MGR Online - ทนายวัดพระธรรมกาย แจ้งความเอาผิดคนปลอมลายเซ็น “ธัมมชโย” - “บิ๊กต๊อก” เผย ทุกคนมีสิทธิฟ้องยัน “ดีเอสไอ” ทำคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (28 เม.ย.) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระธัมมชโย นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ใช้เอกสารปลอมเพื่อกล่าวหาพระธัมมชโย รวมทั้งได้มีเอกสารจาก สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย มาเผยแพร่ ซึ่งรายละเอียด ดังนี้
“เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 14.30 น. เศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล สำนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และ คณะ ได้นำเอกสารสำเนาเช็ค ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 0104455 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2552 สั่งจ่ายพระราชภาวนาวิสุทธิ์ จำนวนเงิน 100,000,000.00 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) มาแสดงต่อหน้าพระเทพญาณมหามุนี เพื่อสอบถามว่า พระเทพญาณมหามุนี ได้เคยเห็นเช็ค หรือได้รับเช็คฉบับดังกล่าว หรือไม่ ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีได้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทราบว่าไม่เคยเห็นและไม่เคยได้รับเช็คฉบับดังกล่าว
จึงได้ทราบว่าได้มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน และมีลายเซ็นกำกับหลังเช็ค ซึ่งพระเทพญาณมหามุนี ได้ปฏิเสธลายเซ็นที่ปรากฏด้านหลังเช็คฉบับดังกล่าว ว่า ไม่ใช่ลายเซ็นท่าน และไม่มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเข้าบัญชีพระราชภาวนาสุทธิ์ หรือ พระเทพญาณมหามุนี และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้บันทึกการให้ปากคำไว้แล้ว
พระเทพญาณมหามุนี จึงได้ทราบว่า มีการนำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้ในนามท่าน เป็นเหตุให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ทนายสัมพันธ์ ผู้รับมอบอำนาจจากพระเทพญาณมหามุนี จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้ หากมีผู้ใดได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐาน หรืออ้างอิงทำให้พระเทพญาณมหามุนีได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งขอสงวนสิทธิที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป”
ต่อมา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีทนายความของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไปดำเนินการแจ้งความกับดีเอสไอ เมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกันที่ผ่านมา ว่า ทุกคนมีสิทธิ์สามารถทำได้ และ ดีเอสไอ ได้ทำตามคำวินิจฉัยของศาลโดยให้เวลาตามกรอบกำหนด ทั้งนี้ การที่ศาลไม่ได้อนุมัติออกหมายจับทางเราก็ยอมรับเพราะต้องทำตามกฎหมายแต่ ดีเอสไอ มีหน้าที่จะต้องชี้แจงกับสังคมให้ได้ว่าใครผิดใครถูก
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวกับ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพียงคนเดียว แต่มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทาง ดีเอสไอ ก็จะดำเนินคดีกับทุกคนเช่นกัน ส่วนการส่งหมายเรียกครั้งที่ 3 ไปที่วัดพระธรรมกาย แต่ไม่รับนั้น ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร แต่ ดีเอสไอ ก็ต้องทำตามหน้าที่และไม่ได้เป็นตัดสินชี้ขาดว่าใครถูกหรือผิด เพราะคดีเด็ดขาดขึ้นอยู่ที่ศาล ก็ไม่แน่ศาลอาจจะตัดสินว่าไม่ผิดก็เป็นได้ ขณะนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ก่อน ถ้าทำถูกต้องมันจะได้เป็นบทเรียนต่อไป ขอให้เชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ผลจะออกมาอย่างไรต้องยอมรับ