ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
มหกรรมสงกรานต์ผ่านไปแล้วสำหรับชาวบ้านที่ชอบเล่นสาดน้ำ ปีหนึ่งมีเพียง 3 วัน แต่ละปีเทศกาลสงกรานต์ได้ขยายตัวกินพื้นที่ไปเรื่อยๆ จากที่เคยเล่นเพียงภาคเหนือและบางส่วนของอีสานกว่า 50 ปีก่อน เดี๋ยวนี้จังหวัดไหนไม่มีงานสงกรานต์ถือว่าล้าสมัย ไม่ทันยุค
ตัวเลขของเหยื่ออุบัติเหตุ บาดเจ็บล้มตายมากเท่าไหร่อีกวันสองวันคงได้รู้ ที่แน่ๆ ปีนี้ร้อนจัดจนน่ากลัว เป็นผลของการทำลายธรรมชาติอย่างไร้สติ ขาดจิตสำนึกและภูมิปัญญา เอาแต่ได้ ไม่เกรงกลัวกฎหมายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่รักษากฎหมายอย่างจริงจัง
ผู้กุมอำนาจรัฐไม่รู้สึกร้อนใจกับพื้นที่ป่าถูกทำลาย ไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบบางพวกมุ่งจะแจกสัมปทานเหมืองทองให้เป็นขุมนรกสำหรับคนไทยในอีกหลายจังหวัด
ชีวิตของคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถอยู่รอดข้ามปีใหม่ดั้งเดิม เพราะความประมาทของตัวเองและผู้อื่น ใครไปเที่ยวสงกรานต์ต่างจังหวัดแล้วกลับบ้านโดยสวัสดิภาพถือว่าโชคดีมาก
บ้านเราอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนมีตัวเลขสูงติดอันดับโลก ยิ่งเสพเครื่องดื่มของมึนเมาอย่างไร้สติด้วยแล้ว สังคมไทยกลายเป็นสังคมอันตราย ชีวิตมนุษย์ด้อยค่ายิ่งนัก
แต่ละวันมีอุบัติเหตุเพราะความประมาท ยานพาหนะมีปัญหา และเหตุอื่นๆ จำนวนมากมาย ทำให้คนบ้านเราส่วนหนึ่งไม่อยากเสี่ยง ยอมเสียเงินไปท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยความรู้สึกว่าคุ้มค่าเงินแถมยังได้ประสบการณ์แปลกๆ จากการที่ได้พบปะสังสรรค์กับคนในสังคมต่างชาติ
นี่เป็นเพียงปัญหาด้านอุบัติเหตุ เพราะความประมาท ไร้จิตสำนึกด้านความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น ทั้งบางกลุ่มมีทัศนคติเชิงท้าทายความเสี่ยง จนอาจกลายเป็นการติดนิสัยดั้งเดิม
อะไรทำให้สังคมไทยมีปัญหา เกิดความขัดแย้งในครอบครัวถ้ามีอุบัติเหตุทำให้เสียเงินทองโดยไม่จำเป็น จากสังคมที่รักสนุก ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสวยงาม จนถูกมองว่าเป็น “บ้านนอก”
พื้นฐานทัศนคติของสังคมและรูปแบบการดำรงชีพ ซึมซับจากประสบการณ์ ทำให้เกิดสภาวะท้อแท้ มองไม่เห็นอนาคต ชีวิตในสังคมหนึ่งในประเทศเดียวกันย่อมสะท้อนให้เห็นสังคมอื่นๆ อีกมิติหนึ่ง จนอาจทำให้สังคมที่อยู่ไร้ความสุข ไม่มีอะไรรับประกันชีวิต มวลชนบางกลุ่มกลับขาดสติ
สภาพการณ์ปัจจุบัน ควบคุม บริหาร จัดการโดยคณะทหารยาวนานเกือบ 2 ปีเต็มได้มีอะไรดีขึ้นอย่างมีเนื้อหาสาระอย่างจริงจังหรือไม่ มีมากเพียงพอที่จะทำให้อุ่นใจว่าบ้านเมืองยังมีอนาคต ไม่ได้ตกอยู่ภายไต้อิทธิพลของคณะเสือหิวซ้ำแล้วซ้ำอีก มีอะไรส่อเค้าว่าชีวิตคนไทยจะดีขึ้น
เรื่องพรรค์นี้ต้องให้คนกุมอำนาจรัฐชี้แจงให้ชาวบ้านเห็น รู้สึกได้อย่างจริงจัง
ทุกวันนี้ยังไม่เพียงพอ เมื่อเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งภายไต้รัฐธรรมนูญพิสดาร ทั้งในการทำสนธิสัญญาสัมปทาน กฎบัตร กฎหมาย การลงทุนโดยชาวต่างชาติ
ประเทศไทยติดกับดักอยู่ในวงจรการเมืองอุบาทว์นานเกินไป ผู้นำหลายรุ่นหลายช่วงขาดวิสัยทัศน์อย่างรุนแรง เพราะชีวิตขาดความทันสมัยด้านความคิด แต่ละวันมีแต่เล่นเกมยื้ออำนาจ นับตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ไม่เคยมีรัฐบาลมือปากสะอาด มีแต่โกงมากหรือโกงน้อยเท่านั้น
วัฒนธรรมการโกงก้าวรุดหน้า การแต่งรัฐธรรมนูญ การจำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มีเนื้อหาย้อนเวลาทำให้ชาวบ้านอยู่แบบปลงว่าคณะทหารยุคแล้วยุคเล่ายังไม่สามารถโชว์ความสะอาดสมกับราคาคุยได้ ทำให้ชาวบ้านมองว่าแผ่นดินไทยกำลังเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายคนดีต้องเสียใจ
นั่นเป็นเพราะคณะผู้บริหารบ้านเมืองหลายชุดไม่ยึดมั่นกับขอบเขตของราชอาณาจักร ยอมให้สูญเสียสิทธิในรูปแบบต่างๆ การปล่อยให้คนต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยแทบไร้การควบคุมได้ทำให้คนไทยกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง พิสูจน์ได้อีกครั้งว่าคนรวยกับคนมีอำนาจขาดจิตสำนึกรักชาติ
ชีวิตคนบ้านนี้เมืองนี้ไม่ต้องดิ้นรน ไม่มีภัยคุกคาม ยากดีมีจนอยู่ได้สบายตามอัตภาพ
ประเทศไทยจึงมีแต่คำคุยโวโอ้อวดของนักการเมืองกับผู้กุมอำนาจพิเศษมาจากการประหารรัฐ แต่ละกลุ่มจากไปตามวาระด้วยความมั่งคั่ง มีทรัพย์สินกินอยู่ได้จนถึงรุ่นลูกหลาน ภายไต้กระบวนการยุติธรรมอ่อนล้า อาชญากรการเมืองจึงอยู่ในสังคมนิยมคนร่ำรวยแบบลอยนวล
ชาวบ้านอยู่ในสภาพที่จำยอมเสียภาษี แบกรับภาระหนี้สินท่วมแผ่นดิน ไม่มีวันใช้คืนหมด
หลังจากสงกรานต์ ชาวบ้านต้องรับรู้การเมืองน้ำเน่าในเกมช่วงชิงอำนาจเหมือนเดิม เป็นเพียงผู้มีสิทธิลงคะแนน มอบสิทธิให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดมีโอกาสกอบโกยความมั่งคั่งอีกรอบ
สงกรานต์ปีนี้สนุกชั่วครู่เท่านั้น เป็นช่วงพักผ่อนก่อนจะห้ำหั่นกันอีกรอบระหว่างคณะรัฐประหารกับนักการเมืองในศึกชิงเมือง ใครชนะก็แล้วแต่ ชาวบ้านเป็นผู้แพ้โดยตลอด
ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่าน หรือไม่ผ่านประชามติ อำนาจยังคงอยู่ในมือของคณะประหารรัฐ แต่ละวันเริ่มมีเสียงดัง แสดงให้เห็นความหงุดหงิดเมื่อถูกขัดคอ วิพากษ์วิจารณ์ เพราะผลงานไม่เข้าตาชาวบ้านคนรู้ทันซึ่งยังสงสัยว่าทำไมคณะทหารไม่ทำการปฏิรูปโดยใช้อำนาจพิเศษให้เสร็จสิ้น
บอกว่าต้องให้รัฐบาลใหม่ทำ เหมือนรู้แล้วว่าใครจะเป็นผู้นำ ขณะเดียวกันก็คุยโวว่าที่ผ่านมาการเมืองเลือกตั้งไม่ได้ทำอะไรสำเร็จ แปลกมากที่ยังหวังให้รัฐบาลเลือกตั้งรับภาระงานปฏิรูป
ลีลาแบบนี้แหละ ที่ทำให้ชาวบ้านฉุกคิดว่าอำนาจนั้นเมื่อใครได้เสพแล้ว ยากที่จะละเลิก
โดย โสภณ องค์การณ์
มหกรรมสงกรานต์ผ่านไปแล้วสำหรับชาวบ้านที่ชอบเล่นสาดน้ำ ปีหนึ่งมีเพียง 3 วัน แต่ละปีเทศกาลสงกรานต์ได้ขยายตัวกินพื้นที่ไปเรื่อยๆ จากที่เคยเล่นเพียงภาคเหนือและบางส่วนของอีสานกว่า 50 ปีก่อน เดี๋ยวนี้จังหวัดไหนไม่มีงานสงกรานต์ถือว่าล้าสมัย ไม่ทันยุค
ตัวเลขของเหยื่ออุบัติเหตุ บาดเจ็บล้มตายมากเท่าไหร่อีกวันสองวันคงได้รู้ ที่แน่ๆ ปีนี้ร้อนจัดจนน่ากลัว เป็นผลของการทำลายธรรมชาติอย่างไร้สติ ขาดจิตสำนึกและภูมิปัญญา เอาแต่ได้ ไม่เกรงกลัวกฎหมายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่รักษากฎหมายอย่างจริงจัง
ผู้กุมอำนาจรัฐไม่รู้สึกร้อนใจกับพื้นที่ป่าถูกทำลาย ไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบบางพวกมุ่งจะแจกสัมปทานเหมืองทองให้เป็นขุมนรกสำหรับคนไทยในอีกหลายจังหวัด
ชีวิตของคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถอยู่รอดข้ามปีใหม่ดั้งเดิม เพราะความประมาทของตัวเองและผู้อื่น ใครไปเที่ยวสงกรานต์ต่างจังหวัดแล้วกลับบ้านโดยสวัสดิภาพถือว่าโชคดีมาก
บ้านเราอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนมีตัวเลขสูงติดอันดับโลก ยิ่งเสพเครื่องดื่มของมึนเมาอย่างไร้สติด้วยแล้ว สังคมไทยกลายเป็นสังคมอันตราย ชีวิตมนุษย์ด้อยค่ายิ่งนัก
แต่ละวันมีอุบัติเหตุเพราะความประมาท ยานพาหนะมีปัญหา และเหตุอื่นๆ จำนวนมากมาย ทำให้คนบ้านเราส่วนหนึ่งไม่อยากเสี่ยง ยอมเสียเงินไปท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยความรู้สึกว่าคุ้มค่าเงินแถมยังได้ประสบการณ์แปลกๆ จากการที่ได้พบปะสังสรรค์กับคนในสังคมต่างชาติ
นี่เป็นเพียงปัญหาด้านอุบัติเหตุ เพราะความประมาท ไร้จิตสำนึกด้านความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น ทั้งบางกลุ่มมีทัศนคติเชิงท้าทายความเสี่ยง จนอาจกลายเป็นการติดนิสัยดั้งเดิม
อะไรทำให้สังคมไทยมีปัญหา เกิดความขัดแย้งในครอบครัวถ้ามีอุบัติเหตุทำให้เสียเงินทองโดยไม่จำเป็น จากสังคมที่รักสนุก ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมสวยงาม จนถูกมองว่าเป็น “บ้านนอก”
พื้นฐานทัศนคติของสังคมและรูปแบบการดำรงชีพ ซึมซับจากประสบการณ์ ทำให้เกิดสภาวะท้อแท้ มองไม่เห็นอนาคต ชีวิตในสังคมหนึ่งในประเทศเดียวกันย่อมสะท้อนให้เห็นสังคมอื่นๆ อีกมิติหนึ่ง จนอาจทำให้สังคมที่อยู่ไร้ความสุข ไม่มีอะไรรับประกันชีวิต มวลชนบางกลุ่มกลับขาดสติ
สภาพการณ์ปัจจุบัน ควบคุม บริหาร จัดการโดยคณะทหารยาวนานเกือบ 2 ปีเต็มได้มีอะไรดีขึ้นอย่างมีเนื้อหาสาระอย่างจริงจังหรือไม่ มีมากเพียงพอที่จะทำให้อุ่นใจว่าบ้านเมืองยังมีอนาคต ไม่ได้ตกอยู่ภายไต้อิทธิพลของคณะเสือหิวซ้ำแล้วซ้ำอีก มีอะไรส่อเค้าว่าชีวิตคนไทยจะดีขึ้น
เรื่องพรรค์นี้ต้องให้คนกุมอำนาจรัฐชี้แจงให้ชาวบ้านเห็น รู้สึกได้อย่างจริงจัง
ทุกวันนี้ยังไม่เพียงพอ เมื่อเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งภายไต้รัฐธรรมนูญพิสดาร ทั้งในการทำสนธิสัญญาสัมปทาน กฎบัตร กฎหมาย การลงทุนโดยชาวต่างชาติ
ประเทศไทยติดกับดักอยู่ในวงจรการเมืองอุบาทว์นานเกินไป ผู้นำหลายรุ่นหลายช่วงขาดวิสัยทัศน์อย่างรุนแรง เพราะชีวิตขาดความทันสมัยด้านความคิด แต่ละวันมีแต่เล่นเกมยื้ออำนาจ นับตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ไม่เคยมีรัฐบาลมือปากสะอาด มีแต่โกงมากหรือโกงน้อยเท่านั้น
วัฒนธรรมการโกงก้าวรุดหน้า การแต่งรัฐธรรมนูญ การจำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มีเนื้อหาย้อนเวลาทำให้ชาวบ้านอยู่แบบปลงว่าคณะทหารยุคแล้วยุคเล่ายังไม่สามารถโชว์ความสะอาดสมกับราคาคุยได้ ทำให้ชาวบ้านมองว่าแผ่นดินไทยกำลังเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายคนดีต้องเสียใจ
นั่นเป็นเพราะคณะผู้บริหารบ้านเมืองหลายชุดไม่ยึดมั่นกับขอบเขตของราชอาณาจักร ยอมให้สูญเสียสิทธิในรูปแบบต่างๆ การปล่อยให้คนต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยแทบไร้การควบคุมได้ทำให้คนไทยกลายเป็นพลเมืองชั้นสอง พิสูจน์ได้อีกครั้งว่าคนรวยกับคนมีอำนาจขาดจิตสำนึกรักชาติ
ชีวิตคนบ้านนี้เมืองนี้ไม่ต้องดิ้นรน ไม่มีภัยคุกคาม ยากดีมีจนอยู่ได้สบายตามอัตภาพ
ประเทศไทยจึงมีแต่คำคุยโวโอ้อวดของนักการเมืองกับผู้กุมอำนาจพิเศษมาจากการประหารรัฐ แต่ละกลุ่มจากไปตามวาระด้วยความมั่งคั่ง มีทรัพย์สินกินอยู่ได้จนถึงรุ่นลูกหลาน ภายไต้กระบวนการยุติธรรมอ่อนล้า อาชญากรการเมืองจึงอยู่ในสังคมนิยมคนร่ำรวยแบบลอยนวล
ชาวบ้านอยู่ในสภาพที่จำยอมเสียภาษี แบกรับภาระหนี้สินท่วมแผ่นดิน ไม่มีวันใช้คืนหมด
หลังจากสงกรานต์ ชาวบ้านต้องรับรู้การเมืองน้ำเน่าในเกมช่วงชิงอำนาจเหมือนเดิม เป็นเพียงผู้มีสิทธิลงคะแนน มอบสิทธิให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดมีโอกาสกอบโกยความมั่งคั่งอีกรอบ
สงกรานต์ปีนี้สนุกชั่วครู่เท่านั้น เป็นช่วงพักผ่อนก่อนจะห้ำหั่นกันอีกรอบระหว่างคณะรัฐประหารกับนักการเมืองในศึกชิงเมือง ใครชนะก็แล้วแต่ ชาวบ้านเป็นผู้แพ้โดยตลอด
ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่าน หรือไม่ผ่านประชามติ อำนาจยังคงอยู่ในมือของคณะประหารรัฐ แต่ละวันเริ่มมีเสียงดัง แสดงให้เห็นความหงุดหงิดเมื่อถูกขัดคอ วิพากษ์วิจารณ์ เพราะผลงานไม่เข้าตาชาวบ้านคนรู้ทันซึ่งยังสงสัยว่าทำไมคณะทหารไม่ทำการปฏิรูปโดยใช้อำนาจพิเศษให้เสร็จสิ้น
บอกว่าต้องให้รัฐบาลใหม่ทำ เหมือนรู้แล้วว่าใครจะเป็นผู้นำ ขณะเดียวกันก็คุยโวว่าที่ผ่านมาการเมืองเลือกตั้งไม่ได้ทำอะไรสำเร็จ แปลกมากที่ยังหวังให้รัฐบาลเลือกตั้งรับภาระงานปฏิรูป
ลีลาแบบนี้แหละ ที่ทำให้ชาวบ้านฉุกคิดว่าอำนาจนั้นเมื่อใครได้เสพแล้ว ยากที่จะละเลิก