ผู้จัดการรายวัน360-ดีเอสไอออกหมายเรียก "ธัมมชโย" ครั้งที่ 3 รับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงสหกรณ์คลองจั่นในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ทนายยันขอหารือก่อน จะไปตามนัดหรือไม่ หัวหมอขู่ฟ้องกลับดีเอสไอ หลังศาลไม่ออกหมายจับ "บิ๊กต๊อก"ไม่สน ฟ้องมาได้เลย ยันทำคดีตรงไปตรงมา "ไพสิฐ"เมินเข้าวัดตรวจขา เหตุออกหมายเรียกซ้ำไปแล้ว โลกออนไลน์แชร์คลิปกระหน่ำ ธัมมชโยเดินปร๋อ ไร้แววอาพาธ ลูกศิษย์ออกแก้ตัวปฏิบัติศาสนกิจมากเลยป่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2559 เพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีรับเช็คเงินบริจาคจากอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในคดีพิเศษที่ 27/2559 และต่อมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหายังไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับแพทย์ได้ให้ความเห็น ให้งดภารกิจ 15 วัน เนื่องจากมีอาการอาพาธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วานนี้ (27 เม.ย.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อัยการร่วมสอบสวน และที่ปรึกษาคดีพิเศษ ได้ประชุมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการให้สอดคล้องกับเหตุผลของศาล และมีมติกำหนดให้ออกหมายเรียกพระธัมมชโย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ครั้งที่ 3 ในวันที่ 16 พ.ค.2559 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 7
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยึดแนวคำวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก จึงมีมติให้เรียกพระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง เมื่อครบกำหนดตามที่แพทย์มีความเห็นให้งดภารกิจ 15 วันโดยทันที โดยจะเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 พ.ค.2559 และเป็นการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3
นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย กล่าวว่า ทราบข่าวดีเอสไอออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 แต่ไม่ได้ประสานกับตนโดยตรง ทราบข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน ซึ่งจะมีการปรึกษาหารือกับทางวัดพระธรรมกายอีกครั้งว่าจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกหรือไม่ เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน
สำหรับกรณีที่ศาลอาญายกคำร้องพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไม่ออกหมายจับพระธัมมชโย แสดงให้เห็นว่า ศาลพิจารณาแล้วว่าเจ้าอาวาสไม่ได้คิดจะหลบหนี แต่มีอาการป่วย ส่วนจะมีการฟ้องกลับคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสัมพันธ์กล่าวอีกว่า คดีนี้มีการเร่งรัดมากเป็นพิเศษ โดยดีเอสไอไม่เคยเข้ามาสอบสวนหรือสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่จะแจ้งข้อกล่าวหาเลย เป็นเรื่องที่ผิดปกติกว่าคดีอื่นๆ
ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า การทำคดีนี้ จะทำเช่นเดียวกันกับทุกคดี และได้มีการส่งหมายเรียกไปครั้งที่ 3 แล้ว ส่วนทีมทนายของพระธัมมชโยจะมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ก็ฟ้องมาได้เลย เพราะเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีที่ทีมทนายความของวัดพระธรรมกายต้องการให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจอาการอาพาธและขาที่บวมของพระธัมมชโยนั้น คงไม่เข้าไปตรวจ เพราะได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 3 ไปแล้ว โดยยืนยันการดำเนินการของดีเอสไอในคดีนี้ เป็นไปตามขั้นตอนปกติ และการออกหมายเรียกครั้งใหม่ ก็ดำเนินการตามหลักการ
วันเดียวกันนี้ โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปพระธัมมชโย ขณะกำลังปฏิบัติศาสนกิจ เดินพบปะ และพูดคุยกับลูกศิษย์ที่เดินทางมาร่วมงานพิธีอย่างเป็นปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวัดพระธรรมกายที่ระบุว่า พระธัมมชโย มีอาการอาพาธหนัก จนไม่สามารถเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้
รายงานข่าว ระบุว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นคลิปที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้แฝงตัวเข้าไปเป็นผู้ร่วมพิธี และได้บันทึกภาพดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา ทำให้ดีเอสไอส เชื่อว่าพระธัมมชโย ไม่ได้อาพาธหนักอย่างที่มีการกล่าวอ้าง จึงนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ท้ายที่สุดศาลได้พิจารณายกเลิกคำร้องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเว็บไซต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้โพสต์แถลงการณ์ลงชื่อ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ว่า เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 เวลา 13.30 น. ก่อนที่พระธัมมชโยมีอาการเจ็บป่วยฉับพลัน อันเนื่องมาจากการร่วมประกอบพิธีหล่อรูปเหมือนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และศาสนกิจเป็นเวลา 3 ชั่วโมง จนเกิดอาการป่วยมากขึ้น คณะแพทย์ถวายคำแนะนำให้หยุดปฏิบัติศาสนกิจทุกอย่างเป็นเวลา 15 วัน เพื่อรักษาตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2559 เพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีรับเช็คเงินบริจาคจากอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในคดีพิเศษที่ 27/2559 และต่อมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหายังไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับแพทย์ได้ให้ความเห็น ให้งดภารกิจ 15 วัน เนื่องจากมีอาการอาพาธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วานนี้ (27 เม.ย.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อัยการร่วมสอบสวน และที่ปรึกษาคดีพิเศษ ได้ประชุมหารือเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการให้สอดคล้องกับเหตุผลของศาล และมีมติกำหนดให้ออกหมายเรียกพระธัมมชโย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ครั้งที่ 3 ในวันที่ 16 พ.ค.2559 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 7
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยึดแนวคำวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก จึงมีมติให้เรียกพระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง เมื่อครบกำหนดตามที่แพทย์มีความเห็นให้งดภารกิจ 15 วันโดยทันที โดยจะเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 พ.ค.2559 และเป็นการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3
นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย กล่าวว่า ทราบข่าวดีเอสไอออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 แต่ไม่ได้ประสานกับตนโดยตรง ทราบข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน ซึ่งจะมีการปรึกษาหารือกับทางวัดพระธรรมกายอีกครั้งว่าจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกหรือไม่ เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน
สำหรับกรณีที่ศาลอาญายกคำร้องพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไม่ออกหมายจับพระธัมมชโย แสดงให้เห็นว่า ศาลพิจารณาแล้วว่าเจ้าอาวาสไม่ได้คิดจะหลบหนี แต่มีอาการป่วย ส่วนจะมีการฟ้องกลับคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสัมพันธ์กล่าวอีกว่า คดีนี้มีการเร่งรัดมากเป็นพิเศษ โดยดีเอสไอไม่เคยเข้ามาสอบสวนหรือสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่จะแจ้งข้อกล่าวหาเลย เป็นเรื่องที่ผิดปกติกว่าคดีอื่นๆ
ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า การทำคดีนี้ จะทำเช่นเดียวกันกับทุกคดี และได้มีการส่งหมายเรียกไปครั้งที่ 3 แล้ว ส่วนทีมทนายของพระธัมมชโยจะมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ก็ฟ้องมาได้เลย เพราะเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีที่ทีมทนายความของวัดพระธรรมกายต้องการให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจอาการอาพาธและขาที่บวมของพระธัมมชโยนั้น คงไม่เข้าไปตรวจ เพราะได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 3 ไปแล้ว โดยยืนยันการดำเนินการของดีเอสไอในคดีนี้ เป็นไปตามขั้นตอนปกติ และการออกหมายเรียกครั้งใหม่ ก็ดำเนินการตามหลักการ
วันเดียวกันนี้ โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปพระธัมมชโย ขณะกำลังปฏิบัติศาสนกิจ เดินพบปะ และพูดคุยกับลูกศิษย์ที่เดินทางมาร่วมงานพิธีอย่างเป็นปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวัดพระธรรมกายที่ระบุว่า พระธัมมชโย มีอาการอาพาธหนัก จนไม่สามารถเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้
รายงานข่าว ระบุว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นคลิปที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้แฝงตัวเข้าไปเป็นผู้ร่วมพิธี และได้บันทึกภาพดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา ทำให้ดีเอสไอส เชื่อว่าพระธัมมชโย ไม่ได้อาพาธหนักอย่างที่มีการกล่าวอ้าง จึงนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ท้ายที่สุดศาลได้พิจารณายกเลิกคำร้องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเว็บไซต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้โพสต์แถลงการณ์ลงชื่อ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ว่า เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2559 เวลา 13.30 น. ก่อนที่พระธัมมชโยมีอาการเจ็บป่วยฉับพลัน อันเนื่องมาจากการร่วมประกอบพิธีหล่อรูปเหมือนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และศาสนกิจเป็นเวลา 3 ชั่วโมง จนเกิดอาการป่วยมากขึ้น คณะแพทย์ถวายคำแนะนำให้หยุดปฏิบัติศาสนกิจทุกอย่างเป็นเวลา 15 วัน เพื่อรักษาตัว
