บอกตรงๆ ว่าเห็นข่าวอาจารย์ นักวิชาการ และศิลปินเสื้อแดง รวม 118 ราย ในนาม “นักกิจกรรมวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย” (กวป.) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะกวางจู ประเทศเกาหลีใต้ คัดค้านการนำผลงานของ รศ.สุธี คุณาวิชยานนท์ ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการชุด ‘The Truth_ to Turn It Over’ ในเทศกาลประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสันติภาพ เพื่อรำลึกเหตุการณ์นองเลือดในปี 2523 แล้วขำ
จดหมายอ้างเหตุผลในการคัดค้านเพราะรศ.สุธีเป็นศิลปินที่สนับสนุนกปปส. และสนับสนุนรัฐประหารขัดกับเจตจำนงของเหตุการณ์กวางจู เกาหลีใต้
เหตุการณ์กวางจูเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2523 ที่ประชาชนชาวกวางจูเมืองใหญ่อันดับ 5 ของเกาหลีใต้รวมตัวกันคัดค้านการรัฐประหารของนายพลชุน ดูฮวาน ซึ่งมีส่งกำลังทหารกว่า 100,000 นาย เข้าปิดล้อมกวางจู แต่ชาวเมืองรวมทั้งตำรวจร่วมกันต่อต้าน ทั้งสองฝ่ายเริ่มยิงต่อสู้กันเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม จนฝ่ายทหารเข้ายึดกวางจูได้เมื่อเวลา 4.00 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 รัฐบาล ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นประชาชน 144 คน ทหาร 22 คน และตำรวจ 4 คน มีผู้บาดเจ็บเป็นประชาชน 127 คน ทหาร 109 คน ตำรวจ 144 คน แต่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ระบุว่าประชาชนอย่างน้อย 165 คนเสียชีวิตระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม มีผู้สูญหาย 65 คน สันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
ต่อมารศ.สุธีได้ทำหนังสือชี้แจงและคัดค้านไปโดยระบุว่า ไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม กปปส.แค่มีแนวคิดบางอย่างร่วมกัน เช่น ต้านรัฐบาลที่ทุจริต ค้านนิรโทษกรรมสุดซอย และไม่ได้เรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร แต่ต้องการให้มีการปฏิรูป
ที่ผมขำเพราะคนเสื้อแดงนอกจากเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว ยังคิดว่าการปกป้องรัฐบาลของทักษิณที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการปกป้องประชาธิปไตย นอกจากทำตัวเป็นเจ้าของ 14 ตุลาและ 6 ตุลาแล้ว ยังทำตัวเป็นเจ้าของเหตุการณ์กวางจูด้วย
ไม่รู้ว่าคนเสื้อแดงมีความสัมพันธ์ตรงไหนกับคนเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตเพื่อต่อต้านรัฐประหาร ในขณะที่คนเสื้อแดงเสียชีวิตเพราะปกป้องระบอบทักษิณ
บอกตรงๆ ว่า ผมทนฟังเสียงฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยด้วยความเอือมระอาปนสมเพช เพราะเพียงแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นเองที่สัมพันธ์กับความเป็นประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเพราะพฤติกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นชนวนให้ประชาชนทุกภาคส่วนออกมาขับไล่นั้น ไม่ใช่ความเป็นประชาธิปไตยแน่ๆ
สิ่งที่คนเสื้อแดงออกมาปกป้อง จึงเป็นการปกป้องรัฐบาลของทักษิณที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ใช้เสียงข้างมากโดยไม่ฟังเสียงข้างน้อย เป็นเผด็จการทางรัฐสภา ลองอธิบายสิว่าการออกกฎหมายเพื่อล้างผิดให้ทักษิณนั้นเป็นประชาธิปไตยตรงไหน และถูกต้องตามหลักนิติธรรมอย่างไร แล้วทำไมประชาชนควรจะนิ่งเฉยกับการใช้อำนาจโดยมิชอบเพียงเพราะรัฐบาลชุดนั้นอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง
ว่าไปแล้วถ้าคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจริงเห็นรัฐบาลใช้อำนาจโดยไม่ชอบก็ต้องออกมาร่วมคัดค้านด้วยไม่ใช่ออกมาต่อต้าน การอ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจึงเป็นเพียงการฉ้อฉลทางวาทกรรมเท่านั้นเอง
รัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้นได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และพ้นจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2556 เพราะ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ ไม่มีประชาชนฝ่ายตรงข้ามคนไหนออกมาขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์หลังทราบผลการเลือกตั้ง ทุกคนเคารพกติกาของระบอบประชาธิปไตยยอมให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศมาเกือบ 2 ปี แต่เมื่อรัฐบาลเสียงข้างมากใช้อำนาจโดยไม่ชอบต่างหากเล่าประชาชนจึงออกมาขับไล่
รัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชายก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เขาไล่เพราะรัฐบาลเหล่านั้นชนะการเลือกตั้ง แต่ไล่เพราะรัฐบาลเหล่านั้นใช้อำนาจโดยไม่ชอบ การต่อสู้กับรัฐบาลของทักษิณทุกชุดก็คือการต่อสู้กับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ไม่ใช่การต่อต้านประชาธิปไตย
แต่ผลลัพธ์จากที่ผู้ชุมนุมออกมาต่อต้านกับรัฐบาลของทักษิณทุกชุดได้รับคือ การใช้กองกำลังติดอาวุธซุ่มโจมตีทำร้ายจนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากแทบทุกครั้ง ไล่มาตั้งแต่การชุมนุมของพันธมิตรฯ มาจนถึงการชุมนุมของ กปปส.และที่ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือ ตำรวจซึ่งรับใช้ระบอบทักษิณไม่เคยทำคดีและหาคนผิดมาลงโทษเลย ถามว่าถ้าคนเสื้อแดงอ้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทำไมถึงนิ่งเฉยกับการใช้อำนาจเถื่อนเช่นนี้
ที่ตลกมากคือ คนเสื้อแดงเห็นว่ารัฐใช้กำลังติดอาวุธมาจัดการกับคนเสื้อแดงที่ติดอาวุธจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่พอฝ่ายตรงข้ามถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเสียชีวิตเช่นเหตุการณ์ 7 ตุลา ฝ่ายเสื้อแดงกลับเห็นว่าเป็นเรื่องที่ชอบแล้วอย่างนี้มันเป็นเจตจำนงของพวกที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้อย่างไร
สื่อบางค่ายให้การสนับสนุนทักษิณ เพราะเมื่อฝ่ายทักษิณมีอำนาจสื่อของค่ายนั้นได้ประโยชน์จากการจัดอีเวนท์ภาครัฐจนมีรายได้มหาศาล ไม่ใช่เพราะสื่อค่ายนั้นสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย แต่แยกไม่ออกระหว่างประชาธิปไตย และการใช้อำนาจโดยมิชอบเพราะมีผลประโยชน์บังตา
แต่ฝ่ายไม่เอาทักษิณสนับสนุนรัฐประหารนี่ย่อมไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตยแน่
ก่อนอื่นต้องเคลียร์ก่อนว่าฝ่ายที่ออกบัตรเชิญรัฐประหารก็คือ ฝ่ายที่สนับสนุนระบอบทักษิณ เพราะถ้าไม่มีการใช้อาวุธสงครามออกมาทำร้ายประชาชนที่ขับไล่รัฐบาลทุกวัน และปล่อยให้เป็นการชุมนุมตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายทหารก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกมาทำการรัฐประหาร
ต้องยอมรับความจริงนะว่า ประชาธิปไตยในบ้านเมืองของเรามีปัญหา เพราะทุกครั้งที่ได้อำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็จะใช้อำนาจโดยมิชอบ บ้านเมืองเดินมาถึงทางตันไร้ทางออกที่ต้องการคนเข้ามาปัดกวาด และปฏิรูปแนวทางของบ้านเมืองกันใหม่ เมื่อเกิดการเข่นฆ่ากันด้วยอาวุธสงครามจนทหารต้องเข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นหนทางเดียวที่จะคลี่คลายวิกฤตของบ้านเมืองเพื่อรีเซ็ตประเทศกันใหม่
ความคาดหวังการเข้ามาของทหารจากประชาชนก่อนกลับไปสู่การเลือกตั้งก็คือ การปฏิรูปประเทศและจัดการกับปัญหาที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งทำไว้ ไม่มีใครสนับสนุนให้รัฐบาลรัฐประหารปกครองประเทศอย่างถาวร และรัฐบาลรัฐประหารก็รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงรัฐบาลเพื่อนำประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงตอกย้ำเรื่องโรดแมปเสมอมา
ถ้ากลับไปสู่การเลือกตั้งแล้วพรรคของทักษิณชนะเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากกลับมาบริหารประเทศอีกก็ไม่มีใครคัดค้าน เว้นเสียแต่ว่าถ้าได้อำนาจแล้วกลับมาใช้อำนาจโดยมิชอบอีก ประชาชนก็ต้องออกมาคัดค้านอีก เพราะการขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมนั้นเป็นวิถีทางหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ
คนที่คัดค้านรัฐบาลที่ใช้อำนาจโดยมิชอบต่างหากคือฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเข้าใจผิดว่ายืนข้างทักษิณแล้วเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
จดหมายอ้างเหตุผลในการคัดค้านเพราะรศ.สุธีเป็นศิลปินที่สนับสนุนกปปส. และสนับสนุนรัฐประหารขัดกับเจตจำนงของเหตุการณ์กวางจู เกาหลีใต้
เหตุการณ์กวางจูเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2523 ที่ประชาชนชาวกวางจูเมืองใหญ่อันดับ 5 ของเกาหลีใต้รวมตัวกันคัดค้านการรัฐประหารของนายพลชุน ดูฮวาน ซึ่งมีส่งกำลังทหารกว่า 100,000 นาย เข้าปิดล้อมกวางจู แต่ชาวเมืองรวมทั้งตำรวจร่วมกันต่อต้าน ทั้งสองฝ่ายเริ่มยิงต่อสู้กันเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม จนฝ่ายทหารเข้ายึดกวางจูได้เมื่อเวลา 4.00 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 รัฐบาล ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นประชาชน 144 คน ทหาร 22 คน และตำรวจ 4 คน มีผู้บาดเจ็บเป็นประชาชน 127 คน ทหาร 109 คน ตำรวจ 144 คน แต่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ระบุว่าประชาชนอย่างน้อย 165 คนเสียชีวิตระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม มีผู้สูญหาย 65 คน สันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว
ต่อมารศ.สุธีได้ทำหนังสือชี้แจงและคัดค้านไปโดยระบุว่า ไม่ใช่สมาชิกกลุ่ม กปปส.แค่มีแนวคิดบางอย่างร่วมกัน เช่น ต้านรัฐบาลที่ทุจริต ค้านนิรโทษกรรมสุดซอย และไม่ได้เรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร แต่ต้องการให้มีการปฏิรูป
ที่ผมขำเพราะคนเสื้อแดงนอกจากเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว ยังคิดว่าการปกป้องรัฐบาลของทักษิณที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการปกป้องประชาธิปไตย นอกจากทำตัวเป็นเจ้าของ 14 ตุลาและ 6 ตุลาแล้ว ยังทำตัวเป็นเจ้าของเหตุการณ์กวางจูด้วย
ไม่รู้ว่าคนเสื้อแดงมีความสัมพันธ์ตรงไหนกับคนเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตเพื่อต่อต้านรัฐประหาร ในขณะที่คนเสื้อแดงเสียชีวิตเพราะปกป้องระบอบทักษิณ
บอกตรงๆ ว่า ผมทนฟังเสียงฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยด้วยความเอือมระอาปนสมเพช เพราะเพียงแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นเองที่สัมพันธ์กับความเป็นประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเพราะพฤติกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นชนวนให้ประชาชนทุกภาคส่วนออกมาขับไล่นั้น ไม่ใช่ความเป็นประชาธิปไตยแน่ๆ
สิ่งที่คนเสื้อแดงออกมาปกป้อง จึงเป็นการปกป้องรัฐบาลของทักษิณที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ใช้เสียงข้างมากโดยไม่ฟังเสียงข้างน้อย เป็นเผด็จการทางรัฐสภา ลองอธิบายสิว่าการออกกฎหมายเพื่อล้างผิดให้ทักษิณนั้นเป็นประชาธิปไตยตรงไหน และถูกต้องตามหลักนิติธรรมอย่างไร แล้วทำไมประชาชนควรจะนิ่งเฉยกับการใช้อำนาจโดยมิชอบเพียงเพราะรัฐบาลชุดนั้นอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง
ว่าไปแล้วถ้าคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจริงเห็นรัฐบาลใช้อำนาจโดยไม่ชอบก็ต้องออกมาร่วมคัดค้านด้วยไม่ใช่ออกมาต่อต้าน การอ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจึงเป็นเพียงการฉ้อฉลทางวาทกรรมเท่านั้นเอง
รัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้นได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และพ้นจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2556 เพราะ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ ไม่มีประชาชนฝ่ายตรงข้ามคนไหนออกมาขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์หลังทราบผลการเลือกตั้ง ทุกคนเคารพกติกาของระบอบประชาธิปไตยยอมให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศมาเกือบ 2 ปี แต่เมื่อรัฐบาลเสียงข้างมากใช้อำนาจโดยไม่ชอบต่างหากเล่าประชาชนจึงออกมาขับไล่
รัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชายก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เขาไล่เพราะรัฐบาลเหล่านั้นชนะการเลือกตั้ง แต่ไล่เพราะรัฐบาลเหล่านั้นใช้อำนาจโดยไม่ชอบ การต่อสู้กับรัฐบาลของทักษิณทุกชุดก็คือการต่อสู้กับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ไม่ใช่การต่อต้านประชาธิปไตย
แต่ผลลัพธ์จากที่ผู้ชุมนุมออกมาต่อต้านกับรัฐบาลของทักษิณทุกชุดได้รับคือ การใช้กองกำลังติดอาวุธซุ่มโจมตีทำร้ายจนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากแทบทุกครั้ง ไล่มาตั้งแต่การชุมนุมของพันธมิตรฯ มาจนถึงการชุมนุมของ กปปส.และที่ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือ ตำรวจซึ่งรับใช้ระบอบทักษิณไม่เคยทำคดีและหาคนผิดมาลงโทษเลย ถามว่าถ้าคนเสื้อแดงอ้างตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทำไมถึงนิ่งเฉยกับการใช้อำนาจเถื่อนเช่นนี้
ที่ตลกมากคือ คนเสื้อแดงเห็นว่ารัฐใช้กำลังติดอาวุธมาจัดการกับคนเสื้อแดงที่ติดอาวุธจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่พอฝ่ายตรงข้ามถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเสียชีวิตเช่นเหตุการณ์ 7 ตุลา ฝ่ายเสื้อแดงกลับเห็นว่าเป็นเรื่องที่ชอบแล้วอย่างนี้มันเป็นเจตจำนงของพวกที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้อย่างไร
สื่อบางค่ายให้การสนับสนุนทักษิณ เพราะเมื่อฝ่ายทักษิณมีอำนาจสื่อของค่ายนั้นได้ประโยชน์จากการจัดอีเวนท์ภาครัฐจนมีรายได้มหาศาล ไม่ใช่เพราะสื่อค่ายนั้นสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย แต่แยกไม่ออกระหว่างประชาธิปไตย และการใช้อำนาจโดยมิชอบเพราะมีผลประโยชน์บังตา
แต่ฝ่ายไม่เอาทักษิณสนับสนุนรัฐประหารนี่ย่อมไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตยแน่
ก่อนอื่นต้องเคลียร์ก่อนว่าฝ่ายที่ออกบัตรเชิญรัฐประหารก็คือ ฝ่ายที่สนับสนุนระบอบทักษิณ เพราะถ้าไม่มีการใช้อาวุธสงครามออกมาทำร้ายประชาชนที่ขับไล่รัฐบาลทุกวัน และปล่อยให้เป็นการชุมนุมตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายทหารก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกมาทำการรัฐประหาร
ต้องยอมรับความจริงนะว่า ประชาธิปไตยในบ้านเมืองของเรามีปัญหา เพราะทุกครั้งที่ได้อำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็จะใช้อำนาจโดยมิชอบ บ้านเมืองเดินมาถึงทางตันไร้ทางออกที่ต้องการคนเข้ามาปัดกวาด และปฏิรูปแนวทางของบ้านเมืองกันใหม่ เมื่อเกิดการเข่นฆ่ากันด้วยอาวุธสงครามจนทหารต้องเข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นหนทางเดียวที่จะคลี่คลายวิกฤตของบ้านเมืองเพื่อรีเซ็ตประเทศกันใหม่
ความคาดหวังการเข้ามาของทหารจากประชาชนก่อนกลับไปสู่การเลือกตั้งก็คือ การปฏิรูปประเทศและจัดการกับปัญหาที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งทำไว้ ไม่มีใครสนับสนุนให้รัฐบาลรัฐประหารปกครองประเทศอย่างถาวร และรัฐบาลรัฐประหารก็รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงรัฐบาลเพื่อนำประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงตอกย้ำเรื่องโรดแมปเสมอมา
ถ้ากลับไปสู่การเลือกตั้งแล้วพรรคของทักษิณชนะเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากกลับมาบริหารประเทศอีกก็ไม่มีใครคัดค้าน เว้นเสียแต่ว่าถ้าได้อำนาจแล้วกลับมาใช้อำนาจโดยมิชอบอีก ประชาชนก็ต้องออกมาคัดค้านอีก เพราะการขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมนั้นเป็นวิถีทางหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ
คนที่คัดค้านรัฐบาลที่ใช้อำนาจโดยมิชอบต่างหากคือฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเข้าใจผิดว่ายืนข้างทักษิณแล้วเป็นฝ่ายประชาธิปไตย