เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(5)กลุ่มสมาชิกสหภาพและนักศึกษาจำนวน 5,000 คนรวมตัวประท้วงบนถนนกลางกรุงปารีส ประกาศไม่เอากฎหมายแรงงานฝรั่งเศสฉบับใหม่ที่กำหนดให้ลูกจ้างพาร์ทไทม์มีเวลาการทำงานนานขึ้น แต่กลับได้รับค่าจ้างน้อยลง โดยการประท้วงเต็มไปด้วยควันไฟ และความรุนแรง มีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงที่มีก้อนอิฐ ระเบิดเพลิงและระเบิดสีเป็นอาวุธกับตำรวจปราบจลาจลปารีสที่ถือกระบองและยิงแก๊สน้ำตา ส่งผลให้มีผู้ถูกจับกุมตัว 130 คน
เดลิเมลรายงานเมื่อวานนี้(5)ว่า ในวันอังคาร(5)เกิดการประท้วงในกรุงปารีส รวมไปถึงเมืองอื่นๆทั่วฝรั่งเศสจากความไม่พอใจของกลุ่มสหภาพแรงงาน และนักศึกษาฝรั่งเศสในกฎหมายแรงงานใหม่ที่ถูกเสนอเข้ามาโดยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฝรั่งเศส มิเรียม เอล กอมรี (Myriam El Khomri) ในช่วงต้นเดือนมีนาคมล่าสุด RT สื่อรัสเซียรายงาน ซึ่งเป็นความพยายามของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ต้องการแก้ปัญหาอัตราว่างงานสูงของฝรั่งเศส
ซึ่งในกฎหมายแรงงานใหม่ของฝรั่งเศสนี้กำหนดให้ลดอัตราค่าแรงของลูกจ้างพาร์ทไทม์ลง
โดยในร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้จ่ายค่าแรงเพียงแค่ 10% ของอัตราโอที จากแต่เดิมที่ลูกจ้างจะได้ค่าแรงโอที 25% RT รายงานต่อ
นอกจากนี้ในกฎหมายฉบับนี้ยังต้องการให้ลูกจ้างพาร์ทไทม์ต้องทำงานให้นานกว่า 35 ชม./สัปดาห์อีกด้วย
อย่างไรก็ตามในการประท้วงกลางกรุงปารีสเมื่อวานนี้(5) ความรุนแรงได้เปิดฉากขึ้นบริเวณจัตุรัส ปลาซ เดอ ลา บาสตีย์ (Place de la Bastille) ซึ่งปารีสได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเข้าควบคุมสถานการณ์ถึง 3,500 นาย ต่อผู้ประท้วงที่ผู้จัดงานให้ตัวเลขเข้าร่วมราว 5,000 คน แต่ตำรวจฝรั่งเศสระบุว่ามีผู้ประท้วงเข้าร่วมเพียง 3,500 คนเท่านั้น
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า เกิดการปะทะขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มประท้วงหัวรุนแรงที่ใช้ทั้งก้อนอิฐ ระเบิดเพลิงและระเบิดสีเป็นอาวุธกับตำรวจปราบจลาจลปารีสร่วม 3,500 นายที่มีทั้งกระบองและแก๊สน้ำตาเป็นอาวุธ ถูกส่งเข้าไปควบคุมความสงบ ส่งผลให้มีผู้ถูกจับกุมตัว 130 คน
คาโรล บลังค์ (Carole Blanc) ผู้นำนักศึกษาฝรั่งเศสวัย 24 ปีกล่าวด้วยความฉุนเฉียวว่า “เราต่างโมโหที่เห็นรัฐบาลโซเชียลลิสบริหารประเทศอย่างที่เป็นอยู่ และเรามีความชอบธรรมในการออกมาประท้วง” และบลังค์ยังกล่าวต่อว่า “พวกเราจำนวนมากมารวมตัวในวันนี้ แต่ตำรวจฝรั่งเศสกลับทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาทางป้องกันไม่ให้พวกเราเดินขบวนเรียกร้องได้ และนี่ทำให้เกิดปัญหา”
ซึ่งการประท้วงที่เริ่มต้นจากจัตุรัส ปลาซ เดอ ลา บาสตีย์ และก่อนช่วงบ่ายแก่ของวันอังคาร(5) ฝูงผู้ประท้วงได้ข้ามไปยังฝั่งด้านซ้ายของฝั่งแม่น้ำแซน (Seine) ผู้ประท้วงต่างตะโกนคำขวัญที่ได้ยินอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งในรอบไม่ถึงเดือน “ตำรวจมีอยู่ทุกที่ แต่ความยุติธรรมไม่มีบนถนนทั่วทุกสายของกรุงปารีส”
นอกจากนี้สื่ออังกฤษยังรายงานว่า ห้างร้านต่างๆต้องปิดตัวลงด้วยเกรงจะได้รับความเสียหายจากการประท้วง แต่กระนั้นยังพบว่ามีทรัพย์สินบางส่วนถูกทำลาย ในขณะที่ผู้ประท้วงสายฮาร์ดไลน์พยายามจุดไฟเผารถที่จอดอยู่ข้างทาง และมีรายงานว่าโรงเรียนในเมืองเลวาลัว(Levallois) ไปจนถึงโรงเรียนทางตะวันตกของกรุงปารีส ถูกจุดไฟเผาด้วยฝีมือของผู้ประท้วงนักศึกษาฝรั่งเศส
เดลิเมลรายงานต่อว่า เมื่อวานนี้(5)เป็นวันที่คณะกรรมาธิการรัฐสภาฝรั่งเศสจะเริ่มต้นอภิปรายถึงสาระสำคัญของร่างกฎหมายแรงงานใหม่ฝรั่งเศส
และเมื่อวานนี้(5)ยังเห็นการประท้วงในเมืองต่างๆของฝรั่งเศส เป็นต้นว่า เมืองมาร์แซย์(Marseille) ลีล (Lille) น็องต์ (Nantes) สตราสบูร์ก (Strasbourg) และแรน( Rennes)
RT รายงานว่า โดยเฉพาะในเมืองแรน ตำรวจปราบจลาจลได้ขับไล่ผู้ประท้วงให้ออกจากรางรถไฟด้วยแก๊สน้ำตา ในขณะที่บรรดาผู้ประท้วงต่างขว้างสิ่งของใส่ และทำการปิดการจราจร
สื่ออังกฤษรายงานว่า พบว่านักเรียนฝรั่งเศสมีส่วนสำคัญในการประท้วงกฎหมายแรงงานใหม่ฉบับนี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(31 มี .ค)ที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้ใช้สิ่งกีดขวางปิดทางเข้าออกโรงเรียนมัธยมต่างๆทั่วฝรั่งเศส
ทั้งนี้ถึงแม้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ โอลลองด์ จะออกมากล่าวถึงข้อดีของกฎหมายแรงงานใหม่ที่ว่าจะช่วยทำให้มีการจ้างงานเด็กนักเรียนนักศึกษาเพิ่มมากขึ้นแต่ทว่า ผู้ต่อต้านต่างกล่าวว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้จะทำให้นายจ้างสามารถจ้างงานลูกจ้างใหม่ได้ในอัตราที่แทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย และยังสามารถที่จะไล่ออกเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้บรรดานักเรียนและนักศึกษาฝรั่งเศสยังเห็นว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจมากเกินไป และจะไม่ช่วยทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสแก้ปัญหาการว่างงานที่มีอัตราสูงอยู่ในขณะนี้ โดยพบว่าอัตราว่างงานในหมู่เยาวชนฝรั่งเศสสูงถึง 25%
โดยผู้นำนักเรียนฝรั่งเศส Pierre Monquet ให้ความเห็นว่า ในขณะนี้ฤดูกาลสอบไล่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า แต่อย่างไรก็ตาม Monquet จะหาทางข้ออนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อจัดงานให้มีการสัมมนาวิเคราะห์ถึงกฎหมายแรงงานใหม่ภายในโรงเรียนมัธยมปลายต่างๆทั่วประเทศต่อไป
เดลิเมลรายงานในตอนท้ายว่า ในอนาคตคาดว่าจะมีการจัดการประท้วงเฉพาะในวันเสาร์เป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีฝรั่งเศสจากหลายกระทรวง ซึ่งรวมไปถึงรัฐมนตรีการศึกษาฝรั่งเศส นาชา วัลโลด์-แบลกาซอง (Najat Vallaud-Belkacem) ได้รับปากที่จะหารือปัญหานี้กับกลุ่มตัวแทนนักเรียนนักศึกษาฝรั่งเศส