“จักรทิพย์” ผบ.ตร.น้อมรับคำสั่งผู้บังคับบัญชาหากถูกเด้ง ย้ำไม่ขัดแย้ง รรท.ผบช.น. ส่วนที่ยังไม่ตั้งเป็นตัวจริงเพราะตำแหน่งสำคัญต้องพูดคุยหลายฝ่าย
วานนี้ (18 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวจะมีการโยกย้าย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.กลับตำแหน่งเดิม เนื่องจากไม่สนองนโยบายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ว่า ไม่เห็นมีอะไร ทราบแต่ข่าวว่าจะเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. เห็นหนังสือพิมพ์ลง 2-3 ฉบับช่วงวันหยุด มีแต่จะเปลี่ยนตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใจ ผบ.ตร.อยากเปลี่ยนตัว ผบช.น.หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ถามพวกเราดู ตนยังเอาตัวไม่รอดเลย เมื่อถามว่าจากกระแสข่าวสลับสับเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.ทำให้หวั่นไหวหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ตนเลือกไม่ได้ คนที่ปรับตนได้ก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตนน้อมรับถ้าท่านมีอะไรก็แล้วแต่
ถามต่อว่าได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้กับทั้งสองท่านแล้วหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ และท่านนายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อถามข่าวที่ออกมาว่าจะปลด ผบ.ตร.มาจากไหน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มาจากอาชีพสื่อมวลชนทั้งนั้น ส่วนจะเป็นการเลื่อยขาเก้าอี้หรือไม่นั้น ตนไปคิดแทนคนที่คิดไม่ได้ ต้องไปถามเขา สื่อมวลชนก็จ้องแต่ถามตน สื่อมวลชนก็รู้ว่าควรจะไปถามใคร
“ผมคงไม่ตรวจสอบว่าใครปล่อยข่าวเพราะเสียเวลา ทำงานข้างหน้าดีกว่า งานมีอีกเยอะ ส่วนจะทำให้ผมเสื่อมเสียหรือไม่นั้น ไม่นะ มันมีออกมาตลอดตั้งแต่รับตำแหน่ง อาทิตย์แรกก็เอาแล้ว มีมาเรื่อยๆ ส่วนจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่นั้น ผมถือว่าอโหสิกรรมดีกว่า การให้ทานบารมีดีที่สุด ใครคิดอะไรก็แล้วแต่ว่าไป อาจจะสำเร็จก็ได้สักวันหนึ่ง” ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงกระแสข่าวมีความขัดแย้งกับ รรท.ผบช.น.ว่า ไม่มี ตนเป็นน้องจะไปทะเลาะกับใคร ตนมี 2 สถานะ คือ ผู้บังคับบัญชา และเป็นน้องของพี่ๆ รวมถึงเป็นพี่ของน้องๆ แค่นั้นเอง ในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาก็สั่งงานตามสายงานปกติ แต่ถ้าไม่มีอะไรก็เป็นพี่น้องกัน ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็น ผบช.น.ตัวจริงนั้นต้องรอพูดคุยกันหลายฝ่าย ที่ต้องรอเพราะเป็นตำแหน่งสำคัญ สำหรับตนเองบางทีก็สามารถตัดสินใจได้ ถ้าตนตัดสินใจได้ก็จะตัดสินใจ แต่ถ้ามีอย่างอื่นเข้ามา ตนก็ชะลอเหมือนกัน
ส่วนการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ที่มีการเลื่อนออกไปอีก ผบ.ตร.กล่าวว่า อย่างที่ทราบคือมี พ.ร.บ.และข้อกฎหมาย รวมถึงรายละเอียดเยอะ ถ้าคนไม่รู้แบบปกติผิวเผินจะหาว่ามีปัญหา แต่พอทำไปแล้วมันอาจจะติดนู่นนี่บ้างก็มีการกลับมาทบทวน อย่าไปฝืนและดันทุรังเพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายเยอะไปหมด ต้องทำให้รอบคอบเท่านั้นเอง ส่วนจะมีปัญหาทุกกองบัญชาการหรือไม่นั้น ไม่ใช่ทุกกองบัญชาการมีปัญหา แต่โดยระเบียบข้อกฎหมาย ส่วนหนังสือที่ออกมาว่ามีการลักลั่นตำแหน่งนั้น คือบางภาคเปิดเยอะ บางภาคเปิดน้อย ตนเคยอธิบายไปแล้ว
เมื่อถามว่าจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญหรือไม่ที่เลื่อนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องขวัญกำลังใจ เป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว ส่วนสิทธิคนที่ตำแหน่งสูงขึ้นหายไปนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน ก็เหมือนกับเงินเดือน ถามว่าเดือนนี้ทำไมไม่ได้ ก็ต้องรอตกเบิก ถามว่าหายไปไหนหรือเปล่า เคยได้ยินคำว่าตกเบิกไหม ก็คล้ายๆ กัน ส่วนเรื่องเสียกำลังใจคิดว่าตนเสียอีกที่ถูกเลื่อยทุกวัน
“ผมไม่มีอะไร ยอมรับได้ถ้าจะถูกโยกย้าย ถ้าในเมื่อผมไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ ส่วนจะมองว่าไวไปไหมยังไม่ถึง 1 ปีนั้น มันไม่ไวหรอกสำหรับผู้บังคับบัญชาที่เขาจะตัดสินใจ ผมน้อมรับ ผมมีวินัยอยู่แล้ว ท่านให้ไปไหนผมก็ไปหมด แต่บางคนไม่ค่อยมีวินัย คิดนู่นคิดนี่คิดนั่นอย่างที่เป็นข่าว และสื่อมวลชนก็ถามผมทุกวัน บางสื่อก็ลงถล่มผมจนรับโทรศัพท์ไม่ไหวในช่วงวันหยุด จะไปตรวจก็ไม่ได้เลย จะออกไปทำไมเดี๋ยวก็ถูกปลดแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ถามว่าน้อยใจหรือไม่ ก็ไม่นะ ถ้าน้อยใจ ผมจะน้อยใจลูกน้องผม ผู้ใต้บังคับบัญชาเยอะแยะไปหมด ผมเป็นผู้นำองค์กรจะแสดงความท้อแท้ได้อย่างไร แต่อะไรที่จะเกิดขึ้นน้อมรับอยู่แล้ว” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถามต่อว่ามีขบวนการที่จะทำให้ ผบ.ตร.ลงจากตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ขบวนการอะไร ขบวนการโรฮีนจาหรือค้ามนุษย์ ตนว่าสื่อมวลชนที่ส่องกล้องหาตนรู้ทุกคน ส่วนจะมีขบวนการจ้องทำลายหรือไม่นั้น ไม่รู้ ถามต่อว่าดูเหมือน ผบ.ตร.จะมั่นใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนไม่ได้มั่นใจเลย ก็เหมือนตอนแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. สื่อมวลชนถามว่ามั่นใจหรือไม่ ตนก็ตอบว่ามั่นใจแค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยคิดจะเป็นแชมป์ว่าต้องอยู่ครบ 4-5 ปี ตนพร้อมอยู่และพร้อมไป อยู่เท่าที่อยู่ ไม่ได้ตกใจและเสียใจอะไร ส่วนเรื่องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ
ถามต่อว่าเป็นถึง ผบ.ตร.เป็นผู้นำเหล่าทัพ ต้องมีข้อมูลประเภทนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็มีอยู่แล้ว ไม่รู้ข่าวบางทีตนอาจจะผิดนะ ส่วนที่บอกว่าอยู่วงการข่าวมาทั้งชีวิตนั้นก็คิดเอาว่าตนจะรู้หรือไม่รู้ ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร
เมื่อถามว่าผู้ใหญ่ได้มีการเรียกไปพูดคุยถึงกระแสข่าวที่ออกมาหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มี ส่วนที่ไปอวยพร พล.อ.ประวิตร ที่บ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้นก็ไปรดน้ำผู้ใหญ่เป็นปกติ ผู้ใหญ่ก็ไม่เคยถามไม่เคยอะไรเลย แต่ถ้าได้ไปจริงๆ นั้น ตนก็ไปบ้าน และไม่เล่นการเมือง ถามต่อว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ เลยใช่ไหม พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าตนมีประโยชน์ก็จะไป ถ้าไม่มีประโยชน์ก็ไม่ไป ผมก็กลับบ้าน หมายถึงถ้าถูกปลด “อย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้มาก ผมจะถูกปลดทุกเดือนนั่นแหละ มันอาจจะเป็นสักเดือนก็ได้ อาจจะสมใจนึกพวกท่านก็ได้ ใครที่แอบเชียร์ใครอยู่ผมรู้หมด คนถามประเด็นนี้แอบเชียร์ใครก็รู้อยู่ รู้หมดใครไปไหนมาไหน ในเขามีเรา ในเรามีเขา จำไว้แล้วกัน อย่านึกว่าในเขาไม่มีคนของผม คนของผมก็อาจมีคนของเขาอยู่” ผบ.ตร.กล่าว พร้อมหัวเราะตลอดเวลา
วานนี้ (18 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวจะมีการโยกย้าย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.กลับตำแหน่งเดิม เนื่องจากไม่สนองนโยบายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ว่า ไม่เห็นมีอะไร ทราบแต่ข่าวว่าจะเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. เห็นหนังสือพิมพ์ลง 2-3 ฉบับช่วงวันหยุด มีแต่จะเปลี่ยนตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใจ ผบ.ตร.อยากเปลี่ยนตัว ผบช.น.หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ถามพวกเราดู ตนยังเอาตัวไม่รอดเลย เมื่อถามว่าจากกระแสข่าวสลับสับเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.ทำให้หวั่นไหวหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ตนเลือกไม่ได้ คนที่ปรับตนได้ก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตนน้อมรับถ้าท่านมีอะไรก็แล้วแต่
ถามต่อว่าได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้กับทั้งสองท่านแล้วหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ และท่านนายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อถามข่าวที่ออกมาว่าจะปลด ผบ.ตร.มาจากไหน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มาจากอาชีพสื่อมวลชนทั้งนั้น ส่วนจะเป็นการเลื่อยขาเก้าอี้หรือไม่นั้น ตนไปคิดแทนคนที่คิดไม่ได้ ต้องไปถามเขา สื่อมวลชนก็จ้องแต่ถามตน สื่อมวลชนก็รู้ว่าควรจะไปถามใคร
“ผมคงไม่ตรวจสอบว่าใครปล่อยข่าวเพราะเสียเวลา ทำงานข้างหน้าดีกว่า งานมีอีกเยอะ ส่วนจะทำให้ผมเสื่อมเสียหรือไม่นั้น ไม่นะ มันมีออกมาตลอดตั้งแต่รับตำแหน่ง อาทิตย์แรกก็เอาแล้ว มีมาเรื่อยๆ ส่วนจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่นั้น ผมถือว่าอโหสิกรรมดีกว่า การให้ทานบารมีดีที่สุด ใครคิดอะไรก็แล้วแต่ว่าไป อาจจะสำเร็จก็ได้สักวันหนึ่ง” ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงกระแสข่าวมีความขัดแย้งกับ รรท.ผบช.น.ว่า ไม่มี ตนเป็นน้องจะไปทะเลาะกับใคร ตนมี 2 สถานะ คือ ผู้บังคับบัญชา และเป็นน้องของพี่ๆ รวมถึงเป็นพี่ของน้องๆ แค่นั้นเอง ในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาก็สั่งงานตามสายงานปกติ แต่ถ้าไม่มีอะไรก็เป็นพี่น้องกัน ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็น ผบช.น.ตัวจริงนั้นต้องรอพูดคุยกันหลายฝ่าย ที่ต้องรอเพราะเป็นตำแหน่งสำคัญ สำหรับตนเองบางทีก็สามารถตัดสินใจได้ ถ้าตนตัดสินใจได้ก็จะตัดสินใจ แต่ถ้ามีอย่างอื่นเข้ามา ตนก็ชะลอเหมือนกัน
ส่วนการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2558 ที่มีการเลื่อนออกไปอีก ผบ.ตร.กล่าวว่า อย่างที่ทราบคือมี พ.ร.บ.และข้อกฎหมาย รวมถึงรายละเอียดเยอะ ถ้าคนไม่รู้แบบปกติผิวเผินจะหาว่ามีปัญหา แต่พอทำไปแล้วมันอาจจะติดนู่นนี่บ้างก็มีการกลับมาทบทวน อย่าไปฝืนและดันทุรังเพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายเยอะไปหมด ต้องทำให้รอบคอบเท่านั้นเอง ส่วนจะมีปัญหาทุกกองบัญชาการหรือไม่นั้น ไม่ใช่ทุกกองบัญชาการมีปัญหา แต่โดยระเบียบข้อกฎหมาย ส่วนหนังสือที่ออกมาว่ามีการลักลั่นตำแหน่งนั้น คือบางภาคเปิดเยอะ บางภาคเปิดน้อย ตนเคยอธิบายไปแล้ว
เมื่อถามว่าจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญหรือไม่ที่เลื่อนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องขวัญกำลังใจ เป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว ส่วนสิทธิคนที่ตำแหน่งสูงขึ้นหายไปนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน ก็เหมือนกับเงินเดือน ถามว่าเดือนนี้ทำไมไม่ได้ ก็ต้องรอตกเบิก ถามว่าหายไปไหนหรือเปล่า เคยได้ยินคำว่าตกเบิกไหม ก็คล้ายๆ กัน ส่วนเรื่องเสียกำลังใจคิดว่าตนเสียอีกที่ถูกเลื่อยทุกวัน
“ผมไม่มีอะไร ยอมรับได้ถ้าจะถูกโยกย้าย ถ้าในเมื่อผมไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ ส่วนจะมองว่าไวไปไหมยังไม่ถึง 1 ปีนั้น มันไม่ไวหรอกสำหรับผู้บังคับบัญชาที่เขาจะตัดสินใจ ผมน้อมรับ ผมมีวินัยอยู่แล้ว ท่านให้ไปไหนผมก็ไปหมด แต่บางคนไม่ค่อยมีวินัย คิดนู่นคิดนี่คิดนั่นอย่างที่เป็นข่าว และสื่อมวลชนก็ถามผมทุกวัน บางสื่อก็ลงถล่มผมจนรับโทรศัพท์ไม่ไหวในช่วงวันหยุด จะไปตรวจก็ไม่ได้เลย จะออกไปทำไมเดี๋ยวก็ถูกปลดแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ถามว่าน้อยใจหรือไม่ ก็ไม่นะ ถ้าน้อยใจ ผมจะน้อยใจลูกน้องผม ผู้ใต้บังคับบัญชาเยอะแยะไปหมด ผมเป็นผู้นำองค์กรจะแสดงความท้อแท้ได้อย่างไร แต่อะไรที่จะเกิดขึ้นน้อมรับอยู่แล้ว” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถามต่อว่ามีขบวนการที่จะทำให้ ผบ.ตร.ลงจากตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ขบวนการอะไร ขบวนการโรฮีนจาหรือค้ามนุษย์ ตนว่าสื่อมวลชนที่ส่องกล้องหาตนรู้ทุกคน ส่วนจะมีขบวนการจ้องทำลายหรือไม่นั้น ไม่รู้ ถามต่อว่าดูเหมือน ผบ.ตร.จะมั่นใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนไม่ได้มั่นใจเลย ก็เหมือนตอนแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. สื่อมวลชนถามว่ามั่นใจหรือไม่ ตนก็ตอบว่ามั่นใจแค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยคิดจะเป็นแชมป์ว่าต้องอยู่ครบ 4-5 ปี ตนพร้อมอยู่และพร้อมไป อยู่เท่าที่อยู่ ไม่ได้ตกใจและเสียใจอะไร ส่วนเรื่องมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ
ถามต่อว่าเป็นถึง ผบ.ตร.เป็นผู้นำเหล่าทัพ ต้องมีข้อมูลประเภทนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็มีอยู่แล้ว ไม่รู้ข่าวบางทีตนอาจจะผิดนะ ส่วนที่บอกว่าอยู่วงการข่าวมาทั้งชีวิตนั้นก็คิดเอาว่าตนจะรู้หรือไม่รู้ ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร
เมื่อถามว่าผู้ใหญ่ได้มีการเรียกไปพูดคุยถึงกระแสข่าวที่ออกมาหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มี ส่วนที่ไปอวยพร พล.อ.ประวิตร ที่บ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้นก็ไปรดน้ำผู้ใหญ่เป็นปกติ ผู้ใหญ่ก็ไม่เคยถามไม่เคยอะไรเลย แต่ถ้าได้ไปจริงๆ นั้น ตนก็ไปบ้าน และไม่เล่นการเมือง ถามต่อว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ เลยใช่ไหม พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าตนมีประโยชน์ก็จะไป ถ้าไม่มีประโยชน์ก็ไม่ไป ผมก็กลับบ้าน หมายถึงถ้าถูกปลด “อย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้มาก ผมจะถูกปลดทุกเดือนนั่นแหละ มันอาจจะเป็นสักเดือนก็ได้ อาจจะสมใจนึกพวกท่านก็ได้ ใครที่แอบเชียร์ใครอยู่ผมรู้หมด คนถามประเด็นนี้แอบเชียร์ใครก็รู้อยู่ รู้หมดใครไปไหนมาไหน ในเขามีเรา ในเรามีเขา จำไว้แล้วกัน อย่านึกว่าในเขาไม่มีคนของผม คนของผมก็อาจมีคนของเขาอยู่” ผบ.ตร.กล่าว พร้อมหัวเราะตลอดเวลา