่าชาติมหาอำนาจเบอร์ 1 ยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ การแตกข่าวนี้ได้สร้างความงุนงงให้ชาวบ้านมากกว่าตื่นเต้น
คนที่ดูเหมือนว่าตั้งรับ “ข่าวดี” ไม่ทันคือรองนายกฯ สมคิด และขุนคลังคู่บารมีนั่นแหละ เพราะมองว่ารายงานสภาพัฒน์ฯ ออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเป่านำร่อง เพราะทั้งคู่ได้แสดงความเห็นก่อนหน้านั้นว่า “มีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในอีก 2-3 ปี”
จู่ๆ ฝนตกห่าใหญ่โดยไม่มีเค้าลาง ไม่มีเมฆ ฟ้าไม่ร้อง จะไม่ให้ดูพิลึกได้ไง!
ภาคเอกชนใช้เวลากว่า 1 วันกว่าจะรวบรวมสติเพื่อแสดงความยินดีปนงงงวย เพราะเป็นที่รู้กันว่าปัญหาเงินฝืด เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง อำนาจการซื้อของชาวบ้านฟุบ ยังยากต่อการแก้ไข เสี่ยสมคิดก็ได้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปหลายครกจนแม่น้ำแห้งทั่วประเทศ
เพิ่งจะมีฝนตกน้ำไหลหลากบางพื้นที่สำหรับน้ำพริกครกใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่าน ไปเพียง 2 วัน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คุณชาติชาย พยุหนาวีชัย อ้างศูนย์วิจัยเศรษฐกิจฯ ของธนาคารเองว่าประชาชนฐานรากยังห่วงทิศทางเศรษฐกิจว่ายังไม่ฟื้นตัวนัก
รายงานจากสถาบันอื่นบอกว่าหนี้ครัวเรือนยังอื้อซ่า ธนาคารไม่อยากปล่อยเงินกู้ กลัวหนี้เสียจะหนักหนาสาหัสมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะสภาพเศรษฐกิจยังซึมลึก ก่อนหน้านี้คงจำกันได้ว่าคุณทานผู้นำมีมุมมองต่อผลงานสภาพัฒน์ฯ ในแนวไม่น่าอภิรมย์นัก
รายงานเรื่องเศรษฐกิจฟื้นตัวจึงกลายเป็นเรื่อง “อย่างฮา” ในบรรดาคนวงในรู้ดี! อยากรู้ว่าฟื้นหรือไม่ฟื้น พิสูจน์ง่ายๆ ด้วยการเอามือล้วงกระเป๋าดูว่ามีเงินหรือในทวงหนี้เป็นปึกๆ หรือไม่ ความยากจนหมดไปนานแล้ว เหลือแต่สภาพสิ้นไร้ไม้ตอกไร้ทางออก
มีเรื่องทุเรศในบ้านเมืองสร้างอารมณ์เดือดให้คนไทย ยกเว้นเครือข่ายเหลี่ยมเร่ร่อน คือพฤติกรรมของทูตสหรัฐ ซึ่งไปเจรจากับ รมต. ต่างประเทศของเรา แล้วออกมาแถลงความในใจอย่างเป็นวรรคเป็นเวรเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย การเลือกตั้งในบ้านเรา
มาเยี่ยมเจ้าของบ้าน แล้วยังไม่ทันได้ออกไป ก็ด่าเจ้าของบ้านหน้าตาเฉย! จัดว่าเป็นตัว “อักลี่อเมริกัน” อีกราย ต่อจากแม่นางกุ้งแห้งซึ่งทำตัวเป็นทูตกระโปรงแดงก่อนจากไปได้ดิบได้ดี มีตำแหน่งใหญ่โตในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐทั้งผัวและเมียในขณะนี้
ประเทศไทยยังไม่เคยเหน็บสหรัฐฯ เรื่องคุกอาบู กาเหร็บในอิรัก และคุกที่กวนตานาโมบนเกาะคิวบา ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงทวงบุญคุณเรื่องให้สถานที่ทำคุกลับในบ้านเรา ทั้งๆ ที่มีจริงหรือไม่ก็ไม่มีใครยืนยันนอกจากสื่อฝรั่งซึ่งทำเป็นรู้ดีเรื่องชั่วๆ ของสหรัฐ
เมื่อรมต. ต่างประเทศของเราออกมาจวกทูตอเมริกัน บริวารขี้ข้าท่านเหลี่ยมเร่ร่อนซึ่งยกย่องคุณพ่ออเมริกาก็ออกอาการเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าไปหาเรื่องชาติมหาอำนาจ
พวกลูกๆ เสื้อแดงของคุณพ่ออเมริกา ยังกระดี้กระด๊ากับการพบปะคณะกรรมาธิการของประชาคมยุโรปหรืออียูซึ่งมาตามแนวของคุณพ่ออเมริกา คือทวงประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และอะไรต่ออะไรตามที่นายอเมริกาสั่งมาให้หาเรื่องไทยอย่างต่อเนื่องหลายเรื่อง
คุณนายเห็ดบานก็ยิ้มหน้าบานไม่ยอมหุบ พากขี้ข้าท่านเหลี่ยมนั่งโต๊ะเจ๊าะแจ๊ะกับคณะคุณอายุโรปด้วยอัธยาศัยไม่ตรีอันดียิ่ง ช่วงนี้แม่นางมีคดีขึ้นโรงศาลต่อเนื่อง เมื่อมีคนมาเห็นใจมีหรือจะปล่อยให้ไปง่ายๆ โดยไม่ใช้โอกาสโอดครวญหว่านเสน่ห์ตีกินให้เต็มบ้อง
เมื่อคณะยุโรปไปเยือนค่ายสะตอก็ทำท่าอ้ำอึ้งเมื่อโดนตั้งคำถามหนักๆ ว่าพวกยูเห็น มั้ย ว่าขณะนี้มีความปลอดภัยกว่าช่วงรัฐบาลเลือกตั้งเยอะ และเมื่อพวกขี้ข้ากังฉินเผาเมือง ใช้อาวุธสงครามฆ่าคนกลางเมืองทำไมพวกเอ็งทำเงียบไม่เรียกร้องห่าเหวอะไร?!!
คณะยุโรปทำเป็นงงตีหน้าเซ่อ แล้วอ้อมแอ้มว่า “เออจริงแฮะ! ช่วงนั้นเรารู้สึกอะไรช้า ไม่เต็มที่นัก” นี่แหละพวกเราควรบอกเขาอย่างสุภาพว่าเป็น “พฤติกรรม 2 มาตรฐาน”
ช่วงคุณท่านไปเยือนรัสเซียก็ไปได้ใจ สร้างความสัมพันธ์ชื่นมื่นที่นั่น การได้เพื่อนแท้ ยังดีกว่าเพื่อนเทียม เมื่ออยากได้ผลประโยชน์จากเราพวก “อั๊กลี่อเมริกัน” ยกก้นเรา ยอว่าเป็นเป็น “พันธมิตรสำคัญนอกกลุ่มนาโต” พอเราทำไม่ถูกใจก็เห็นเราเป็นลูกไล่ไก่รองบ่อน
อย่างที่คุณท่านว่านั่นแหละ เอ็งจะไม่ชอบข้าก็ไม่เป็นไร พวกข้าก็อยู่ของข้าอย่างนี้แหละ เพราะพวกข้าไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร! จำได้มั้ย ท่านเหลี่ยมเร่ร่อนยังบอกว่า “ไม่ได้ขอข้าวอเมริกากิน” “ไม่ได้เป็นขี้ข้ายูเอ็น” มาวันนี้พวกขี้ข้าเสื้อแดงทำไมไม่ยอมเชื่อฟังนายทาส
บ้านเรามีเรื่องพิลึกอาเพศสารพัด เราก็อยู่กันแบบ “ทำอะไรตามใจคือไทยแท้” นี่แหละ อีกไม่นานคงได้หาเรื่องฤกษ์งามเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 ยุครัฐบาลคุณท่าน เรื่องโรดแหม็บๆ ประชามติ ซื้อเสียงเลือกตั้งอะไรที่เคยว่านั้น ลืมยาวไปได้เล้ย! ขอบอก!