ผู้จัดการรายวัน360 - ครม.ผ่านร่างกฎหมายให้ทยอยลดการคุ้มครองเงินฝากถึง 10 ส.ค.63 ทำให้หลัง 10 ส.ค.59 จากที่คุ้มครองแค่ 1 ล้าน เพิ่มเป็น 15 ล้าน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดจำนวนเงินฝากทีได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป ในส่วนของกฎหมายฉบับแรกนั้น สาระสำคัญมีการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจสถาบันคุ้มครองเงินฝากจากเดิมกำหนดให้หารายได้จากการออกตั๋วเงิน พันธมิตร และตราสารหนี้ มาเป็นการให้กู้ยืมเงินได้ด้วย รวมทั้งเพิ่มการให้คุ้มครองสิทธิประชาชน และการอำนวยความสะดวก หากสถาบันการเงินเกิดปัญหาต้องปิดตัวและไม่สามารถเบิกเงินออกมาได้ ผู้ฝากไม่จำเป็นต้องยื่นคำขอ แต่ทางสถาบันประกันเงินฝากจะจ่ายเงินคืนให้ภายใน 7 วัน
ส่วนร่าง พ.ร.ฎ.อีกฉบับนั้น มีการแก้ไขข้อกำหนดเดิมที่ให้ลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกินรายละไม่เกิน 1 บัญชีและวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท หลังจากวันที่ 10 ส.ค.59 เนื่องจากกระทรวงการคลังได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่าควรปรับปรุงให้ค่อยๆ ทยอยลดระดับการคุ้มครองลงเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกแห่ถอนเงิน
ดังนั้น ตามร่างกฎหมายฉบับใหม่จึงกำหนดให้ หลังจากวันที่ 10 ส.ค.59 หรือตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.59 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 ส.ค.61 ให้มีการคุ้มครองเงินฝากรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท จากก่อนหน้านั้นจะคุ้มครองไม่เกิน 25 ล้านบาท , วันที่ 11 ส.ค.61 ถึงวันที่ 10 ส.ค.62 จะให้ความคุ้มครองรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท, วันที่ 11 ส.ค.62 ถึงวันที่ 10 ส.ค.63 จะให้ความคุ้มครองรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ก่อนจะปรับลดเป็น 1 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.63 เป็นต้นไป
"คนที่มีเงินฝาก วันนี้ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ มีกฎหมายนี้ออกมา สถาบันคุ้มครองเงินฝากยังรับประกันเงินฝากของท่านที่ฝากไว้ในธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย 15 ล้าน 10 ล้าน 5 ล้าน และ 1 ล้าน ตามช่วงระยะเวลา" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ.
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และ ร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดจำนวนเงินฝากทีได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป ในส่วนของกฎหมายฉบับแรกนั้น สาระสำคัญมีการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจสถาบันคุ้มครองเงินฝากจากเดิมกำหนดให้หารายได้จากการออกตั๋วเงิน พันธมิตร และตราสารหนี้ มาเป็นการให้กู้ยืมเงินได้ด้วย รวมทั้งเพิ่มการให้คุ้มครองสิทธิประชาชน และการอำนวยความสะดวก หากสถาบันการเงินเกิดปัญหาต้องปิดตัวและไม่สามารถเบิกเงินออกมาได้ ผู้ฝากไม่จำเป็นต้องยื่นคำขอ แต่ทางสถาบันประกันเงินฝากจะจ่ายเงินคืนให้ภายใน 7 วัน
ส่วนร่าง พ.ร.ฎ.อีกฉบับนั้น มีการแก้ไขข้อกำหนดเดิมที่ให้ลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือไม่เกินรายละไม่เกิน 1 บัญชีและวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท หลังจากวันที่ 10 ส.ค.59 เนื่องจากกระทรวงการคลังได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่าควรปรับปรุงให้ค่อยๆ ทยอยลดระดับการคุ้มครองลงเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกแห่ถอนเงิน
ดังนั้น ตามร่างกฎหมายฉบับใหม่จึงกำหนดให้ หลังจากวันที่ 10 ส.ค.59 หรือตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.59 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 ส.ค.61 ให้มีการคุ้มครองเงินฝากรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท จากก่อนหน้านั้นจะคุ้มครองไม่เกิน 25 ล้านบาท , วันที่ 11 ส.ค.61 ถึงวันที่ 10 ส.ค.62 จะให้ความคุ้มครองรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท, วันที่ 11 ส.ค.62 ถึงวันที่ 10 ส.ค.63 จะให้ความคุ้มครองรายละไม่เกิน 1 บัญชี และวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ก่อนจะปรับลดเป็น 1 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.63 เป็นต้นไป
"คนที่มีเงินฝาก วันนี้ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ มีกฎหมายนี้ออกมา สถาบันคุ้มครองเงินฝากยังรับประกันเงินฝากของท่านที่ฝากไว้ในธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย 15 ล้าน 10 ล้าน 5 ล้าน และ 1 ล้าน ตามช่วงระยะเวลา" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ.