เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ถล่มเมืองชายฝั่งของเอกวาดอร์เมื่อตอนดึกคืนวันเสาร์ (16 เม.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 77 คน บาดเจ็บกว่า 588 คน ขณะที่ญี่ปุ่นเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหวใหญ่ทั้งสองครั้งบนเกาะคิวชู หวั่นดินถล่มเพิ่มเนื่องจากยังเกิดอาฟเตอร์ช็อคต่อเนื่อง
แผ่นดินไหวรุนแรงซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณนอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเอกวาดอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.58 น. วันเสาร์ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (เวลาไทย 6.58 น. วันอาทิตย์) ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ถึงกิโต เมืองหลวงของประเทศที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว 170 กิโลเมตร รวมถึงทางเหนือของเปรูและทางใต้ของโคลอมเบีย
ที่กวายากิล ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจการค้าสำคัญของเอกวาดอร์ สะพานแห่งหนึ่งถล่มลงทับรถ ขณะเดียวกันทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 6 จังหวัด
รัฐบาลเอกวาดอร์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดนับจากปี 1979 ที่มีผู้เสียชีวิต 600 คนและบาดเจ็บ 20,000 คน
รองประธานาธิบดีจอร์จี้ กลาส เชื่อว่า ยอดผู้เสียชีวิตยังจะเพิ่มขึ้นจากยอดล่าสุด 77 คนที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากหน่วยกู้ภัยเข้าถึงพื้นที่ที่ประสบเหตุรุนแรงที่สุด อาทิ เปเดอร์นาเลส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล
เกเบรียล อัลซิวาร์ นายกเทศมนตรีเปเดอร์นาเลส ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (17) ว่า หลายหมู่บ้านในเมืองถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง และขอให้รัฐบาลกลางส่งรถตักและทีมกู้ภัยฉุกเฉินไปช่วยประชาชนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
รามอน โซลอร์ซาโน ผู้ขายชิ้นส่วนรถยนต์ในเมืองมันตา เล่าว่า คนส่วนใหญ่กรูกันไปที่ถนนก่อนไปหาที่หลบในที่สูง และเสริมว่า ถนนหลายสายมีรอยแตกเป็นทางยาว ไฟฟ้าดับ และโทรศัพท์ใช้ไม่ได้
รายงานระบุว่า ศูนย์กลางใต้พิภพของแผ่นดินไหวคราวนี้อยู่ลึก 20 กม. และหลังจากการไหวหลักแล้วยังตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 55 ครั้ง โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า มีครั้งหนึ่งวัดความแรงได้ถึงระดับ 6 และทางการเอกวาดอร์เตือนให้ประชาชนระวังว่า อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรงในช่วงหลายชั่วโมงหรือหลายวันนับจากนี้
ทางด้านประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และร่นเวลาการเยือนวาติกันเพื่อกลับไปบัญชาการปฏิบัติการกู้ภัย ผู้นำเอกวาดอร์ยังเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและสมัครสมานสามัคคี และว่า ทีมกู้ภัยจากเม็กซิโกและโคลอมเบียกำลังเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัย
สำนักงานจัดการความเสี่ยงของเอกวาดอร์เผยว่า ทหาร 10,000 นายถูกส่งไปช่วยกู้ภัย นอกจากนี้ยังมีการส่งตำรวจ 3,500 นายไปยังเมืองมานาบี, เอสเมอรัลดาส, กวายาส, และซานตาเอเลนา ขณะที่พนักงานดับเพลิง 500 คนมุ่งหน้าไปยังมานาบีและเปเดอร์นาเลส รวมทั้งมีการตั้งศูนย์พักพิง 5 แห่งสำหรับประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ที่มันตา สนามบินถูกปิด หลังจากหอบังคับการบินถล่ม ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน 1 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้น ยังมีการยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาทั่วประเทศ
มีรายงานว่า พื้นที่ในเมืองหลวงของเอกวาดอร์บางส่วนไม่มีไฟฟ้าใช้และไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้นานหลายชั่วโมง อย่างไรก็ดี บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานของกิโตกลับมาใช้ได้อีกครั้ง และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเมืองนี้
ขณะเดียวกันคำเตือนภัยสินามิ ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อคืนวันเสาร์ แต่ประชาชนตามริมชายฝั่งได้รับคำแนะนำให้ขึ้นไปหลบภัยในที่สูงหากเห็นกระแสน้ำผิดปกติ
การผลิตน้ำมันของเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกรายหนึ่งของโอเปก ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่โรงกลั่นหลักในเอสเมอรัลดาสที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ต้องระงับการผลิตชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ที่อีกฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ที่จังหวัดคุมาโมโตะของญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่เกิดขึ้นบนเกาะคิวชูนับจากวันพฤหัสฯ (14) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน บาดเจ็บกว่าพันคน และมีความเสียหายในวงกว้าง
ไม่เพียงเท่านั้น ในวันอาทิตย์ (17) ยังมีรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ขึ้นที่บริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของตองกา ประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทว่าในช่วงเฉพาะหน้าหลังเกิดธรณีพิโรธ ยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายใดๆ
***หน่วยกู้ภัยญี่ปุ่นเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต
ที่ญี่ปุ่นยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) อยู่ที่ 41 คน สูญหาย 11 คน และได้รับบาดเจ็บกว่าพันคน นอกจากนั้นทางการยังสั่งอพยพประชาชนเกือบ 250,000 คนออกจากที่พักเนื่องจากเกรงว่า ธรณีอาจพิโรธซ้ำ
ฝนที่ตกลงมาตลอดคืนวันเสาร์ (16) ทั่วเมืองคุมาโมโตะสร้างความยากลำบากยิ่งขึ้นแก่ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (14) และครั้งที่สองที่รุนแรงยิ่งกว่าในช่วงเช้าวันเสาร์ (16) โดยวัดความรุนแรงได้ 7.3 และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 คน บาดเจ็บกว่า 1,000 คน ขณะที่บ้านเรือน ถนน และสะพานเสียหายเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์อยู่ใกล้เมืองคุมาโมโตะ ขณะที่จุดศูนย์ใต้พิภพอยู่ที่ความลึกเพียงแค่ 10 กม.
ในเมืองมาชิกิ ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก เหลือบ้านไม้แบบดั้งเดิมไม่กี่หลังที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ ผู้รอดชีวิตบางคนเล่าว่า ต้องนอนในรถและหลบอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราว
มาซาโนริ มาซูดะ วัย 59 ปี บอกว่า จำใจต้องหิ้วถังน้ำเข้าไปใช้ห้องน้ำในบ้านของตัวเองที่พังยับ แม้กลัวบ้านจะทรุดลงมาทับก็ตาม
แผ่นดินไหวสองครั้งทำให้เกิดดินถล่มทับบ้านเรือน ถนน และทางรถไฟ แม้แต่อาคารทันสมัยยังทลายลงมา ประชาชนกว่า 90,000 คนต้องอพยพออกจากที่พัก รวมถึง 300 คนที่อยู่ใกล้เขื่อนที่มีความเสี่ยงว่าจะแตก
หมู่บ้านห่างไกลในแถบเทือกเขาถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงจากดินถล่มและถนนที่เสียหาย เชื่อว่า ประชาชนอย่างน้อย 500 คนติดอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น
ทางการญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันเสาร์ (16) ว่า มีหลายพื้นที่ที่ประชาชนถูกฝังทั้งเป็น และรายงานบ่งชี้ว่า มีผู้สูญหายจำนวนมาก แต่ตัวเลขดังกล่าวถูกลดทอนลงในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (17)
ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะประกาศว่า ทหาร พนักงานดับเพลิง และหน่วยกู้ภัยประมาณ 25,000 คนของญี่ปุ่น จะร่วมปฏิบัติการกู้ภัยโดยที่กองทัพสหรัฐฯ อาสาสนับสนุนการขนส่งทางอากาศ
นับจากแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาราว 400 ครั้งที่คุมาโมโตะและส่วนอื่นๆ ของเกาะกิวชู ซึ่งไม่ค่อยคุ้นเคยกับแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น
เหตุธรณีพิโรธเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้อาคารเก่าหลายหลังเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 9 คน แต่แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ทำให้กระทั่งโครงสร้างใหม่กว่าก็งทลาย ซึ่งรวมถึงอาคารเทศบาลในเมืองอูโตะ รวมแผ่นดินไหวสองครั้งมีผู้เสียชีวิต 41 คน สูญหาย 6 คน ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมื่อวันเสาร์
ทว่า สื่อท้องถิ่นรายงานยอดผู้สูญหายที่ 8 คน และต่อมาก็ปรับขึ้นอีกเป็น 11 คน
ขณะเดียวกัน มีผู้บาดเจ็บกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้ 184 คนบาดเจ็บสาหัส
คุมาโมโตะเป็นฮับการผลิตทางอุตสาหกรรมแห่งสำคัญ โรงงานของของบริษัทหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโตโยต้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์ และโซนี่ ต้องระงับการผลิตเพื่อประเมินความเสียหาย
เช่นเดียวกัน สายการบินพาณิชย์ที่เดินทางไปยังและออกจากสนามบินคุมาโมโตะที่ได้รับความเสียหาย ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด และขบวนรถไฟหัวกระสุนต้องระงับการให้บริการ ขณะที่ระบบทางด่วนปิดให้บริการเป็นวงกว้างเนื่องจากดินถล่มและพื้นผิวถนนหลายสายมีรอยแยก สร้างปัญหาต่อการจัดส่งอาหารและน้ำให้ผู้รอดชีวิต
ในวันอาทิตย์ หน่วยกู้ภัยรีบเร่งค้นหาประชาชนหลายสิบคนที่เชื่อว่า ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
บริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงเอ็นเอชเคของทางการรายงานว่า ประชาชน 11 คนในหมู่บ้านมินามิอาโสะ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ยังขาดการติดต่อ แต่หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยนักศึกษา 10 คนออกจากซากอพาร์ตเมนต์ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในชุมชนดังกล่าวออกมาได้ในวันเสาร์
เอ็นเอชเคยังรายงานว่า ประชาชนราว 240,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เนื่องจากกลัวว่า ดินอาจถล่มลงอีก
ทางด้านบริษัทไฟฟ้า คิวชู อิเล็กทริก พาวเวอร์เผยว่า บ้านเรือนราว 80,000 หลังยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และประมาณ 320,000 หลังยังไม่มีน้ำประปาใช้
ญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีอยู่บนเปลือกโลกที่มีการเคลื่อนตัวมากที่สุด ได้เผชิญแผ่นดินไหวใต้ทะเลครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2011 ที่ทำให้เกิดสึนามิถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายราว 18,500 คน และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงงานฟูกูชิมะหลายเตาหลอมละลาย กลายเป็นอุบัติเหตุเกี่ยวกับพลังงานปรมาณูครั้งร้ายแรงที่สุดในชั่วอายุคนของญี่ปุ่น
สำหรับครั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่า โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ยังทำงานอยู่เพียงแห่งเดียวคือทางตะวันตกเฉียงใต้ของศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ ไม่ได้รับผลกระทบ กระนั้น สำนักงานควบคุมนิวเคลียร์นัดประชุมพิเศษในวันจันทร์ (18) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
ขณะที่ฮารูฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวในงานประชุมจี20 ที่วอชิงตันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด แต่ยืนยันว่า ธนาคารในคุมาโมโตะสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ
กระนั้น ยูเอสจีเอสประเมินว่า มีแนวโน้ม 72% ที่จะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์ แต่สำทับว่า เร็วเกินไปที่จะให้ตัวเลขที่แน่นอน.
แผ่นดินไหวรุนแรงซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณนอกชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเอกวาดอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.58 น. วันเสาร์ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (เวลาไทย 6.58 น. วันอาทิตย์) ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ถึงกิโต เมืองหลวงของประเทศที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว 170 กิโลเมตร รวมถึงทางเหนือของเปรูและทางใต้ของโคลอมเบีย
ที่กวายากิล ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจการค้าสำคัญของเอกวาดอร์ สะพานแห่งหนึ่งถล่มลงทับรถ ขณะเดียวกันทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 6 จังหวัด
รัฐบาลเอกวาดอร์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดนับจากปี 1979 ที่มีผู้เสียชีวิต 600 คนและบาดเจ็บ 20,000 คน
รองประธานาธิบดีจอร์จี้ กลาส เชื่อว่า ยอดผู้เสียชีวิตยังจะเพิ่มขึ้นจากยอดล่าสุด 77 คนที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากหน่วยกู้ภัยเข้าถึงพื้นที่ที่ประสบเหตุรุนแรงที่สุด อาทิ เปเดอร์นาเลส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเล
เกเบรียล อัลซิวาร์ นายกเทศมนตรีเปเดอร์นาเลส ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (17) ว่า หลายหมู่บ้านในเมืองถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง และขอให้รัฐบาลกลางส่งรถตักและทีมกู้ภัยฉุกเฉินไปช่วยประชาชนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
รามอน โซลอร์ซาโน ผู้ขายชิ้นส่วนรถยนต์ในเมืองมันตา เล่าว่า คนส่วนใหญ่กรูกันไปที่ถนนก่อนไปหาที่หลบในที่สูง และเสริมว่า ถนนหลายสายมีรอยแตกเป็นทางยาว ไฟฟ้าดับ และโทรศัพท์ใช้ไม่ได้
รายงานระบุว่า ศูนย์กลางใต้พิภพของแผ่นดินไหวคราวนี้อยู่ลึก 20 กม. และหลังจากการไหวหลักแล้วยังตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 55 ครั้ง โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า มีครั้งหนึ่งวัดความแรงได้ถึงระดับ 6 และทางการเอกวาดอร์เตือนให้ประชาชนระวังว่า อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรงในช่วงหลายชั่วโมงหรือหลายวันนับจากนี้
ทางด้านประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และร่นเวลาการเยือนวาติกันเพื่อกลับไปบัญชาการปฏิบัติการกู้ภัย ผู้นำเอกวาดอร์ยังเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและสมัครสมานสามัคคี และว่า ทีมกู้ภัยจากเม็กซิโกและโคลอมเบียกำลังเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัย
สำนักงานจัดการความเสี่ยงของเอกวาดอร์เผยว่า ทหาร 10,000 นายถูกส่งไปช่วยกู้ภัย นอกจากนี้ยังมีการส่งตำรวจ 3,500 นายไปยังเมืองมานาบี, เอสเมอรัลดาส, กวายาส, และซานตาเอเลนา ขณะที่พนักงานดับเพลิง 500 คนมุ่งหน้าไปยังมานาบีและเปเดอร์นาเลส รวมทั้งมีการตั้งศูนย์พักพิง 5 แห่งสำหรับประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ที่มันตา สนามบินถูกปิด หลังจากหอบังคับการบินถล่ม ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน 1 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้น ยังมีการยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาทั่วประเทศ
มีรายงานว่า พื้นที่ในเมืองหลวงของเอกวาดอร์บางส่วนไม่มีไฟฟ้าใช้และไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้นานหลายชั่วโมง อย่างไรก็ดี บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานของกิโตกลับมาใช้ได้อีกครั้ง และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเมืองนี้
ขณะเดียวกันคำเตือนภัยสินามิ ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อคืนวันเสาร์ แต่ประชาชนตามริมชายฝั่งได้รับคำแนะนำให้ขึ้นไปหลบภัยในที่สูงหากเห็นกระแสน้ำผิดปกติ
การผลิตน้ำมันของเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกรายหนึ่งของโอเปก ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่โรงกลั่นหลักในเอสเมอรัลดาสที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ต้องระงับการผลิตชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ที่อีกฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.3 ที่จังหวัดคุมาโมโตะของญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่เกิดขึ้นบนเกาะคิวชูนับจากวันพฤหัสฯ (14) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน บาดเจ็บกว่าพันคน และมีความเสียหายในวงกว้าง
ไม่เพียงเท่านั้น ในวันอาทิตย์ (17) ยังมีรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ขึ้นที่บริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของตองกา ประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทว่าในช่วงเฉพาะหน้าหลังเกิดธรณีพิโรธ ยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายหรือความเสียหายใดๆ
***หน่วยกู้ภัยญี่ปุ่นเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต
ที่ญี่ปุ่นยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) อยู่ที่ 41 คน สูญหาย 11 คน และได้รับบาดเจ็บกว่าพันคน นอกจากนั้นทางการยังสั่งอพยพประชาชนเกือบ 250,000 คนออกจากที่พักเนื่องจากเกรงว่า ธรณีอาจพิโรธซ้ำ
ฝนที่ตกลงมาตลอดคืนวันเสาร์ (16) ทั่วเมืองคุมาโมโตะสร้างความยากลำบากยิ่งขึ้นแก่ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (14) และครั้งที่สองที่รุนแรงยิ่งกว่าในช่วงเช้าวันเสาร์ (16) โดยวัดความรุนแรงได้ 7.3 และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 คน บาดเจ็บกว่า 1,000 คน ขณะที่บ้านเรือน ถนน และสะพานเสียหายเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์อยู่ใกล้เมืองคุมาโมโตะ ขณะที่จุดศูนย์ใต้พิภพอยู่ที่ความลึกเพียงแค่ 10 กม.
ในเมืองมาชิกิ ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก เหลือบ้านไม้แบบดั้งเดิมไม่กี่หลังที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ ผู้รอดชีวิตบางคนเล่าว่า ต้องนอนในรถและหลบอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราว
มาซาโนริ มาซูดะ วัย 59 ปี บอกว่า จำใจต้องหิ้วถังน้ำเข้าไปใช้ห้องน้ำในบ้านของตัวเองที่พังยับ แม้กลัวบ้านจะทรุดลงมาทับก็ตาม
แผ่นดินไหวสองครั้งทำให้เกิดดินถล่มทับบ้านเรือน ถนน และทางรถไฟ แม้แต่อาคารทันสมัยยังทลายลงมา ประชาชนกว่า 90,000 คนต้องอพยพออกจากที่พัก รวมถึง 300 คนที่อยู่ใกล้เขื่อนที่มีความเสี่ยงว่าจะแตก
หมู่บ้านห่างไกลในแถบเทือกเขาถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงจากดินถล่มและถนนที่เสียหาย เชื่อว่า ประชาชนอย่างน้อย 500 คนติดอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น
ทางการญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันเสาร์ (16) ว่า มีหลายพื้นที่ที่ประชาชนถูกฝังทั้งเป็น และรายงานบ่งชี้ว่า มีผู้สูญหายจำนวนมาก แต่ตัวเลขดังกล่าวถูกลดทอนลงในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (17)
ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะประกาศว่า ทหาร พนักงานดับเพลิง และหน่วยกู้ภัยประมาณ 25,000 คนของญี่ปุ่น จะร่วมปฏิบัติการกู้ภัยโดยที่กองทัพสหรัฐฯ อาสาสนับสนุนการขนส่งทางอากาศ
นับจากแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาราว 400 ครั้งที่คุมาโมโตะและส่วนอื่นๆ ของเกาะกิวชู ซึ่งไม่ค่อยคุ้นเคยกับแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น
เหตุธรณีพิโรธเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้อาคารเก่าหลายหลังเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 9 คน แต่แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ทำให้กระทั่งโครงสร้างใหม่กว่าก็งทลาย ซึ่งรวมถึงอาคารเทศบาลในเมืองอูโตะ รวมแผ่นดินไหวสองครั้งมีผู้เสียชีวิต 41 คน สูญหาย 6 คน ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมื่อวันเสาร์
ทว่า สื่อท้องถิ่นรายงานยอดผู้สูญหายที่ 8 คน และต่อมาก็ปรับขึ้นอีกเป็น 11 คน
ขณะเดียวกัน มีผู้บาดเจ็บกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้ 184 คนบาดเจ็บสาหัส
คุมาโมโตะเป็นฮับการผลิตทางอุตสาหกรรมแห่งสำคัญ โรงงานของของบริษัทหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโตโยต้า มอเตอร์, นิสสัน มอเตอร์ และโซนี่ ต้องระงับการผลิตเพื่อประเมินความเสียหาย
เช่นเดียวกัน สายการบินพาณิชย์ที่เดินทางไปยังและออกจากสนามบินคุมาโมโตะที่ได้รับความเสียหาย ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด และขบวนรถไฟหัวกระสุนต้องระงับการให้บริการ ขณะที่ระบบทางด่วนปิดให้บริการเป็นวงกว้างเนื่องจากดินถล่มและพื้นผิวถนนหลายสายมีรอยแยก สร้างปัญหาต่อการจัดส่งอาหารและน้ำให้ผู้รอดชีวิต
ในวันอาทิตย์ หน่วยกู้ภัยรีบเร่งค้นหาประชาชนหลายสิบคนที่เชื่อว่า ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
บริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงเอ็นเอชเคของทางการรายงานว่า ประชาชน 11 คนในหมู่บ้านมินามิอาโสะ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ยังขาดการติดต่อ แต่หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยนักศึกษา 10 คนออกจากซากอพาร์ตเมนต์ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในชุมชนดังกล่าวออกมาได้ในวันเสาร์
เอ็นเอชเคยังรายงานว่า ประชาชนราว 240,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เนื่องจากกลัวว่า ดินอาจถล่มลงอีก
ทางด้านบริษัทไฟฟ้า คิวชู อิเล็กทริก พาวเวอร์เผยว่า บ้านเรือนราว 80,000 หลังยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และประมาณ 320,000 หลังยังไม่มีน้ำประปาใช้
ญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีอยู่บนเปลือกโลกที่มีการเคลื่อนตัวมากที่สุด ได้เผชิญแผ่นดินไหวใต้ทะเลครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2011 ที่ทำให้เกิดสึนามิถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายราว 18,500 คน และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงงานฟูกูชิมะหลายเตาหลอมละลาย กลายเป็นอุบัติเหตุเกี่ยวกับพลังงานปรมาณูครั้งร้ายแรงที่สุดในชั่วอายุคนของญี่ปุ่น
สำหรับครั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่า โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ยังทำงานอยู่เพียงแห่งเดียวคือทางตะวันตกเฉียงใต้ของศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ ไม่ได้รับผลกระทบ กระนั้น สำนักงานควบคุมนิวเคลียร์นัดประชุมพิเศษในวันจันทร์ (18) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
ขณะที่ฮารูฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวในงานประชุมจี20 ที่วอชิงตันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด แต่ยืนยันว่า ธนาคารในคุมาโมโตะสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ
กระนั้น ยูเอสจีเอสประเมินว่า มีแนวโน้ม 72% ที่จะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าเกิน 10,000 ล้านดอลลาร์ แต่สำทับว่า เร็วเกินไปที่จะให้ตัวเลขที่แน่นอน.