ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
ยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง คนชนชั้นกลางรู้สึกถึงสภาวะบีบคั้นด้านค่าครองชีพ ความมั่นคงของ อนาคต ยิ่งวิกฤตการเมือง สังคมยังไร้ทางออก เจอใครมักมีคําถาม “บ้านเมืองเราจะไปกันอย่างไรกันนี่?” แสดงว่าคนถามอาจไปถามหลายคนแล้วแต่ไม่ได้คํา ตอบเป็นที่น่าพอใจ
ต้องบอกว่าไม่มีใครรู้แน่ชัด ไปถามพวกโหร โหรก็ว่าไปตามวิชาที่ได้ร่ําเรียนมา คำทํานายไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตําราประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและประวัติศาสตร์ แม้กระทั่งผู้มีอํานาจกําหนดชะตากรรมบ้านเมืองขณะนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร
ทุกวันนี้คงมีบางคนรู้สึกหวาดเสียวว่าจะลงจากหลังเสือได้อย่างไร เพราะมีพวกคอยจ้องคิดบัญชีอยู่ ทางเลือกเฉพาะหน้าก็ต้องลากยาว จนกว่าเสือจะพาเตลิดไป ผ่านต้นไม้ใหญ่อาจฉวยจังหวะคว้ากิ่งแล้วโหนตัวขึ้นไปอยู่บนต้น หลบเขี้ยวเสือและพวกรอเล่นงาน
ผู้มีอํานาจประกาศว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแหม็บๆเลือกตั้งปี 2560 หลังจากประชามติแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีใครเชื่อมั่นว่าจะมีประชามติตามที่ว่าหรือไม่ แม้จะมีเวลาอีก 3-4 เดือนข้างหน้า เมื่อมีแล้วจะผ่านหรือไม่ ก็ยังเป็นประเด็นสําหรับการคาดเดาต่อไป
จากนี้ไปกว่าจะถึงวันประชามติ ยังมีเงื่อนไขใหม่และเก่าพร้อมจะยกระดับให้กลายเป็นตัวแปร ซึ่งอาจทําให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และเข้าทางบางกลุ่มซึ่งไม่ต้องการทั้งประชามติไม่ต้องการเลือกตั้ง อยากให้สถานการณ์พาไปให้อยู่ยาวๆ ด้วยกฎหมายเข้ม
ประชาธิปไตยเรอะ? ไม่ต้องมีกันแล้ว อยู่แบบไทยๆ นี่แหละ ดูเงื่อนไขต่างๆ แล้ว มีรัฐธรรมนูญก็ใช่ว่าประชาชนจะมีสิทธิเสรีภาพเหมือนแต่ก่อน เพราะมีกฎหมาย ข้อบังคับควบคุมการเคลื่อนไหว กิจกรรมชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มกดดันสาธารณะต่างๆ ด้วย
อยู่แบบนี้ ชีวิตชาวบ้าน บรรยากาศโดยรวมจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าในแง่เศรษฐกิจ มีแต่พวกมองโลกสวย พวกเครือข่ายธุรกิจเจ้าสัว กลุ่มผลประโยชน์อิงอํานาจเท่านั้นที่จะยังไปได้ ชาวบ้านทั่วไป มนุษย์เงินเดือนอาจมีรายได้ประจํา แต่ใช่ว่าจะมีอะไรแน่นอนที่ไหน
อีกไม่นาน จะมีบัณฑิตจบใหม่กว่า 5 แสนคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และจะมีงานที่ไหนรองรับเมื่อบริษัทต่างๆ พยายามอยู่รอดด้วยสายป่านมานานกว่า 1 ปีแล้ว และจะเป็นสายเปื่อยอีกไม่นาน ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง ทุกวันนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัว
ความเชื่อมั่นในระบบ ในผู้กุมอํานาจ ในฝีมือการบริหารบ้านเมืองอยู่ในระดับต่ํา ยิ่งมีปัญหาการเมืองลูกผีลูกคน เจอขบวนการป่วนไร้ราคาแต่ผู้มีอํานาจเอาไม่อยู่ สร้างความน่าเบื่อหน่ายกับคําคุยโวสลับกับคําขู่คําราม ทําเอาชาวบ้านปลงว่าอะไรจะเกิดก็ช่างมัน
อย่างน้อยให้มีความเคลื่อนไหว เกิดพลวัต ดีกว่าเป็นน้ำเน่านิ่งๆ ไร้ทิศทางแบบนี้!
ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเรอะ? จะเป็นกบเลือกนายเรอะ? หรือจะให้ขบวนการเหลี่ยมกลับมากุมอํานาจแล้วโกงกินเหมือนเดิม? มีคำถามเชิงเยาะจากพวกมองโลกสวยด้วยตาคนอื่นที่ถูกคนจัดฉากให้ดู ทำให้คนที่เคยคิดเอง กลายเป็นพลเมืองบ้องตื้นว่านอนสอนง่าย
และยังไม่รู้ตัวด้วยว่าได้ตกเป็นตัวประกันภายใต้ภาวะคำขู่! ทำให้คนบนแผ่นดินนี้ตกอยู่ในสภาพพลเมืองจำยอม ทำให้ผู้มีอำนาจบางคนชักเหลิง นึกว่าบ้านเมืองเป็นสมบัติส่วนตัวจะจัดการอย่างไรก็ได้ พลเมืองห้ามมีปากเสียงให้เสียบรรยากาศปรองดองกํามะลอ
เมื่อเห็นชาวบ้านอยู่ในสภาพเซื่องซึมเพราะมีกฎหมายกดหัวอยู่ ความเหลิงทําให้เกิดความลําพอง พูดจาชักจะไม่เกรงใจประชาชนคนเสียภาษีเป็นหุ้นส่วนประเทศ จากลําพองจากนี้ไปต้องรอดูว่าใครจะยกระดับเข้าสู่ความโอหัง แล้วจะรู้ว่าอยู่ยาวได้หรือไม่
ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เป็นบทเรียน แต่มักจะมีบางพวกที่เชื่อว่าตัวเองฉลาด ไม่ก้าวพลาดเหมือนรุ่นพี่ ทําอะไรด้วยความระวัง มีกฎหมายคุ้มครอง บางประเทศมีผู้นําเผด็จการทรราชโหดใจถึง จะแสดงความอํามหิตอุ้มฆ่าพาไปตายหายตัวเป็นหมื่นๆ คน
ผลสุดท้ายตัวแสบโหดๆ เผชิญชะตากรรมไม่น่าอภิรมย์ไม่ตายดี หรืออย่างดีก็ติดคุกยาว ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย มีตัวอย่างแต่ยังไม่รู้สึกเข็ดกลัว
ถามอีกครั้งซิ บ้านเมืองจะไปอย่างไร? มี 3 ทางเลือกคือเชื่อผู้นํา ชาติจะพ้นภัยหรือประสบความหายนะหรือไม่ต้องรอการพิสูจน์ อีกทางเลือกคือตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทเตรียมรับสถานการณ์ทุกประเภท ถ้าดีก็ดีไป ถ้าเลวร้ายก็ไม่ลําบากมากเหมือนคนอื่นๆ
อีกทางเลือกคือเข้ามีส่วนร่วมในกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้มีอํานาจทําการปฏิรูปบ้านเมืองอย่างจริงจังจริงใจเห็นบ้านเมือง ลืมเรื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นเป้าหมายประการเดียว ถ้าทําให้อย่างนี้ มีคนรักชาติจริงจะทําให้บ้านเมืองไปรอด
ทุกวันนี้มีสิ่งบอกเหตุอย่างเช่นกรณีสุดท้ายหรือไม่? อ๋อ! มีแน่! มีแต่ลมปาก ราคาคุยสลับกับคําพูดที่ถูกคนรู้ทันมองว่าอยู่ในข่ายเพ้อเจ้อ บางรายนับวันอาการยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมีอาการคล้ายหลงตัวเอง คิดว่าเป็นผู้มีบุญมาโปรดคนยากไร้ด้อยโอกาส
นอกจากคนรู้ทัน เริ่มมีชุมชนคนตาสว่าง สร่างจากพิษความลุ่มหลงมัวเมาเห็นคนเดินดินเป็นเทพเจ้า ยิ่งเห็นสมุนคนมีอํานาจวางแผนหักด้ามพร้าด้วยเข่า เร่งช่วยเหลือคนทําผิดกฎหมายให้รอดพ้นโทษอาญา ก็ยิ่งเห็นสภาวะง่อนแง่นของอนาคตประชารัฐไทย
ถ้าผู้ใหญ่ผู้โตใน ป.ป.ช.ยังคิดช่วยเหลือจําเลยคดีอาญา ตํารวจลุยประชาชนอย่างที่เป็นข่าว ถ้าเกิดขึ้นจริงเท่ากับเป็นตัวเร่งให้เกิดวิกฤตการเมืองเร็วขึ้น เมื่อชาวบ้านเลิกหวังว่าภายใต้อํานาจลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ขณะที่การโกงกินยังมีเหมือนเดิม จะไม่มีอะไรดีขึ้นแน่
คุณท่านและพวกต้องตระหนักว่าความไม่พอใจในผลงานในกลุ่มชาวบ้านเพิ่มทุกเวลาขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและชุมชน ขณะที่มีไฟสุมขอนอยู่หลายกอง อํานาจที่มีอยู่เป็นการเกาไม่ถูกที่คัน การป่วนของเครือข่ายท่านเหลี่ยมเป็นการทดลองความใจถึง
ถ้ายังดูดาย ดูเบากับสถานการณ์ ระวังจะมีจุดร่วมซึ่งต่อให้มีกฎหมายเข้มงวดอย่างไรก็เอาไม่อยู่เช่นกัน โดนตํารวจถล่มสุดโหดหน้าสภาฯ ตั้งแต่เช้ายันดึกด้วยอาวุธสารพัดก็ยังมีคนไม่ยอมถอย พวกที่รวยเยอะแล้วจากการเร่งกอบโกยจะกล้าเสี่ยงหรือ
ปัญหาคนจะไม่มีแผ่นดินอยู่น่าจะมีภาคใหม่ ถ้ายังมีคนลําพองในอํานาจ โอหังจนหลงนึกว่าชาวบ้านไร้น้ำยา ตัวเองคงไม่พลาด ลืมหรือยัง?...เคยมีเสียงร่ําลือยุคหนึ่งว่าคุณนายของนักเผด็จการรีบเผ่นขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศจนนุ่งกางเกงในไม่ทัน.
โดย โสภณ องค์การณ์
ยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง คนชนชั้นกลางรู้สึกถึงสภาวะบีบคั้นด้านค่าครองชีพ ความมั่นคงของ อนาคต ยิ่งวิกฤตการเมือง สังคมยังไร้ทางออก เจอใครมักมีคําถาม “บ้านเมืองเราจะไปกันอย่างไรกันนี่?” แสดงว่าคนถามอาจไปถามหลายคนแล้วแต่ไม่ได้คํา ตอบเป็นที่น่าพอใจ
ต้องบอกว่าไม่มีใครรู้แน่ชัด ไปถามพวกโหร โหรก็ว่าไปตามวิชาที่ได้ร่ําเรียนมา คำทํานายไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตําราประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและประวัติศาสตร์ แม้กระทั่งผู้มีอํานาจกําหนดชะตากรรมบ้านเมืองขณะนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร
ทุกวันนี้คงมีบางคนรู้สึกหวาดเสียวว่าจะลงจากหลังเสือได้อย่างไร เพราะมีพวกคอยจ้องคิดบัญชีอยู่ ทางเลือกเฉพาะหน้าก็ต้องลากยาว จนกว่าเสือจะพาเตลิดไป ผ่านต้นไม้ใหญ่อาจฉวยจังหวะคว้ากิ่งแล้วโหนตัวขึ้นไปอยู่บนต้น หลบเขี้ยวเสือและพวกรอเล่นงาน
ผู้มีอํานาจประกาศว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแหม็บๆเลือกตั้งปี 2560 หลังจากประชามติแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีใครเชื่อมั่นว่าจะมีประชามติตามที่ว่าหรือไม่ แม้จะมีเวลาอีก 3-4 เดือนข้างหน้า เมื่อมีแล้วจะผ่านหรือไม่ ก็ยังเป็นประเด็นสําหรับการคาดเดาต่อไป
จากนี้ไปกว่าจะถึงวันประชามติ ยังมีเงื่อนไขใหม่และเก่าพร้อมจะยกระดับให้กลายเป็นตัวแปร ซึ่งอาจทําให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และเข้าทางบางกลุ่มซึ่งไม่ต้องการทั้งประชามติไม่ต้องการเลือกตั้ง อยากให้สถานการณ์พาไปให้อยู่ยาวๆ ด้วยกฎหมายเข้ม
ประชาธิปไตยเรอะ? ไม่ต้องมีกันแล้ว อยู่แบบไทยๆ นี่แหละ ดูเงื่อนไขต่างๆ แล้ว มีรัฐธรรมนูญก็ใช่ว่าประชาชนจะมีสิทธิเสรีภาพเหมือนแต่ก่อน เพราะมีกฎหมาย ข้อบังคับควบคุมการเคลื่อนไหว กิจกรรมชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มกดดันสาธารณะต่างๆ ด้วย
อยู่แบบนี้ ชีวิตชาวบ้าน บรรยากาศโดยรวมจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าในแง่เศรษฐกิจ มีแต่พวกมองโลกสวย พวกเครือข่ายธุรกิจเจ้าสัว กลุ่มผลประโยชน์อิงอํานาจเท่านั้นที่จะยังไปได้ ชาวบ้านทั่วไป มนุษย์เงินเดือนอาจมีรายได้ประจํา แต่ใช่ว่าจะมีอะไรแน่นอนที่ไหน
อีกไม่นาน จะมีบัณฑิตจบใหม่กว่า 5 แสนคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และจะมีงานที่ไหนรองรับเมื่อบริษัทต่างๆ พยายามอยู่รอดด้วยสายป่านมานานกว่า 1 ปีแล้ว และจะเป็นสายเปื่อยอีกไม่นาน ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง ทุกวันนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัว
ความเชื่อมั่นในระบบ ในผู้กุมอํานาจ ในฝีมือการบริหารบ้านเมืองอยู่ในระดับต่ํา ยิ่งมีปัญหาการเมืองลูกผีลูกคน เจอขบวนการป่วนไร้ราคาแต่ผู้มีอํานาจเอาไม่อยู่ สร้างความน่าเบื่อหน่ายกับคําคุยโวสลับกับคําขู่คําราม ทําเอาชาวบ้านปลงว่าอะไรจะเกิดก็ช่างมัน
อย่างน้อยให้มีความเคลื่อนไหว เกิดพลวัต ดีกว่าเป็นน้ำเน่านิ่งๆ ไร้ทิศทางแบบนี้!
ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเรอะ? จะเป็นกบเลือกนายเรอะ? หรือจะให้ขบวนการเหลี่ยมกลับมากุมอํานาจแล้วโกงกินเหมือนเดิม? มีคำถามเชิงเยาะจากพวกมองโลกสวยด้วยตาคนอื่นที่ถูกคนจัดฉากให้ดู ทำให้คนที่เคยคิดเอง กลายเป็นพลเมืองบ้องตื้นว่านอนสอนง่าย
และยังไม่รู้ตัวด้วยว่าได้ตกเป็นตัวประกันภายใต้ภาวะคำขู่! ทำให้คนบนแผ่นดินนี้ตกอยู่ในสภาพพลเมืองจำยอม ทำให้ผู้มีอำนาจบางคนชักเหลิง นึกว่าบ้านเมืองเป็นสมบัติส่วนตัวจะจัดการอย่างไรก็ได้ พลเมืองห้ามมีปากเสียงให้เสียบรรยากาศปรองดองกํามะลอ
เมื่อเห็นชาวบ้านอยู่ในสภาพเซื่องซึมเพราะมีกฎหมายกดหัวอยู่ ความเหลิงทําให้เกิดความลําพอง พูดจาชักจะไม่เกรงใจประชาชนคนเสียภาษีเป็นหุ้นส่วนประเทศ จากลําพองจากนี้ไปต้องรอดูว่าใครจะยกระดับเข้าสู่ความโอหัง แล้วจะรู้ว่าอยู่ยาวได้หรือไม่
ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เป็นบทเรียน แต่มักจะมีบางพวกที่เชื่อว่าตัวเองฉลาด ไม่ก้าวพลาดเหมือนรุ่นพี่ ทําอะไรด้วยความระวัง มีกฎหมายคุ้มครอง บางประเทศมีผู้นําเผด็จการทรราชโหดใจถึง จะแสดงความอํามหิตอุ้มฆ่าพาไปตายหายตัวเป็นหมื่นๆ คน
ผลสุดท้ายตัวแสบโหดๆ เผชิญชะตากรรมไม่น่าอภิรมย์ไม่ตายดี หรืออย่างดีก็ติดคุกยาว ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย มีตัวอย่างแต่ยังไม่รู้สึกเข็ดกลัว
ถามอีกครั้งซิ บ้านเมืองจะไปอย่างไร? มี 3 ทางเลือกคือเชื่อผู้นํา ชาติจะพ้นภัยหรือประสบความหายนะหรือไม่ต้องรอการพิสูจน์ อีกทางเลือกคือตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทเตรียมรับสถานการณ์ทุกประเภท ถ้าดีก็ดีไป ถ้าเลวร้ายก็ไม่ลําบากมากเหมือนคนอื่นๆ
อีกทางเลือกคือเข้ามีส่วนร่วมในกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้มีอํานาจทําการปฏิรูปบ้านเมืองอย่างจริงจังจริงใจเห็นบ้านเมือง ลืมเรื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นเป้าหมายประการเดียว ถ้าทําให้อย่างนี้ มีคนรักชาติจริงจะทําให้บ้านเมืองไปรอด
ทุกวันนี้มีสิ่งบอกเหตุอย่างเช่นกรณีสุดท้ายหรือไม่? อ๋อ! มีแน่! มีแต่ลมปาก ราคาคุยสลับกับคําพูดที่ถูกคนรู้ทันมองว่าอยู่ในข่ายเพ้อเจ้อ บางรายนับวันอาการยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมีอาการคล้ายหลงตัวเอง คิดว่าเป็นผู้มีบุญมาโปรดคนยากไร้ด้อยโอกาส
นอกจากคนรู้ทัน เริ่มมีชุมชนคนตาสว่าง สร่างจากพิษความลุ่มหลงมัวเมาเห็นคนเดินดินเป็นเทพเจ้า ยิ่งเห็นสมุนคนมีอํานาจวางแผนหักด้ามพร้าด้วยเข่า เร่งช่วยเหลือคนทําผิดกฎหมายให้รอดพ้นโทษอาญา ก็ยิ่งเห็นสภาวะง่อนแง่นของอนาคตประชารัฐไทย
ถ้าผู้ใหญ่ผู้โตใน ป.ป.ช.ยังคิดช่วยเหลือจําเลยคดีอาญา ตํารวจลุยประชาชนอย่างที่เป็นข่าว ถ้าเกิดขึ้นจริงเท่ากับเป็นตัวเร่งให้เกิดวิกฤตการเมืองเร็วขึ้น เมื่อชาวบ้านเลิกหวังว่าภายใต้อํานาจลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ขณะที่การโกงกินยังมีเหมือนเดิม จะไม่มีอะไรดีขึ้นแน่
คุณท่านและพวกต้องตระหนักว่าความไม่พอใจในผลงานในกลุ่มชาวบ้านเพิ่มทุกเวลาขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและชุมชน ขณะที่มีไฟสุมขอนอยู่หลายกอง อํานาจที่มีอยู่เป็นการเกาไม่ถูกที่คัน การป่วนของเครือข่ายท่านเหลี่ยมเป็นการทดลองความใจถึง
ถ้ายังดูดาย ดูเบากับสถานการณ์ ระวังจะมีจุดร่วมซึ่งต่อให้มีกฎหมายเข้มงวดอย่างไรก็เอาไม่อยู่เช่นกัน โดนตํารวจถล่มสุดโหดหน้าสภาฯ ตั้งแต่เช้ายันดึกด้วยอาวุธสารพัดก็ยังมีคนไม่ยอมถอย พวกที่รวยเยอะแล้วจากการเร่งกอบโกยจะกล้าเสี่ยงหรือ
ปัญหาคนจะไม่มีแผ่นดินอยู่น่าจะมีภาคใหม่ ถ้ายังมีคนลําพองในอํานาจ โอหังจนหลงนึกว่าชาวบ้านไร้น้ำยา ตัวเองคงไม่พลาด ลืมหรือยัง?...เคยมีเสียงร่ําลือยุคหนึ่งว่าคุณนายของนักเผด็จการรีบเผ่นขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศจนนุ่งกางเกงในไม่ทัน.