ผู้จัดการรายวัน360- "วิษณุ" ยินดีถกแนวทางสร้างความปรองดองกับ"เสรี" แนะไปตกผลึกทั้งกระบวนการค่อยเสนอมา ห่วงเรื่องแนวทางที่ฝ่ายรัฐชอบ แต่อีกฝ่ายอาจไม่เอา ชี้จะสำเร็จได้ประชาชนต้องให้การยอมรับ "บิ๊กต๊อก" ติงฝ่ายต้าน กม.รอกำหนดโทษ ควรเคารพแนวคิดคนเสนอ เชื่อมีเจตนาดี แนะ "เสรี" เดินหน้าต่อถ้าบริสุทธิ์ใจจริง "อกนิษฐ์" เย้ยสุดท้ายก็แค่พายเรือนวนในอ่าง
วานนี้ (10 พ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นัดหารือเรื่องมาตรการ รอการกำหนดโทษว่า ยังไม่ได้มีการประสานมา แต่อะไรเป็นแนวทางการสร้างความปรองดองรัฐบาลยินดีรับฟังทั้งนั้น เพราะเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว ถ้านายเสรีศึกษาได้ดีแล้ว ตกผลึกแล้ว ก็ให้เสนอมา แต่ข้อสำคัญคือจะต้องได้รับการยอมรับพอสมควรด้วย เพราะเมื่อคิดจะปรองดอง แต่วิธีคิดยังไม่ทันได้ จะเป็นความแตกแยกใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถ้านายเสรีนัดมา ก็ยินดีพบ แต่ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังแนวทาง ช่วยกันคิดแนวทางถึงความเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นไม่ได้ ก็คงต้องบอกให้เขาทราบ เพราะในส่วนรัฐบาลนั้นจะติดอยู่ 3 ข้อ คือ 1. กระบวนการและวิธีการ 2. เวลาที่เหมาะสม และ 3. การยอมรับจากประชาชนมีมากเพียงพอหรือไม่ พักนี้จะโยนหินถามทางอะไร ก็ทำไปเถอะ ไม่เป็นไร แต่เท่าที่ฟังดูยังมีคนเห็นแย้งอยู่ และไม่แน่ใจว่า วิธีการที่นำเสนอออกมาเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะเอาจริง หรือเป็นแค่ถามสุ่มๆไปอย่างนั้น เพราะปัญหาจะติดอยู่ตั้งแต่ว่า จะดำเนินการโดยให้คดีใดเข้ามาอยู่ในข่ายบ้าง ให้บุคคลกระทำผิดประเภทใดบ้าง และรายละเอียดกระบวนการเป็นอย่างไร เนื่องจากพอใช้คำว่า ชะลอการกำหนดโทษ หรือ พักลงโทษ ตรงนี้ความหมายจะต่างจากอภัยโทษ หรือ นิรโทษกรรม ที่หมายความว่า การที่เคยทำไปแล้วไม่เป็นความผิด หรือผิดแต่ไม่มีโทษ ไม่ต้องไปศาล ซึ่งเป็นแนวคิดที่คนคัดค้านกันอยู่ เคยทำมาแล้ว ไม่สำเร็จ
" วันนี้นายเสรีเลยมาคิดแนวทางว่า จะทำอย่างไรให้ไปถึงศาล ให้ไปยืนสารภาพกับศาลว่า ผิดไปแล้ว และกำหนดเงื่อนไขว่า อย่าทำผิด ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยมีมา แต่พอพูดว่าต้องไปศาล ก็มีปัญหาแล้ว เพราะถ้าถามรัฐก็ชอบ แต่ถามอีกฝ่ายเขาอาจไม่ชอบ " นายวิษณุ กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คิดว่าคนที่เสนอเรื่องนี้ มีความตั้งใจ และเจตนาดี โดยคิดว่าระบบนี้น่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้
" ตอนนี้รายละเอียดยังไม่ออกมาเลย แค่พูดถึงแนวคิดที่จะเสนอ ก็ออกมาคัดค้านกันเต็มบ้าน เต็มเมืองไปหมดแล้ว ก็ต้องฟังเขาก่อนซิ เรื่องแบบนี้ต้องเคารพกัน ระบบนี้ต้องเคารพกันซิ คนที่ค้านอาจจะห่วงใย เรื่องโน้น เรื่องนี้ แต่คนที่คิด เขาก็ห่วงใยบ้านเมือง ดังนั้นก็ต้องออกมาให้ความกระจ่างซึ่งกันและกัน ต้องลองฟังดู และฟังอย่างมีสติ ต้องมองในแง่ดีว่า เขามีเจตนาดี เพราะมันอาจจะเป็นหนทางนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ ก็ได้ ผมเองก็อยากเห็นเหมือนกัน ถ้ามันแก้ได้ "
พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกสนช.ในฐานะผู้ที่เคยเสนอตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข กล่าวว่า ข้อเสนอของนายเสรี เหมือนพายเรือวนในอ่าง มีแต่คนออกมาค้าน ฝั่งหนึ่งบอกว่าจะเหมาเข่งหรือไม่ มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร อีกฝั่งหนึ่งก็พูดไปอีกทาง ไม่พ้นกลายเป็นความขัดแย้งอีก ต่างจากสิ่งที่ตนเคยเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข ที่ได้ก้าวข้ามคำว่า ปรองดอง ไปแล้ว แต่เน้นหาทางว่าในอนาคตประเทศของเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร
ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูล ประสานตัวบุคคลมาร่วมงาน แต่คสช.ได้ขอให้ชะลอไว้ก่อน เกรงว่าคนจะสับสน เพราะอยู่ระหว่างกระบวนการทำประชามติร่างรธน. อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่า นายเสรีนำแนวคิดนี้มาจากไหน สนช.เองก็ไม่มีร่างกฎหมายลักษณะนี้อยู่ มองว่าแนวคิดนายเสรี มีหนทางยังอีกยาวไกล ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ สปท.ก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่ากมธ.การเมืองสปท.เอง จะเห็นด้วยกับนายเสรีหรือไม่ จากนั้นต้องผ่านความเห็นชอบจากวิปแม่น้ำ 3 สาย และด่านสุดท้าย ต้องผ่านสนช. ในฐานะผู้พิจารณากฎหมาย
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสปท. กล่าวถึงพ.ร.บ.รอการลงโทษ ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา และรับฟังความเห็นจากหลายๆฝ่าย ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ขอให้เสนอมา จากนั้นเราจึงจะพิจารณาอีกครั้ง ดั้งนั้นข้อเสนอดังกล่าวจึงเป็นแค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่รอบไฟนอล ใครที่ไม่เห็นด้วย ก็ขอให้เสนอมา ก็เท่านั้นเอง ไม่เป็นไร ซึ่งคนที่คัดค้าน เราก็จะขอความเห็นด้วยว่า ถ้าไม่เอาแบบนี้ แล้วมีข้อเสนอ หรือทิศทางที่ดีกว่านี้ อย่างไร ก็ขอให้เสนอเข้ามาด้วย
วานนี้ (10 พ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นัดหารือเรื่องมาตรการ รอการกำหนดโทษว่า ยังไม่ได้มีการประสานมา แต่อะไรเป็นแนวทางการสร้างความปรองดองรัฐบาลยินดีรับฟังทั้งนั้น เพราะเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว ถ้านายเสรีศึกษาได้ดีแล้ว ตกผลึกแล้ว ก็ให้เสนอมา แต่ข้อสำคัญคือจะต้องได้รับการยอมรับพอสมควรด้วย เพราะเมื่อคิดจะปรองดอง แต่วิธีคิดยังไม่ทันได้ จะเป็นความแตกแยกใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถ้านายเสรีนัดมา ก็ยินดีพบ แต่ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังแนวทาง ช่วยกันคิดแนวทางถึงความเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นไม่ได้ ก็คงต้องบอกให้เขาทราบ เพราะในส่วนรัฐบาลนั้นจะติดอยู่ 3 ข้อ คือ 1. กระบวนการและวิธีการ 2. เวลาที่เหมาะสม และ 3. การยอมรับจากประชาชนมีมากเพียงพอหรือไม่ พักนี้จะโยนหินถามทางอะไร ก็ทำไปเถอะ ไม่เป็นไร แต่เท่าที่ฟังดูยังมีคนเห็นแย้งอยู่ และไม่แน่ใจว่า วิธีการที่นำเสนอออกมาเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะเอาจริง หรือเป็นแค่ถามสุ่มๆไปอย่างนั้น เพราะปัญหาจะติดอยู่ตั้งแต่ว่า จะดำเนินการโดยให้คดีใดเข้ามาอยู่ในข่ายบ้าง ให้บุคคลกระทำผิดประเภทใดบ้าง และรายละเอียดกระบวนการเป็นอย่างไร เนื่องจากพอใช้คำว่า ชะลอการกำหนดโทษ หรือ พักลงโทษ ตรงนี้ความหมายจะต่างจากอภัยโทษ หรือ นิรโทษกรรม ที่หมายความว่า การที่เคยทำไปแล้วไม่เป็นความผิด หรือผิดแต่ไม่มีโทษ ไม่ต้องไปศาล ซึ่งเป็นแนวคิดที่คนคัดค้านกันอยู่ เคยทำมาแล้ว ไม่สำเร็จ
" วันนี้นายเสรีเลยมาคิดแนวทางว่า จะทำอย่างไรให้ไปถึงศาล ให้ไปยืนสารภาพกับศาลว่า ผิดไปแล้ว และกำหนดเงื่อนไขว่า อย่าทำผิด ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยมีมา แต่พอพูดว่าต้องไปศาล ก็มีปัญหาแล้ว เพราะถ้าถามรัฐก็ชอบ แต่ถามอีกฝ่ายเขาอาจไม่ชอบ " นายวิษณุ กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า คิดว่าคนที่เสนอเรื่องนี้ มีความตั้งใจ และเจตนาดี โดยคิดว่าระบบนี้น่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้
" ตอนนี้รายละเอียดยังไม่ออกมาเลย แค่พูดถึงแนวคิดที่จะเสนอ ก็ออกมาคัดค้านกันเต็มบ้าน เต็มเมืองไปหมดแล้ว ก็ต้องฟังเขาก่อนซิ เรื่องแบบนี้ต้องเคารพกัน ระบบนี้ต้องเคารพกันซิ คนที่ค้านอาจจะห่วงใย เรื่องโน้น เรื่องนี้ แต่คนที่คิด เขาก็ห่วงใยบ้านเมือง ดังนั้นก็ต้องออกมาให้ความกระจ่างซึ่งกันและกัน ต้องลองฟังดู และฟังอย่างมีสติ ต้องมองในแง่ดีว่า เขามีเจตนาดี เพราะมันอาจจะเป็นหนทางนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ ก็ได้ ผมเองก็อยากเห็นเหมือนกัน ถ้ามันแก้ได้ "
พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกสนช.ในฐานะผู้ที่เคยเสนอตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข กล่าวว่า ข้อเสนอของนายเสรี เหมือนพายเรือวนในอ่าง มีแต่คนออกมาค้าน ฝั่งหนึ่งบอกว่าจะเหมาเข่งหรือไม่ มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร อีกฝั่งหนึ่งก็พูดไปอีกทาง ไม่พ้นกลายเป็นความขัดแย้งอีก ต่างจากสิ่งที่ตนเคยเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข ที่ได้ก้าวข้ามคำว่า ปรองดอง ไปแล้ว แต่เน้นหาทางว่าในอนาคตประเทศของเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร
ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูล ประสานตัวบุคคลมาร่วมงาน แต่คสช.ได้ขอให้ชะลอไว้ก่อน เกรงว่าคนจะสับสน เพราะอยู่ระหว่างกระบวนการทำประชามติร่างรธน. อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่า นายเสรีนำแนวคิดนี้มาจากไหน สนช.เองก็ไม่มีร่างกฎหมายลักษณะนี้อยู่ มองว่าแนวคิดนายเสรี มีหนทางยังอีกยาวไกล ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ สปท.ก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่ากมธ.การเมืองสปท.เอง จะเห็นด้วยกับนายเสรีหรือไม่ จากนั้นต้องผ่านความเห็นชอบจากวิปแม่น้ำ 3 สาย และด่านสุดท้าย ต้องผ่านสนช. ในฐานะผู้พิจารณากฎหมาย
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสปท. กล่าวถึงพ.ร.บ.รอการลงโทษ ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา และรับฟังความเห็นจากหลายๆฝ่าย ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ขอให้เสนอมา จากนั้นเราจึงจะพิจารณาอีกครั้ง ดั้งนั้นข้อเสนอดังกล่าวจึงเป็นแค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่รอบไฟนอล ใครที่ไม่เห็นด้วย ก็ขอให้เสนอมา ก็เท่านั้นเอง ไม่เป็นไร ซึ่งคนที่คัดค้าน เราก็จะขอความเห็นด้วยว่า ถ้าไม่เอาแบบนี้ แล้วมีข้อเสนอ หรือทิศทางที่ดีกว่านี้ อย่างไร ก็ขอให้เสนอเข้ามาด้วย